ชัวร์ก่อนแชร์: โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดในจีน ทำให้ปอดกลายเป็นสีขาว จริงหรือ?

13 เมษายน 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : Taiwan FactCheck Center (ไต้หวัน)
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ประเภทข่าวปลอม : ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป :


  1. ฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอด สามารถเกิดได้จากการติดเชื้อชนิดต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นโควิด-19 เสมอไป
  2. นอกจากนี้ เชื้อไวรัสโอไมครอนสามารถส่งผลเสียต่อปอดได้ หากผู้ติดเชื้อไม่ได้รับวัคซีนอย่างเหมาะสม
  3. การตรวจสอบไม่พบว่า มีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดในเมืองจีนแต่อย่างใด

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างว่าไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในเมืองจีน ไม่ใช่สายพันธุ์โอไมครอนอีกต่อไป เนื่องจากภาพเอกซเรย์พบผู้ป่วยที่มีฝ้าที่ปอดอย่างมากจนปอดกลายเป็นสีขาว คาดว่าอาจจะเป็นผลจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อู่ฮั่นที่มีความรุนแรงยิ่งกว่าสายพันธุ์โอไมครอน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


จินตงเยียน ศาสตราจารย์ภาควิชาชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong) ยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในประเทศจีนแต่อย่างใด

จินตงเยียน ชี้แจงว่าภาพเอกซเรย์ปอดมีฝ้าสีขาวจำนวนมากที่แชร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ คือ ภาพเอกซเรย์ปอดที่บ่งบอกการมีอยู่ของรอยโรคชนิดที่เรียกว่า Ground-glass opacity (GGO) ซึ่งมีชื่อในภาษาไทยว่า รอยทึบแบบกระจกฝ้า หรือ ฝ้าจาง

GGO คือรอยโรคในปอดที่พบได้มากในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไวรัสลงปอด โดยผลเอกซเรย์หรือ CT Scan จะพบฝ้าสีขาวจางที่บริเวณปอด โดยภาพเอกซเรย์ปอดปกติจะเป็นสีทึบ แต่ปอดที่มีของเหลวหรือพังผืดเข้าไปแทนที่อากาศ ทำให้ปอดมีความหนาแน่นที่เพิ่มขึ้น เมื่อทำการเอกซเรย์ปอด ภาพที่ออกมาจะเปลี่ยนจากสีทึบกลายเป็นสีขาวจาง

เปรียบเทียบภาพเอ็กซเรย์ปอดสุขภาพดี(ซ้ายบน)
และภาพเอ็กซเรย์ปอดที่ติดเชื้อ

อย่างไรก็ดี การเกิดฝ้าจางชนิด GGO ไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น สาเหตุการเกิดฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอดมีหลายปัจจัย รวมถึงการติดเชื้อต่อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมถึงการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดวัณโรคเช่นกัน

ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ฝ้าจางชนิด GGO หากปล่อยให้ลุกลามอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และยังสามารถเกิดได้แม้แต่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ อย่างไรก็ดี รอยฝ้าจางสามารถหายได้เองเมื่ออาการป่วยทุเลาลง และจะไม่ส่งผลเสียต่อปอดในระยะยาว

ตำแหน่งที่พบฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอด

จินตงเยียน ย้ำว่า โอกาสที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนจะมีฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอดเกิดขึ้นได้ยาก ส่วนการเกิดฝ้าจางจำนวนมากจนปอดกลายเป็นสีขาวทั้งหมดยิ่งพบได้ยากยิ่งกว่า การฉีดวัคซีนอย่างเหมาะสมและการใช้ยาต้านไวรัสอย่างทันท่วงทีเมื่อพบการติดเชื้อ ช่วยป้องกันความเสียหายของปอดจากการเกิดฝ้าจางชนิด GGO ได้

ชูหนานชาง ประธานสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กของไต้หวัน ย้ำว่า แม้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนมักจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การติดเชื้อไวรัสโอไมครอนจะไม่เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง หรืออาการปอดอักเสบได้เช่นกัน

ชูหนานชาง วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีอาการป่วยรุนแรงจากไวรัสโอไมครอน เพราะผู้คนเหล่านั้นอยู่ในประเทศที่ได้รับวัคซีนที่เหมาะสมและทั่วถึง ต่างจากประชาชนในประเทศจีน ที่เขามองว่าได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพด้านการป้องกันโรคที่น้อยกว่า รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุก็เป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง จึงเป็นไปได้ที่จะพบผู้ป่วยชาวจีนที่ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนแล้วมีอาการปอดอักเสบ

ความท้าทายของการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน มาจากการขาดความโปร่งใสด้านการติดตามการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้ข้อมูลขาดความน่าเชื่อถือ จึงยากที่จะบอกได้ว่าเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนหรือไม่

มาตรการที่ช่วยได้ คือการตรวจสอบเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวก เพื่อหาลำดับพันธุกรรมของไวรัสและยืนยันสายพันธุ์ของไวรัสต่อไป

ทีมกลไกการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีน (Joint Prevention and Control Mechanism of the State Council) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2022 โดยระบุว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศจีนขณะนั้นคือสายพันธุ์ BF.7 (ปักกิ่ง) และ BA.5.2 (เซี่ยงไฮ้และกว่างโจว) ส่วนสายพันธุ์ BQ.1 และ XBB พบการระบาดเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่พบการแพร่ระบาดในต่างประเทศอยู่ก่อนแล้ว และไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศจีนแต่อย่างใด

สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดของไต้หวัน (Central Epidemic Command Center) ที่รายงานเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2023 ว่า พบนักท่องเที่ยวชาวจีนในไต้หวันมีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวกจำนวน 25 ราย มี 20 รายที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BA.5 และอีก 5 รายติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BF.7

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องการการแพร่ระบาดของเมืองอู่ฮั่น เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2022 เพื่อยืนยันว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นมา ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่นคือสายพันธุ์ BA.5.2 และไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/8616

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]