ชัวร์ก่อนแชร์: โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดในจีน ทำให้ปอดกลายเป็นสีขาว จริงหรือ?

13 เมษายน 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : Taiwan FactCheck Center (ไต้หวัน)
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ประเภทข่าวปลอม : ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป :


  1. ฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอด สามารถเกิดได้จากการติดเชื้อชนิดต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นโควิด-19 เสมอไป
  2. นอกจากนี้ เชื้อไวรัสโอไมครอนสามารถส่งผลเสียต่อปอดได้ หากผู้ติดเชื้อไม่ได้รับวัคซีนอย่างเหมาะสม
  3. การตรวจสอบไม่พบว่า มีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดในเมืองจีนแต่อย่างใด

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างว่าไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในเมืองจีน ไม่ใช่สายพันธุ์โอไมครอนอีกต่อไป เนื่องจากภาพเอกซเรย์พบผู้ป่วยที่มีฝ้าที่ปอดอย่างมากจนปอดกลายเป็นสีขาว คาดว่าอาจจะเป็นผลจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อู่ฮั่นที่มีความรุนแรงยิ่งกว่าสายพันธุ์โอไมครอน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


จินตงเยียน ศาสตราจารย์ภาควิชาชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong) ยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในประเทศจีนแต่อย่างใด

จินตงเยียน ชี้แจงว่าภาพเอกซเรย์ปอดมีฝ้าสีขาวจำนวนมากที่แชร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ คือ ภาพเอกซเรย์ปอดที่บ่งบอกการมีอยู่ของรอยโรคชนิดที่เรียกว่า Ground-glass opacity (GGO) ซึ่งมีชื่อในภาษาไทยว่า รอยทึบแบบกระจกฝ้า หรือ ฝ้าจาง

GGO คือรอยโรคในปอดที่พบได้มากในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไวรัสลงปอด โดยผลเอกซเรย์หรือ CT Scan จะพบฝ้าสีขาวจางที่บริเวณปอด โดยภาพเอกซเรย์ปอดปกติจะเป็นสีทึบ แต่ปอดที่มีของเหลวหรือพังผืดเข้าไปแทนที่อากาศ ทำให้ปอดมีความหนาแน่นที่เพิ่มขึ้น เมื่อทำการเอกซเรย์ปอด ภาพที่ออกมาจะเปลี่ยนจากสีทึบกลายเป็นสีขาวจาง

เปรียบเทียบภาพเอ็กซเรย์ปอดสุขภาพดี(ซ้ายบน)
และภาพเอ็กซเรย์ปอดที่ติดเชื้อ

อย่างไรก็ดี การเกิดฝ้าจางชนิด GGO ไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น สาเหตุการเกิดฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอดมีหลายปัจจัย รวมถึงการติดเชื้อต่อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมถึงการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดวัณโรคเช่นกัน

ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ฝ้าจางชนิด GGO หากปล่อยให้ลุกลามอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และยังสามารถเกิดได้แม้แต่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ อย่างไรก็ดี รอยฝ้าจางสามารถหายได้เองเมื่ออาการป่วยทุเลาลง และจะไม่ส่งผลเสียต่อปอดในระยะยาว

ตำแหน่งที่พบฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอด

จินตงเยียน ย้ำว่า โอกาสที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนจะมีฝ้าจางชนิด GGO ที่ปอดเกิดขึ้นได้ยาก ส่วนการเกิดฝ้าจางจำนวนมากจนปอดกลายเป็นสีขาวทั้งหมดยิ่งพบได้ยากยิ่งกว่า การฉีดวัคซีนอย่างเหมาะสมและการใช้ยาต้านไวรัสอย่างทันท่วงทีเมื่อพบการติดเชื้อ ช่วยป้องกันความเสียหายของปอดจากการเกิดฝ้าจางชนิด GGO ได้

ชูหนานชาง ประธานสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กของไต้หวัน ย้ำว่า แม้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนมักจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การติดเชื้อไวรัสโอไมครอนจะไม่เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง หรืออาการปอดอักเสบได้เช่นกัน

ชูหนานชาง วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีอาการป่วยรุนแรงจากไวรัสโอไมครอน เพราะผู้คนเหล่านั้นอยู่ในประเทศที่ได้รับวัคซีนที่เหมาะสมและทั่วถึง ต่างจากประชาชนในประเทศจีน ที่เขามองว่าได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพด้านการป้องกันโรคที่น้อยกว่า รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุก็เป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง จึงเป็นไปได้ที่จะพบผู้ป่วยชาวจีนที่ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนแล้วมีอาการปอดอักเสบ

ความท้าทายของการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน มาจากการขาดความโปร่งใสด้านการติดตามการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้ข้อมูลขาดความน่าเชื่อถือ จึงยากที่จะบอกได้ว่าเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนหรือไม่

มาตรการที่ช่วยได้ คือการตรวจสอบเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวก เพื่อหาลำดับพันธุกรรมของไวรัสและยืนยันสายพันธุ์ของไวรัสต่อไป

ทีมกลไกการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีน (Joint Prevention and Control Mechanism of the State Council) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2022 โดยระบุว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศจีนขณะนั้นคือสายพันธุ์ BF.7 (ปักกิ่ง) และ BA.5.2 (เซี่ยงไฮ้และกว่างโจว) ส่วนสายพันธุ์ BQ.1 และ XBB พบการระบาดเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่พบการแพร่ระบาดในต่างประเทศอยู่ก่อนแล้ว และไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศจีนแต่อย่างใด

สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดของไต้หวัน (Central Epidemic Command Center) ที่รายงานเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2023 ว่า พบนักท่องเที่ยวชาวจีนในไต้หวันมีผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นบวกจำนวน 25 ราย มี 20 รายที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BA.5 และอีก 5 รายติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ BF.7

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องการการแพร่ระบาดของเมืองอู่ฮั่น เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2022 เพื่อยืนยันว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นมา ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่นคือสายพันธุ์ BA.5.2 และไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/8616

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย