fbpx

ไต้หวันยืนยันไม่ล็อกดาวน์แม้ติดโควิดในชุมชนเพิ่ม

ไทเป 23 เม.ย.- ไต้หวันยืนยันว่า จะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนนครเซี่ยงไฮ้ของจีน เพื่อควบคุมยอดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในชุมชนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรือมีก็น้อยมาก นายกรัฐมนตรีซู เจินชางของไต้หวันกล่าวกับสื่อในวันนี้ว่า รัฐบาลมั่นใจในมาตรการที่กำลังดำเนินอยู่ และโชคดีที่ผู้ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 90 ไม่มีอาการ หรือมีก็น้อยมาก ทางการจะค่อย ๆ รับมือ และจะไม่ล็อกดาวน์เหมือนเซี่ยงไฮ้ แต่จะยังไม่ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยและการใช้มาตรการป้องกันการระบาด ทางการกำลังเร่งฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้ออย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เป็นการเตรียมตัวก่อนที่จะเริ่มมาตรการขั้นต่อไปเรื่องเปิดไต้หวันอีกครั้ง และลดระยะเวลากักโรคของผู้ติดเชื้อและผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อในชุมชนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ ยอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมอยู่ที่ 18,436 คน และมีผู้เสียชีวิต 4 คน ส่วนยอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่พบการระบาดอยู่ที่ 47,100 คน เสียชีวิตรวม 856 คน รัฐบาลคาดว่า ยอดติดเชื้อรายวันจะแตะ 10,000 คนภายในสิ้นเดือนเมษายน ไต้หวันลดระยะเวลากักโรคกับผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนจาก 2 สัปดาห์เหลือ 10 วัน และกำลังพิจารณาลดลงอีก ขณะที่ประชากรร้อยละ 80 จากทั้งหมด 23 […]

เซี่ยงไฮ้ตั้งเป้าหยุดโควิดนอกเขตกักโรคภายในพุธนี้

เซี่ยงไฮ้ 17 เม.ย.- แหล่งข่าวเผยว่า นครเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ที่สุดของจีนตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นอกเขตกักโรคได้ภายในวันพุธที่จะถึงนี้ เพื่อให้สามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และเริ่มต้นการกลับไปชีวิตตามปกติอีกครั้ง แหล่งข่าวเผยว่า ทางการได้แจ้งให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์และองค์กรต่าง ๆ ทราบเรื่องเป้าหมายควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ในระดับชุมชนคือ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่นอกเขตกักโรคให้ได้ภายในวันที่ 20 เมษายน ขณะที่รอยเตอร์อ้างสำเนาถ้อยแถลงของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเขตเป่าซานเมื่อวันเสาร์ว่า เป้าหมายดังกล่าวกำหนดให้ทางการต้องเร่งตรวจหาเชื้อและย้ายผู้ติดเชื้อไปยังศูนย์กักโรค เพื่อให้เกิดจุดเปลี่ยนในวันที่ 17 เมษายนและเสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 เมษายน เป็นคำสั่งทางทหารที่ไม่สามารถต่อรองได้ ทุกคนต้องกัดฟันสู้เพื่อชัยชนะ เนื่องจากสถานการณ์ของเซี่ยงไฮ้ถึงจุดวิกฤต ประชาชนไม่พอใจอย่างหนักและอาหารขาดแคลน หลายเมืองในจีนใช้การควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ในระดับชุมชนเป็นจุดเปลี่ยนในการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เช่น เซินเจิ้นที่ล็อกดาวน์ 1 สัปดาห์เมื่อกลางเดือนมีนาคมอนุญาตให้บริการขนส่งมวลชนและธุรกิจทำการอีกครั้งเมื่อไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่นอกเขตกักโรค เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 320,000 คนตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม และกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่ที่สุด นับจากจีนพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2562 โดยเมื่อวันเสาร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,643  คน ในจำนวนนี้ 722 คนพบนอกเขตกักโรค เซี่ยงไฮ้เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำหวงผู่ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม จากนั้นได้ขยายการล็อกดาวน์ทั้งเมืองในวันที่ 1 เมษายน ธุรจกิจส่วนใหญ่และบริการขนส่งมวลชนยังคงถูกระงับจนถึงขณะนี้แม้ว่าเริ่มผ่อนคลายการเดินทางบางส่วนเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย

