ชัวร์ก่อนแชร์: โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดในจีน ทำให้ปอดกลายเป็นสีขาว จริงหรือ?

13 เมษายน 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : Taiwan FactCheck Center (ไต้หวัน)
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ประเภทข่าวปลอม : ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป :


  1. ฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอด สามารถเกิดได้จากการติดเชื้อชนิดต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นโควิด-19 เสมอไป
  2. นอกจากนี้ เชื้อไวรัสโอไมครอนสามารถส่งผลเสียต่อปอดได้ หากผู้ติดเชื้อไม่ได้รับวัคซีนอย่างเหมาะสม
  3. การตรวจสอบไม่พบว่า มีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดในเมืองจีนแต่อย่างใด

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างว่าไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในเมืองจีน ไม่ใช่สายพันธุ์โอไมครอนอีกต่อไป เนื่องจากภาพเอกซเรย์พบผู้ป่วยที่มีฝ้าที่ปอดอย่างมากจนปอดกลายเป็นสีขาว คาดว่าอาจจะเป็นผลจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อู่ฮั่นที่มีความรุนแรงยิ่งกว่าสายพันธุ์โอไมครอน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


จินตงเยียน ศาสตราจารย์ภาควิชาชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong) ยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในประเทศจีนแต่อย่างใด

จินตงเยียน ชี้แจงว่าภาพเอกซเรย์ปอดมีฝ้าสีขาวจำนวนมากที่แชร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ คือ ภาพเอกซเรย์ปอดที่บ่งบอกการมีอยู่ของรอยโรคชนิดที่เรียกว่า Ground-glass opacity (GGO) ซึ่งมีชื่อในภาษาไทยว่า รอยทึบแบบกระจกฝ้า หรือ ฝ้าจาง

GGO คือรอยโรคในปอดที่พบได้มากในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไวรัสลงปอด โดยผลเอกซเรย์หรือ CT Scan จะพบฝ้าสีขาวจางที่บริเวณปอด โดยภาพเอกซเรย์ปอดปกติจะเป็นสีทึบ แต่ปอดที่มีของเหลวหรือพังผืดเข้าไปแทนที่อากาศ ทำให้ปอดมีความหนาแน่นที่เพิ่มขึ้น เมื่อทำการเอกซเรย์ปอด ภาพที่ออกมาจะเปลี่ยนจากสีทึบกลายเป็นสีขาวจาง

เปรียบเทียบภาพเอ็กซเรย์ปอดสุขภาพดี(ซ้ายบน)
และภาพเอ็กซเรย์ปอดที่ติดเชื้อ

อย่างไรก็ดี การเกิดฝ้าจางชนิด GGO ไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น สาเหตุการเกิดฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอดมีหลายปัจจัย รวมถึงการติดเชื้อต่อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมถึงการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดวัณโรคเช่นกัน

ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ฝ้าจางชนิด GGO หากปล่อยให้ลุกลามอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และยังสามารถเกิดได้แม้แต่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ อย่างไรก็ดี รอยฝ้าจางสามารถหายได้เองเมื่ออาการป่วยทุเลาลง และจะไม่ส่งผลเสียต่อปอดในระยะยาว

ตำแหน่งที่พบฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอด

จินตงเยียน ย้ำว่า โอกาสที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนจะมีฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอดเกิดขึ้นได้ยาก ส่วนการเกิดฝ้าจางจำนวนมากจนปอดกลายเป็นสีขาวทั้งหมดยิ่งพบได้ยากยิ่งกว่า การฉีดวัคซีนอย่างเหมาะสมและการใช้ยาต้านไวรัสอย่างทันท่วงทีเมื่อพบการติดเชื้อ ช่วยป้องกันความเสียหายของปอดจากการเกิดฝ้าจางชนิด GGO ได้

ชูหนานชาง ประธานสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กของไต้หวัน ย้ำว่า แม้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนมักจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การติดเชื้อไวรัสโอไมครอนจะไม่เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง หรืออาการปอดอักเสบได้เช่นกัน

ชูหนานชาง วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีอาการป่วยรุนแรงจากไวรัสโอไมครอน เพราะผู้คนเหล่านั้นอยู่ในประเทศที่ได้รับวัคซีนที่เหมาะสมและทั่วถึง ต่างจากประชาชนในประเทศจีน ที่เขามองว่าได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพด้านการป้องกันโรคที่น้อยกว่า รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุก็เป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง จึงเป็นไปได้ที่จะพบผู้ป่วยชาวจีนที่ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนแล้วมีอาการปอดอักเสบ

ความท้าทายของการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน มาจากการขาดความโปร่งใสด้านการติดตามการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้ข้อมูลขาดความน่าเชื่อถือ จึงยากที่จะบอกได้ว่าเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนหรือไม่

มาตรการที่ช่วยได้ คือการตรวจสอบเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวก เพื่อหาลำดับพันธุกรรมของไวรัสและยืนยันสายพันธุ์ของไวรัสต่อไป

ทีมกลไกการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีน (Joint Prevention and Control Mechanism of the State Council) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2022 โดยระบุว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศจีนขณะนั้นคือสายพันธุ์ BF.7 (ปักกิ่ง) และ BA.5.2 (เซี่ยงไฮ้และกว่างโจว) ส่วนสายพันธุ์ BQ.1 และ XBB พบการระบาดเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่พบการแพร่ระบาดในต่างประเทศอยู่ก่อนแล้ว และไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศจีนแต่อย่างใด

สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดของไต้หวัน (Central Epidemic Command Center) ที่รายงานเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2023 ว่า พบนักท่องเที่ยวชาวจีนในไต้หวันมีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวกจำนวน 25 ราย มี 20 รายที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BA.5 และอีก 5 รายติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BF.7

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องการการแพร่ระบาดของเมืองอู่ฮั่น เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2022 เพื่อยืนยันว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นมา ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่นคือสายพันธุ์ BA.5.2 และไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/8616

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด เผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ หากเหตุการณ์ปะทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]