ผู้สนับสนุน “ซูจี” ชี้การคว่ำบาตรของสหรัฐยังไม่พอ

กองกำลังความมั่นคงเมียนมา ออกปฏิบัติการจับกุมฝ่ายตรงข้ามกองทัพอีกระลอกเมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้ถูกควบคุมตัวหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแพทย์คนหนึ่งที่เข้าร่วมในการรณรงค์ต่อต้านกองทัพด้วยการใช้วิธีอารยะขัดขืน

บุคคลใกล้ชิด “ซูจี” ถูกควบคุมตัวอีก 1 ราย

เจ้าหน้าที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี กล่าววันนี้ว่า บุคคลใกล้ชิดนางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมาถูกกองทัพเมียนมาควบคุมตัวอีก 1 ราย ซึ่งเป็นรายล่าสุดหลังจากที่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

“2 ตัวละครสำคัญการเมืองเมียนมา” กับย้อนข่าวเล่าอดีต

2 ตัวละครสำคัญในสถานการณ์การเมืองเมียนมา คือ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้นำรัฐประหาร และนางออง ซาน ซู จี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศ ทั้งสองเคยเดินทางเยือนประเทศไทยหลายครั้งในวาระสำคัญต่างๆ

ตำรวจเมียนมาใช้กระสุนยางยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วง

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมายิงกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในกรุงเนปิดอว์ ในวันนี้ ในขณะที่ผู้ประท้วงทั่วประเทศเมินคำสั่งห้ามการชุมนุมในหลายพื้นที่

ผู้ประท้วงในเมียนมาเมินคำสั่งห้ามชุมนุม

ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาเมินคำสั่งของกองทัพที่ห้ามการชุมนุม พากันออกไปเดินขบในตามท้องถนนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในนครย่างกุ้งเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน

คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นจะประชุมเรื่องเมียนมา

คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าววานนี้ว่า จะเปิดประชุมวาระพิเศษที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในวันศุกร์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤติการณ์ทางการเมืองในเมียนมา

สหรัฐยืนยันอยู่เคียงข้างประชาชนเมียนมา

สหรัฐกล่าววานนี้ว่าจะอยู่เคียงข้างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชนชาวเมียนมา หลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศข้อจำกัดเรื่องการชุมนุม

“มิน อ่อง หล่าย” ระบุจะจัดเลือกตั้งและมอบอำนาจแก่ผู้ชนะ

พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาหารทหารสูงสุดเมียนมา กล่าววานนี้ว่า รัฐบาลทหารจะจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่และส่งมอบอำนาจการบริหารประเทศให้แก่ผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง

เริ่มแล้ว! ม็อบเมียนมาต้านรัฐประหาร

กทม.8 ก.พ. – ชาวเมียนมาในไทย เริ่มทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารหน้า UN ประจำประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ประจำประเทศไทย เวลาประมาณ 14.30 น. พบว่าเริ่มมีชาวเมียนมาที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยทยอยเดินทางมาจัดกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารในมียนมา พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซานซูจี หญิงชาวเมียนมา เปิดเผยว่า ทำงานเป็นแม่บ้านในไทยมา 20ปี พูดภาษาไทยได้ชัดเจน การชุมนุมก็เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจในประเทศของตนเองร่วมกับชาวเมียนมาอีกหลายคน ยืนยันมาชุมนุมวันนี้ พวกตนไม่ได้นัดหมายกันและไม่ต้องการทำร้ายประเทศไทยหรือก่อความวุ่นวาย เพียงขอพื้นที่ในการแสดงออกเท่านั้น โดยทุกคนยินดีให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่และนั่งอยู่ในพื้นที่ที่จัดเอาไว้ไม่ลงถนนไปปิดการจราจร ส่วนช่วงนี้มีการระบาดของโควิด-19 ก็กังวลแต่ได้พยายามป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่าง ส่วนการรักษาความปลอดภัยที่ทำการ UN มีตำรวจ สน.นางเลิ้ง ยืนสังเกตการณ์และปิดประตูทางเข้าออก โดยเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือผู้ชุมนุม ให้ทำกิจกรรมบริเวณเกาะกลางถนน เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงนับพันชุมนุมต้านรัฐประหารเมียนมา

กระแสการประท้วงการรัฐประหารทคุกรุ่นต่อเนื่องมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ เช้าวันนี้ที่ครบรอบ 1 สัปดาห์การยึดอำนาจ มีผู้ประท้วงหลายร้อยคน

รัฐประหารเมียนมาย้ำความเสี่ยงนักลงทุนจีน

ปักกิ่ง 7 ก.พ.- นักสังเกตการณ์เตือนว่า รัฐประหารในเมียนมาเมื่อไม่กี่วันมานี้ควรเป็นเครื่องเตือนใจนักลงทุนชาวจีนที่จะให้เงินสนับสนุนโครงการในต่างประเทศว่า ควรพิจารณาเรื่องความเสี่ยงทางการเมือง โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจำเป็นต้องมีการสอบทานธุรกิจ นักวิจัยของสถาบันไท่เหอในกรุงปักกิ่งชี้ว่า นางออง ซาน ซู จี ดูเหมือนจะอยู่ในจุดที่มั่นคงมากเพราะอยู่ในอำนาจมา 5 ปี และพรรคของเธอชนะการเลือกตั้ง แต่เมื่อมองให้ลึกลงไปจะเห็นว่ากองทัพยังคงทรงอำนาจและเมียนมายังคงมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์สูงอยู่ บริษัทจีนที่ทำธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีไม่กี่แห่งที่ประเมินความเสี่ยงเมื่อเทียบกับบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพราะชอบที่จะสร้างสัมพันธ์กับรัฐบาลท้องถิ่น ทำให้การลงทุนเปราะบางเมื่อเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจ เรื่องนี้เห็นได้ชัดมากกับการลงทุนในเมียนมาและกัมพูชา กรณีกัมพูชาดูเหมือนมั่นคงเพราะนายกรัฐมนตรีฮุน เซนยังอยู่ในอำนาจอีกนาน แต่ทันทีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจจะเกิดผลกระทบทางสังคม รวมถึงบรรยากาศการลงทุนอย่างใหญ่หลวง นักลงทุนจีนจึงควรประเมินล่วงหน้าอย่างดีและมองในระยะยาว ด้านนักวิจัยอาวุโสของสถาบันวิจัยความปลอดภัยโพ้นทะเลของจีนแนะว่า นักลงทุนจีน โดยเฉพาะบริษัทของรัฐจะต้องประเมินโอกาสที่จะถูกลูกหลงอย่างรอบคอบ โดยยกตัวอย่างเรื่องที่นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซียขู่ในปี 2561 ว่าจะยกเลิกโครงการทางรถไฟที่จีนสนับสนุนและลงนามไปในสมัยรัฐบาลนาจิบ ราซักว่า แม้มีการจรจาใหม่ในภายหลังแต่ก็เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อความริเริ่มเส้นทางสายไหมในศตวรรษใหม่ (Belt and Road Initiative) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สำหรับกรณีของเมียนมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐขู่จะคว่ำบาตร ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อธุรกิจจีน หากสหรัฐคว่ำบาตรบริษัทที่ทำธุรกิจกับเมียนมา เหมือนที่คว่ำบาตรบริษัทที่ทำธุรกิจกับอิหร่านมาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

1 20 21 22 23 24 27
...