ต่างชาติแห่หนีจากฮ่องกงหลังทนมาตรการคุมเข้มโควิดไม่ไหว

ฮ่องกง 7 มี.ค.- ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในฮ่องกงมานานพากันย้ายออกจากฮ่องกง หลังจากต้องใช้ชีวิตอยู่กับมาตรการคุมเข้มโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เป็นศูนย์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีคนเดินทางออกจากฮ่องกงทั้งหมด 71,000 คน มากที่สุดนับตั้งแต่โควิดระบาด ในจำนวนนี้ 63,000 คนเป็นผู้พำนักอาศัยในฮ่องกง สตรีต่างชาติคนหนึ่งเผยว่า เตรียมเดินทางออกจากฮ่องกง สถานที่ที่เธอเรียกว่าบ้านมานานถึง 8 ปี เพราะเพื่อนสนิทพากันย้ายออกไปหมดแล้ว ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอตัดสินใจย้ายออกคือ กลัวถูกพรากจากลูก ๆ ทั้ง 3 คนที่เกิดในฮ่องกง เนื่องจากทางการสั่งให้ผู้พำนักอาศัยทั้ง 7 ล้าน 4 แสนคนต้องตรวจหาเชื้อภายในเดือนนี้ ผู้ติดเชื้อจะถูกแยกกักโรค และอาจทำให้คนในครอบครัวต้องพรากจากกัน ขณะที่ชายเยอรมันคนหนึ่งเผยว่า ตัดสินใจย้ายออกเพราะทางการฮ่องกงไม่มีกำหนดว่าจะยกเลิกมาตรการเมื่อใด บุตรสาวของเขาโตมาพร้อมกับมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ลืมตาดูโลกเมื่อ 2 ปีก่อน มาตรการจำกัดการเดินทางของฮ่องกงกระทบหนักต่อคนทำงานชาวต่างชาติที่มีเกือบ 1 ใน 10 ของคนในฮ่องกงทั้งหมด เพราะผู้เดินทางเข้าฮ่องกงต้องจ่ายค่ากักตัวในโรงแรมราคาแพงนาน 2-3 สัปดาห์ ธุรกิจในฮ่องกงกำลังประสบปัญหาสมองไหล ขณะที่ค่าขนส่งสินค้าทางเรือเข้าฮ่องกงปรับขึ้น 2 เท่าใน 1 ปี […]

ที่ปรึกษาโควิดญี่ปุ่นแนะควรลดเวลากักโรค

โตเกียว 20 ก.พ.- ที่ปรึกษาเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของญี่ปุ่นแนะนำว่า ถึงเวลาที่จะต้องเริ่มพิจารณาเรื่องลดระยะเวลากักโรคสำหรับผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ นายชิเงรุ โอมิ ประธานองค์กรการดูแลสุขภาพชุมชนญี่ปุ่น ในฐานะรองประธานคณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ของบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) ว่า ควรลดระยะเวลากักโรคผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อลงจาก 7 วันสำหรับคนทั่วไป และ 5 วันสำหรับคนทำงานจำเป็น เนื่องจากเป็นที่ทราบกันว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีระยะเวลาฟักตัวสั้นกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ จึงควรเริ่มหารือเรื่องลดระยะเวลากักโรคลงเพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อย่างไรก็ดี นายโตชิโอะ นากางาวะ ประธานสมาคมแพทย์ญี่ปุ่นเตือนในรายการเดียวกันว่า สถานการณ์การระบาดยังไม่ดีนัก เพราะมีความเป็นไปได้สูงว่า กำลังมีการติดเชื้อในชุมชนเพิ่มขึ้นจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยของโอไมครอนที่เรียกว่า BA.2 และสามารถแพร่ได้เร็วกว่าโอไมครอน นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดนตั้งแต่เดือนมีนาคม ด้วยการเพิ่มจำนวนคนเข้าประเทศเป็นสูงสุดวันละ 5,000 คน จากที่จำกัดไว้ที่ 3,500 คนตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อน และลดระยะเวลากักโรคทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติลงจาก 7 วันเหลือ 3 วัน หลังจากถูกแวดวงธุรกิจและวิชาการวิจารณ์ว่าเข้มงวดเกินความจำเป็น รัฐบาลเพิ่งขยายมาตรการกึ่งฉุกเฉินใน 17 จังหวัด ไปจนถึงวันที่ 6 มีนาคม ส่วนเมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ […]

