10 ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐ ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี
21 นิวยอร์ก 4 พ.ย.- ตลาดเงินและตลาดทุนเก็งว่า โจ ไบเดน จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐพาให้หุ้นและทองขึ้น ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดตราสารทุนทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดเก็งว่า จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น หากไบเดนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น คาดกันว่า หากไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าจะลดลง ซึ่งจะช่วยประคองสกุลเงินอื่นๆ ให้แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ผลการสำรวจความนิยมพบว่า ไบเดนยังคงมีคะแนนนิยมนำห่าง อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เริ่มมีคะแนนนิยมตีตื้นในหลายรัฐที่กระแสยังกลับไปกลับมา หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งจากรัฐต่างๆ รวม 270 เสียงขึ้นไป ก็จะได้รับเลือกเป็นผู้นำสหรัฐ ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นยุโรป ด้วยความหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันนักลงทุนก็หันไปให้ความสนใจในทองคำมากขึ้นเช่นกัน โดยเก็งกันว่าทองคำจะมีราคาสูงขึ้น จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองล่วงหน้าโกลด์ฟิวเจอร์สของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.9 ไปอยู่ที่ 1,910.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์.-สำนักข่าวไทย
6 วอชิงตัน 4 พ.ย.- ชาวอเมริกันพากันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อเลือกผู้ที่จะนำพาประเทศต่อไปในอีก 4 ปี ข้างหน้า ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต การเลือกตั้งสหรัฐดำเนินไปโดยไม่มีปัญหาอย่างที่หลายฝ่ายกังวล หลังการรณรงค์หาเสียงที่ดุเดือด และบางครั้งมีเนื้อหายั่วยุ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วสหรัฐต่างพากันออกมาลงคะแนน โดยบางเขตก็ต่อแถวกันยาว ขณะที่บางเขตก็เป็นเพียงคิวสั้นๆ โครงการเลือกตั้งสหรัฐ ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา ระบุว่า ก่อนวันเลือกตั้งจริง ได้มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วกว่า 100 ล้าน คน โดยบ้างก็ลงคะแนนทางไปรษณีย์ หรือไม่ก็ด้วยตัวเอง เนื่องจากกังวลเรื่องความแออัดในสถานที่เลือกตั้ง ในวันเลือกตั้ง ในช่วงที่ยังมีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งยอดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่สูงเป็นสถิติ ได้ทำให้คาดการณ์กันว่าการเลือกตั้งปีนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่มีเปอร์เซ็นต์ผู้ออกมาใช้สิทธิมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2451 และอาจมียอดผู้ออกมาใช้สิทธิทั้งหมดถึง 160 ล้าน คน ผลการสำรวจความนิยมชี้ว่า ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ซึ่งใช้ชีวิตในฐานะสาธารณะบุคคลมาครึ่งศตวรรษ ยังคงมีคะแนนนำ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ เริ่มมีคะแนนตีตื้นกลับมาบ้างแล้ว ในหลายรัฐที่มีการแข่งขันดุเดือด ทั้งนี้โดยผู้ที่จะได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ […]
23 นายมาร์ค ช็อต หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐ ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รายล่าสุดที่ติดเชื้อไวรัส
36 วอร์ซอ 24 ต.ค.- โปแลนด์ประกาศวันนี้ว่า ประธานาธิบดีอันด์เซย์ ดูดามีผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก และต้องกักตัว ทางการได้ประกาศมาตรการเข้มงวดครั้งใหม่เพื่อควบคุมยอดผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านนักเทนนิสหญิงดาวรุ่งที่เพิ่งคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพนจะกักตัวเช่นกัน รัฐมนตรีประจำทำเนียบประธานาธิบดีทวีตว่า ประธานาธิบดีรับการตรวจหาเชื้อเมื่อวานนี้ ผลตรวจออกมาเป็นบวก ประธานาธิบดีสบายดี ทางการได้ประสานงานกับหน่วยงานทางการแพทย์ตลอดเวลา ด้านรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขเผยกับสถานีวิทยุในประเทศว่า ประธานาธิบดีเป็นคนหนุ่ม อายุเพียง 48 ปี เท่านั้น จึงน่าจะผ่านเรื่องนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา