ชัวร์ก่อนแชร์

ข้อมูลปัจจุบันไม่พบว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือวัคซีนโควิด 19 ต่อเนื่องก่อให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนชนิดไหนป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ 100% แต่วัคซีนสามารถยับยั้งและยุติการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ญี่ปุ่นไม่มีนโยบายบังคับประชาชนฉีดวัคซีนโควิด 19 หรือวัคซีนใดๆ มาตั้งแต่ปี 1994

แม้การติดเชื้อในผู้มีภูมิคุ้มกันจะเอื้อประโยชน์ให้ไวรัสกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น แต่ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนคือสาเหตุของไวรัสโอไมครอน

เชื้อโอไมครอนสามารถติดได้ทั้งคนที่ฉีดและไม่ฉีดวัคซีน ทำให้ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง พบการติดเชื้อในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนจะมากกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีนเช่นเดียวกัน

แม้จะมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทั้งสายพันธุ์เดลต้าและโอไมครอนในเวลาเดียวกัน แต่ไม่พบว่ามีไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า Delmicron ตามที่กล่าวอ้าง

เหตุผลที่หลายประเทศพบการติดเชื้อโอไมครอนในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีประชากรฉีดวัคซีนมากกว่าไม่ฉีดวัคซีน

สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนและต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลหลายร้อยรายตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2021

เป็นผลจากงานวิจัยที่เต็มไปด้วยข้อบกพร่องและผู้วิจัยมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทผู้ผลิตยา Ivermectin

NCI ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานผู้คนป่วยเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นหลังฉีดวัคซีนโควิด 19

ผลวิจัยพบว่าผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการไม่รุนแรง จะมีแอนติบอดีจำเพาะต่อโรคในร่างกายไปตลอดชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยจะไม่ติดเชื้อไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะเชื้อที่มีการกลายพันธุ์