ฮ่องกงปรับเปลี่ยนท่าเรือสำราญเป็นที่กักโควิด

ฮ่องกง 20 ก.พ.- ฮ่องกงเร่งเพิ่มสถานที่กักตัวและรักษาผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยได้รับความช่วยเหลือด้านการก่อสร้างจากจีนแผ่นดินใหญ่ หนึ่งในนั้นคือการปรับเปลี่ยนท่าเรือสำราญเป็นสถานกักโรค ทางการฮ่องกงแถลงเมื่อค่ำวันเสาร์ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,063 คน และจะปรับเปลี่ยนท่าเรือสำราญไคตั๊กเป็นสถานที่กักโรคและรักษาผู้ติดเชื้อจำนวน 1,000 เตียง เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลรัฐ ด้านนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงกล่าวระหว่างเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างสถานที่กักโรคจำนวน 10,000 ห้องที่อ่าวเพนนีใกล้ดิสนีย์แลนด์รีสอร์ตว่า หวังว่าการสร้างสถานที่กักโรคใหม่จะช่วยให้ฮ่องกงมีศักยภาพเพิ่มขึ้นมากในการรับมือกับการระบาด และว่าฮ่องกงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตท่ามกลางสงครามที่มองไม่เห็น ผู้เชี่ยวชาญบางคนติงว่า ยุทธศาสตร์ควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ที่ฮ่องกงยึดตามจีนแผ่นดินใหญ่ทำให้สถานการณ์แย่ลงและไม่ยั่งยืน ขณะที่ทางการจีนคาดว่า ต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือนสถานการณ์การระบาดในฮ่องกงจึงจะทรงตัว ขณะนี้ได้ส่งบุคลากรทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือฮ่องกงแล้ว ส่วนการเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงที่กำหนดมีขึ้นในเดือนมีนาคมจะถูกเลื่อนไปเป็นเดือนพฤษภาคม ฮ่องกงมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 46,700 คน เสียชีวิต 276 คน.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นจะให้คนเข้าประเทศได้มากขึ้นตั้งแต่มีนาคม

โตเกียว 16 ก.พ.- แหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่นเผยเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลเตรียมอนุญาตให้คนเข้าประเทศได้มากขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม และกำลังพิจารณายกเลิกมาตรการกักโรคอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แหล่งข่าวเผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณายกเลิกการกักโรคเป็นเวลา 7 วัน สำหรับผู้เข้าประเทศที่ไม่ได้มีถิ่นพำนักถาวรในญี่ปุ่น หากมีผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้ว และจะอนุญาตให้คนเดินทางมาจากต่างประเทศเข้ามาได้สูงสุดวันละ 5,000 คนตั้งแต่เดือนมีนาคม จากที่กำหนดไว้สูงสุดวันละ 3,500 คนตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาด มาตรการของญี่ปุ่นซึ่งเข้มงวดที่สุดเมื่อเทียบกับหลายประเทศในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหรือจี 7 (G7) ถูกแวดวงธุรกิจและวิชาการทั้งในและต่างประเทศตำหนิว่า เข้มงวดมากเกินไป เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นคาดว่า นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ จะแถลงข่าวแจกแจงรายละเอียดในวันพฤหัสบดีนี้ นายฮิโรกาซุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยเมื่อวานนี้ว่า มีนักเรียนต่างชาติถือวีซ่าญี่ปุ่นมากถึง 150,000 คน ที่ยังไม่สามารถกลับมาเรียนได้ตั้งแต่ปลายปีก่อนเพราะมาตรการจำกัดของญี่ปุ่น และนับตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนปีก่อนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีคนเดินทางเข้าญี่ปุ่นรวมกันเพียง 6,000 คน แม้ว่ารัฐบาลอนุญาตให้เข้าได้สูงสุดวันละ 3,500 คนก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นติดโควิดรายใหม่แตะ 20,000 คน 3 วันติด

โตเกียว 16 ม.ค.- ญี่ปุ่นพบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่แตะ 20,000 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันนี้ ขณะที่พยายามหาทางรับมือกับสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่อย่างรวดเร็วในเวลานี้ ญี่ปุ่ยเคยมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดที่ 25,992 คนเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เป็นช่วงระบาดสูงสุดของการระบาดระลอกที่ 5 ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในขณะนี้เพิ่มขึ้นถึง 50 เท่าภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ โดยในวันนี้นครโอซากามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,760 คน เมืองฮิโรชิมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันที่ 1,280 คน และกรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 4,000 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ส่วนเมื่อวานนี้เป็นวันครบรอบ 2 ปีที่ญี่ปุ่นพบผู้ติดโรคโควิด-19 รายแรกของประเทศ และเป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์โอไมครอนรายแรก ขณะเดียวกันญี่ปุ่นได้ประกาศลดระยะเวลากักโรคกับผู้มาจากต่างประเทศทุกคนจาก 14 วันเหลือ 10 วันเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ ตามที่ผลการศึกษาชี้ว่าสายพันธุ์โอไมครอนมีระยะเวลาฟักตัวสั้นกว่าและทำให้ป่วยน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ญี่ปุ่นมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 8 แสนคน และเสียชีวิตมากกว่า […]