เชื่อว่าทุกคนที่ใกล้ชิดประธานาธิบดีในช่วงหลายวันมานี้จะกักตัวดูอาการ รวมถึงอีก้า ชวีออนเท็ค นักเทนนิสอาชีพหญิงวัย 19 ปี ที่เข้าพบประธานาธิบดีเมื่อวันศุกร์ รับเหรียญเชิดชูเกียรติจากการคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพนเมื่อต้นเดือน ชวีออนเท็คทวีตว่า เธอและคนในทีมไม่มีอาการของโรคโควิด-19 และตรวจหาเชื้ออย่างสม่ำเสมอ แต่จะกักตัวตามกระบวนการ โปแลนด์มีผู้ป่วยรายใหม่ 13,628 คนในวันนี้ หลังจากทำสถิติสูงสุดที่ 13,632 คนเมื่อวันศุกร์ ยอดผู้ป่วยสะสมที่ 228,318 คน เสียชีวิตรวม 4,172 คน โรงพยาบาลเริ่มรับไม่ไหว รัฐบาลต้องเปิดโรงพยาบาลสนาม ทางการเริ่มใช้มาตรการเข้มงวดใหม่ตั้งแต่วันนี้ เช่น ปิดร้านอาหารและบาร์สองสัปดาห์ ห้ามการรวมตัวในที่สาธารณะเกิน 5 คน ให้เด็กเล็กไปโรงเรียนได้ แต่เด็กโตต้องเรียนออนไลน์ […]
14 วอชิงตัน 20 ต.ค.- คณะกรรมการการโต้วาทีหรือดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐประกาศว่า ดีเบตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันและนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตครั้งสุดท้ายในคืนที่ 22 ตุลาคมตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันที่ 23 ตุลาคมตามเวลาในไทยจะมีการปิดไมโครโฟนฝ่ายหนึ่งระหว่างที่อีกฝ่ายหนึ่งกำลังพูด เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างแถลงการณ์ของคณะกรรมการว่า ในการเริ่มหัวข้อดีเบตแต่ละหัวข้อจากทั้งหมด 6 หัวข้อ ผู้สมัครแต่ละคนจะมีเวลาตอบสองนาที ระหว่างนั้นไมโครโฟนของผู้สมัครอีกฝ่ายจะถูกปิด หลังจากนั้นจึงจะเปิดไมโครโฟนของทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ถกเถียงกันอย่างเปิดเผย หวังว่าผู้สมัครจะเคารพเวลาของอีกฝ่ายเพื่อให้การดีเบตเป็นประโยชน์ต่อผู้ชม ผู้ดำเนินรายการจะจัดสรรเวลาให้แต่ละฝ่ายอย่างเหมาะสมภายในการดีเบตนาน 90 นาที เวลาที่เสียไปเพราะผู้สมัครขัดจังหวะจะถูกชดเชยให้แก่อีกฝ่าย ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดคณะกรรมการว่า คณะกรรมการประชุมเมื่อบ่ายวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐหารือเรื่องเปลี่ยนแปลงระเบียบเรื่องรูปแบบการดีเบต ซึ่งจำเป็นต้องทำหลังจากการดีเบตนัดแรกเกิดความโกลาหล ประธานาธิบดีทรัมป์ขัดจังหวะไบเดนหลายครั้ง คณะกรรมการมีความเห็นเป็นเอกฉันท์เรื่องปิดไมค์ผู้สมัครคนหนึ่งในระหว่างที่ผู้สมัครอีกคนกำลังพูด ขอย้ำว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงระเบียบ แต่เป็นการส่งเสริมให้ยึดมั่นในระเบียบที่คณะหาเสียงทั้งสองฝ่ายได้ตกลงไว้ เพราะการเปลี่ยนแปลงระเบียบจะยืดเยื้อและคิดว่าคณะหาเสียงของทั้งสองฝ่ายจะไม่สามารถตกลงกันได้ หลังจากนั้นไม่นานนายทิม เมอร์ทัฟ ผู้อำนวยการสื่อสารในคณะหาเสียงทรัมป์กล่าวหาคณะกรรมการว่า พยายามเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครที่ชื่นชอบ แต่ประธานาธิบดีด็จะดีเบตกับไบเดนอยู่ดี ขณะเดียวกันคณะกรรมการลงแถลงการณ์ในเว็บไซต์ว่า คณะกรรมการซึ่งไม่เข้าข้างฝ่ายใดและไม่แสวงหากำไรขอประกาศว่า ได้ใช้เกณฑ์การคัดเลือกผู้สมัครอย่างไม่เข้าข้างฝ่ายใดเพื่อเข้าร่วมดีเบตการเลือกตั้งปี 2563 สำหรับดีเบตที่จะมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยเบลมอนต์ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เกณฑ์ดังกล่าวที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ปีก่อนกำหนดไว้ว่า ผู้สมัครที่มีสิทธิเข้าร่วมดีเบตจะต้องมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะต้องมีคุณสมบัติลงเลือกตั้งในรัฐต่าง ๆ เป็นจำนวนมากพอที่จะได้รับเสียงข้างมากของคณะผู้เลือกตั้ง และจะต้องมีเสียงสนับสนุนระดับประเทศอย่างน้อยร้อยละ 15 […]
18 ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐทั้งสองคน คือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันและนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต จะหาเสียงในวันนี้กับผู้ที่จะไปลงคะแนนเสียงล่วงหน้า ในขณะที่กำหนดการตระเวณหาเสียงติดต่อกันต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีต้นเดือนหน้า
