ทำเนียบ 29 มิ.ย. – รัฐบาลยืนหยัดทำหน้าที่ปกป้องระบอบประชาธิปไตย ชี้แกนนำชุมนุมเรียกหารถถัง “ปฏิวัติ” หวังล้มกระดานการเมืองไทย เชื่อมโยงคำกล่าวของ “ฮุนเซน” ชัดเจนทั้งข่มขู่ยิงขีปนาวุธลงกรุงเทพ ทั้งระบุรัฐบาลปฏิวัติดูแลเขาได้ดีกว่ารัฐบาลชุดนี้ ย้ำหากไทยปฏิวัติอีกครั้ง มีโอกาสจะนำกลับไปสู่เป็น “ประเทศ ด้อยพัฒนา”
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าการชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา เป็นสิทธิในการแสดงออกตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่ในส่วนของเนื้อหาการปลุกระดมและปราศรัยของแกนนำผู้ชุมนุมนั้น ในยุคที่ประเทศไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมา 93 ปีของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขนั้น เห็นเป็นทฤษฎีของประเทศไทยแล้วว่า การปฏิวัติรัฐประหารไม่เคยเป็นคำตอบที่ “ใช่” มาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ละครั้งมีแต่จะฉุดรั้งให้ประเทศถอยหลังลงคลองมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเชื่อว่าหากมีการปกครองด้วยระบอบรัฐประหารอีก ไทยจากประเทศกำลังพัฒนา คงจะถูกปรับไปเป็นประเทศด้อยพัฒนาในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน
นายจิรายุ กล่าวอีกว่าแกนนำหลายคนที่เรียกร้องหารถถังบนเวที เป็นสิ่งที่คนไทยและประเทศไทย ไม่อาจยอมรับได้ แกนนำหลายคนในอดีตปากเคยบอกว่าขอต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นอย่างไร
จึงขอเรียกร้องให้คนไทยท้้งประเทศ ร่วมกันต่อต้านแนวทางดังกล่าว และรู้ทันบุคคลเหล่านี้ ที่แสวงหาอำนาจจากการปฏิวัติ ยึดอำนาจมาตลอด 20 ปี ที่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ต่างเจ็บปวด และเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้จากการเรียกร้องของคนกลุ่มเดิมๆ
“รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชนนอกจากมีหน้าที่จะต้องปกป้องอธิปไตยของประเทศแล้วยังมีหน้าที่หลักสำคัญที่จะต้องปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชนคนไทยทุกคน เราจะรวมใจกันแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะไม่ สนับสนุนการทำปฏิวัติ รัฐประหาร และจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้อีก” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวว่าจากเนื้อหา การปราศรัยเห็นอย่างชัดเจนว่า แกนนำพร้อมที่จะดึงประเทศถอยหลังลงคลองโดยไม่สนใจประชาชนกว่า 70 ล้านคน จะเป็นจะตายหรือจะอยู่กันอย่างไร ท่ามกลางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศ ในภูมิภาคและระดับโลกที่รุมเร้า อีกทั้งการปราศรัย ทำให้เห็นความเชื่อมโยงของแกนนำที่สอดรับกับ ผู้นำกัมพูชา ที่ยุยงปลุกปั่น และก้าวล่วงแทรกแซงคนไทยและประเทศไทยมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ว่าจะสามารถยิงขีปนาวุธได้ถึงกรุงเทพมหานคร การกล่าวว่ารัฐบาลปฏิวัติของไทยสามารถทำงานร่วมกัน กับตนเองได้โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายได้อย่างราบรื่น ซึ่งล้วนแล้วแต่สอดรับกับคำปราศรัย และแนวทางที่กลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมมีความประสงค์จะโค่นล้มรัฐบาลหรือให้มีการปฏิวัติรัฐประหารอันนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ และการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะยืนหยัดในการธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอเรียกร้องให้องค์กรต่างๆ ที่ร่วมกันต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารได้จับมือประสานกันรณรงค์เพื่อต่อต้านกลุ่มบุคคล ที่เรียกร้องให้ทำการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อไม่ให้ประเทศไทยบอบช้ำไปมากกว่านี้ นายจิรายุกล่าว.-314-สำนักข่าวไทย