fbpx

ชัวร์ก่อนแชร์: โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดในจีน ทำให้ปอดกลายเป็นสีขาว จริงหรือ?

13 เมษายน 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : Taiwan FactCheck Center (ไต้หวัน)
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ประเภทข่าวปลอม : ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป :


  1. ฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอด สามารถเกิดได้จากการติดเชื้อชนิดต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นโควิด-19 เสมอไป
  2. นอกจากนี้ เชื้อไวรัสโอไมครอนสามารถส่งผลเสียต่อปอดได้ หากผู้ติดเชื้อไม่ได้รับวัคซีนอย่างเหมาะสม
  3. การตรวจสอบไม่พบว่า มีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดในเมืองจีนแต่อย่างใด

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างว่าไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในเมืองจีน ไม่ใช่สายพันธุ์โอไมครอนอีกต่อไป เนื่องจากภาพเอกซเรย์พบผู้ป่วยที่มีฝ้าที่ปอดอย่างมากจนปอดกลายเป็นสีขาว คาดว่าอาจจะเป็นผลจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อู่ฮั่นที่มีความรุนแรงยิ่งกว่าสายพันธุ์โอไมครอน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


จินตงเยียน ศาสตราจารย์ภาควิชาชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong) ยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในประเทศจีนแต่อย่างใด

จินตงเยียน ชี้แจงว่าภาพเอกซเรย์ปอดมีฝ้าสีขาวจำนวนมากที่แชร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ คือ ภาพเอกซเรย์ปอดที่บ่งบอกการมีอยู่ของรอยโรคชนิดที่เรียกว่า Ground-glass opacity (GGO) ซึ่งมีชื่อในภาษาไทยว่า รอยทึบแบบกระจกฝ้า หรือ ฝ้าจาง

GGO คือรอยโรคในปอดที่พบได้มากในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไวรัสลงปอด โดยผลเอกซเรย์หรือ CT Scan จะพบฝ้าสีขาวจางที่บริเวณปอด โดยภาพเอกซเรย์ปอดปกติจะเป็นสีทึบ แต่ปอดที่มีของเหลวหรือพังผืดเข้าไปแทนที่อากาศ ทำให้ปอดมีความหนาแน่นที่เพิ่มขึ้น เมื่อทำการเอกซเรย์ปอด ภาพที่ออกมาจะเปลี่ยนจากสีทึบกลายเป็นสีขาวจาง

เปรียบเทียบภาพเอ็กซเรย์ปอดสุขภาพดี(ซ้ายบน)
และภาพเอ็กซเรย์ปอดที่ติดเชื้อ

อย่างไรก็ดี การเกิดฝ้าจางชนิด GGO ไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น สาเหตุการเกิดฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอดมีหลายปัจจัย รวมถึงการติดเชื้อต่อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมถึงการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดวัณโรคเช่นกัน

ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ฝ้าจางชนิด GGO หากปล่อยให้ลุกลามอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และยังสามารถเกิดได้แม้แต่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ อย่างไรก็ดี รอยฝ้าจางสามารถหายได้เองเมื่ออาการป่วยทุเลาลง และจะไม่ส่งผลเสียต่อปอดในระยะยาว

ตำแหน่งที่พบฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอด

จินตงเยียน ย้ำว่า โอกาสที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนจะมีฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอดเกิดขึ้นได้ยาก ส่วนการเกิดฝ้าจางจำนวนมากจนปอดกลายเป็นสีขาวทั้งหมดยิ่งพบได้ยากยิ่งกว่า การฉีดวัคซีนอย่างเหมาะสมและการใช้ยาต้านไวรัสอย่างทันท่วงทีเมื่อพบการติดเชื้อ ช่วยป้องกันความเสียหายของปอดจากการเกิดฝ้าจางชนิด GGO ได้

ชูหนานชาง ประธานสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กของไต้หวัน ย้ำว่า แม้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนมักจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การติดเชื้อไวรัสโอไมครอนจะไม่เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง หรืออาการปอดอักเสบได้เช่นกัน

ชูหนานชาง วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีอาการป่วยรุนแรงจากไวรัสโอไมครอน เพราะผู้คนเหล่านั้นอยู่ในประเทศที่ได้รับวัคซีนที่เหมาะสมและทั่วถึง ต่างจากประชาชนในประเทศจีน ที่เขามองว่าได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพด้านการป้องกันโรคที่น้อยกว่า รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุก็เป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง จึงเป็นไปได้ที่จะพบผู้ป่วยชาวจีนที่ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนแล้วมีอาการปอดอักเสบ

ความท้าทายของการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน มาจากการขาดความโปร่งใสด้านการติดตามการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้ข้อมูลขาดความน่าเชื่อถือ จึงยากที่จะบอกได้ว่าเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนหรือไม่

มาตรการที่ช่วยได้ คือการตรวจสอบเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวก เพื่อหาลำดับพันธุกรรมของไวรัสและยืนยันสายพันธุ์ของไวรัสต่อไป

ทีมกลไกการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีน (Joint Prevention and Control Mechanism of the State Council) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2022 โดยระบุว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศจีนขณะนั้นคือสายพันธุ์ BF.7 (ปักกิ่ง) และ BA.5.2 (เซี่ยงไฮ้และกว่างโจว) ส่วนสายพันธุ์ BQ.1 และ XBB พบการระบาดเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่พบการแพร่ระบาดในต่างประเทศอยู่ก่อนแล้ว และไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศจีนแต่อย่างใด

สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดของไต้หวัน (Central Epidemic Command Center) ที่รายงานเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2023 ว่า พบนักท่องเที่ยวชาวจีนในไต้หวันมีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวกจำนวน 25 ราย มี 20 รายที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BA.5 และอีก 5 รายติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BF.7

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องการการแพร่ระบาดของเมืองอู่ฮั่น เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2022 เพื่อยืนยันว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นมา ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่นคือสายพันธุ์ BA.5.2 และไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/8616

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้อพยพจากไทยคว้าแจ็กพอตเพาเวอร์บอล

ผู้อพยพจากไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐดวงเฮง คว้ารางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่เพาเวอร์บอล ได้เงินรางวัลสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต ชี้ประชาชนเบื่อมากข่าวนายตำรวจระดับสูง ควรเร่งทำงานสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นายกฯ บอกขอโทษ “ปานปรีย์” แล้ว ไม่ขัดแย้ง

นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้  

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ “มาริษ” รมว.กต.คนใหม่

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง “มาริษ” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ แทน “ปานปรีย์” ที่ลาออกจากตำแหน่ง มีผลทันที

นายกฯ ย้ำไม่ลืมคำมั่นเพิ่มค่าแรง ชี้ต้องเพียงพอดำรงชีวิต

เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความไม่ลืมคำมั่นเพิ่มเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ ย้ำเงินเดือนต้องเพียงพอในการดำรงชีวิต

ข้าราชการบรรจุใหม่เฮ! ปรับขึ้นเงินเดือน 1 พ.ค.67-68

รัฐบาลขึ้นเงินเดือนข้าราชการกลุ่มบรรจุใหม่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 พฤษภาคม 2567) หลังจัดงบประมาณไว้รองรับแล้ว ส่วนปี 2568 พร้อมขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี แตะ 18,000 บาท