12 สหรัฐ 14 ต.ค.-การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ติดเชื้อโควิด-19 ในวัย 74 ปี และเป็นคนอ้วน น้ำหนักตัวถึง 111 กิโลกรัม ย่อมมีความเสี่ยงสูง แม้เขาจะหายป่วย แต่อะไรไม่คาดฝันก็อาจเกิดขึ้นได้ ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังใกล้เข้ามา คำถาม คือ ถ้าทรัมป์เป็นประธานาธิบดีไม่ไหวจะทำอย่างไร ตามกฎหมายวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐต้องจัดขึ้นในวันอังคารหลังวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งปีนี้คือวันที่ 3 พ.ย. การเปลี่ยนแปลงวันเลือกตั้งเป็นอำนาจของสภานิติบัญญัติสหรัฐ การลงมติต้องใช้เสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งปัจจุบันพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ถ้าทรัมป์ทำงานไม่ไหว รัฐธรรมนูญสหรัฐกำหนดว่า เขาสามารถให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ เป็นรักษาการประธานาธิบดีได้ แต่ถ้าไมค์ เพนซ์ เกิดติดโควิด-19 ด้วย นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเป็นคนรับตำแหน่งคนต่อไป แต่การที่นางเปโลซีเป็นคนจากพรรคเดโมแครต ก็คงจะเกิดการต่อสู้กันทางกฎหมายหากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น และหากทรัมป์ลงเลือกตั้งไม่ได้ ตามกฎของพรรครีพับลิกัน สมาชิกคณะกรรมาธิการพรรค 168 คน จะลงมติเลือกตัวแทนพรรคคนใหม่ ซึ่งอาจเลือกไมค์ เพนซ์ หรือเลือกคนอื่นก็ได้ โดยหากเพนซ์ได้รับเลือก เขาก็ต้องเลือกคู่หู ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับเขาคนใหม่ แต่สถานการณ์จะยุ่งยากเข้าไปอีก เพราะตอนนี้ชาวอเมริกันหลายล้านคนโหวตเลือกประธานาธิบดีผ่านทางไปรษณีย์ไปแล้ว และหลายรัฐก็จัดการเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วด้วย […]
5 ผลการสำรวจความเห็นประชาชนใน 7 ประเทศในยุโรปพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนท่วมท้นที่ต้องการให้นายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่มีเพียงร้อยละ 10 ที่คิดว่า การเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างเสรีและเป็นธรรม
18 จากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ติดโควิด-19 และรักษาตัวจนกระทั่งออกจากโรงพยาบาล จะส่งผลกระทบกับการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐคนใหม่ และการทำหน้าที่ประธานาธิบดีอย่างไร สำนักข่าวไทยร่วมกับพันธมิตรข่าว VOA ภาคภาษาไทย มีบทวิเคราะห์มาฝาก
32 เมื่อ 4 ปีก่อน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้อย่างพลิกความคาดหมาย ปีนี้เขามีแนวโน้มสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกหรือไม่ ติดตามในคอลัมน์ “ศึกพญาอินทรีชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว” กับ คุณกิตติมา ณ ถลาง
18 คลีฟแลนด์ 30 ก.ย.- รัฐโอไฮโอ สถานที่จัดการโต้วาทีหรือดีเบตนัดแรกระหว่างคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐ มีความสำคัญต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ต้องการดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่สองในการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ตามเวลาสหรัฐ รัฐโอไฮโอ ทางตะวันออกค่อนไปทางเหนือของสหรัฐ มีประชากรมากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ เป็นที่รู้จักมานานในชื่อรัฐบั๊กอายตามชื่อต้นไม้ประจำรัฐ มี ส.ส.ระดับประเทศ 16 คน ส.ว.ระดับประเทศ 2 คน เป็นหนึ่งในรัฐสวิงสเตทที่ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคใด ผสมผสานระหว่างคนเมือง ชานเมืองและชนบท สะท้อนความหลากหลายทางประชากรของสหรัฐ และเป็นหนึ่งในรัฐที่บอกแนวโน้มการเลือกตั้งระดับประเทศ บ่งชี้กระแสของคนอเมริกันทั้งประเทศ ผู้สมัครที่ได้คะแนนจากรัฐนี้มักเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุกครั้งมาตั้งแต่ปี 2503 และผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันที่ได้เป็นประธานาธิบดีล้วนต้องได้คะแนนจากรัฐนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์จากพรรครีพับลิกันหาเสียงที่รัฐโอไฮโอถึง 2 ครั้งใน 6 สัปดาห์ ขณะที่โจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตหาเสียงผ่านการโฆษณาทางโทรทัศน์ ทรัมป์รับปากจะนำงานอุตสาหกรรมกลับมาที่รัฐนี้เหมือนที่หาเสียงในการเลือกตั้งปี 2559 และชนะนางฮิลลารี คลินตัน ในรัฐนี้ไป 8 จุด ขณะที่ไบเดนชูว่า จะฟื้นเศรษฐกิจในรัฐนี้ นักดับเพลิงวัยเกษียณที่เป็นเดโมแครตมาทั้งชีวิตแต่ลงคะแนนให้ทรัมป์ครั้งก่อนเผยว่า ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะลงคะแนนให้ใคร.-สำนักข่าวไทย