ฝรั่งเศสลดเวลากักโรคคนติดโควิดที่ฉีดวัคซีนครบโดส

ปารีส 2 ม.ค.- ฝรั่งเศสจะลดระยะเวลากักโรคสำหรับผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจาก 10 วันเหลือ 7 วัน ตามอย่างหลายประเทศที่ลดเวลากักโรคเพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุดเพราะขาดคนทำงาน นายโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์วันนี้ว่า ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกจะต้องกักโรค 7 วัน และจะลดลงเหลือ 5 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะต้องกักโรคตัวเองเป็นเวลา 10 วัน และอาจจะลดลงเหลือ 7 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ นายเวรองระบุด้วยว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแพร่ได้ง่ายมาก และไม่สามารถหยุดยั้งได้หากไม่นำมาตรการควบคุมเข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้ง ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสกล่าวสุนทรพจน์ในวันส่งท้ายปีเก่าว่า ช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก จะต้องเฝ้าระวังกันไปตลอดเดือนมกราคม แต่ไม่พูดถึงเรื่องใช้มาตรการเข้มงวดครั้งใหม่เพื่อควบคุมการระบาด และว่าการระบาดเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนในขณะนี้อาจเป็นการระบาดครั้งสุดท้าย ฝรั่งเศสมีผู้ติดโรคโควิด-19 รายใหม่ 219,126 คนเมื่อวันเสาร์ เกิน 200,000 คนเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และสูงเป็นอันดับ 2 รองจากวันศุกร์ที่พบมากที่สุดที่ 232,200 คน ขณะที่ยอดติดเชื้อเฉลี่ยในช่วง 7 วันทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 157,651 คน […]

จีนปิดศูนย์การผลิตในเจ้อเจียงหวังสกัดโควิดระบาด

เซี่ยงไฮ้ 14 ธ.ค.- บริษัทจำนวนมากระงับการผลิตที่ศูนย์การผลิตในมณฑลเจ้อเจียง ริมฝั่งตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตามที่ทางการท้องถิ่นต้องการเพื่อสกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างน้อย 20 แห่ง ระงับการผลิตในพื้นที่ที่พบการระบาดในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นที่ตั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ครองสัดส่วนร้อยละ 6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของจีน และส่วนใหญ่เป็นสินค้าผลิตเพื่อการส่งออก บริษัทที่ระงับการผลิตมีตั้งแต่บริษัทผลิตแบตเตอรี ยา สีย้อมผ้า ภาชนะพลาสติก ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ตามคำสั่งของทางการท้องถิ่นที่มีผลกับทุกบริษัทในพื้นที่ที่พบการระบาด เมื่อวานนี้มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งมีประชากรมากถึง 64 ล้าน 4 แสนคน พบผู้ติดเชื้อในชุมชนที่ยืนยันว่ามีอาการ 44 คน รวมเป็น 217 คนนับจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ทั้งที่ตั้งแต่ต้นปีพบผู้ติดเชื้อเพียงคนเดียว ประชาชนมากกว่า 50,000 คนถูกกักโรค และเกือบ 500,000 คนอยู่ระหว่างเฝ้าระวัง เที่ยวบินในประเทศถูกระงับเป็นบางเที่ยว เนื่องจากทางการระบุว่า เมืองหนิงโป เส้าซิง และหางโจวมีการระบาดค่อนข้างเร็ว ทั้ง 3 เมืองนี้ครองสัดส่วนเศรษฐกิจกว่าครึ่งของทั้งมณฑล.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียเข้มงวดจำกัดเดินทางสกัดโอไมครอน

จาการ์ตา 2 ธ.ค.- อินโดนีเซียเข้มงวดการบังคับใช้มาตรการควบคุมพรมแดน ขยายระยะเวลากักโรค และจำกัดการเดินทางบนถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทาง เพื่อจำกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนหากเข้ามาในประเทศแล้ว อินโดนีเซียยังไม่ได้ประกาศว่า พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้วหรือไม่ แต่ได้เพิ่มมาตรการเพื่อลดกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด ประกอบด้วยการขยายระยะเวลากักโรคกับผู้เดินทางเข้าประเทศจาก 7 วันเป็น 10 วัน การห้ามผู้เดินทางมาจาก 11 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา แต่หากเป็นชาวอินโดนีเซียที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้จะต้องกักโรค 14 วัน ส่วนมาตรการจำกัดการเดินทางในประเทศจะจำกัดจำนวนยวดยานที่อนุญาตให้ใช้ถนนที่เก็บค่าผ่านทาง เพื่อลดการเดินทางของผู้คน อินโดนีเซียมียอดติดเชื้อโควิด-19 รายวันลดลงมาก เฉลี่ยวันละ 400 คนเท่านั้นในเดือนพฤศจิกายน เทียบกับที่เคยสูงถึงวันละ 4,000 คนในเดือนกรกฎาคม ประชากรมากกว่า 1 ใน 3 จากทั้งหมด 270 ล้านคนฉีดวัคซีนแล้ว ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 4 ล้าน 2 แสน 5 หมื่นคน และเสียชีวิตมากกว่า 143,800 คน.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ติดโควิดสูงสุดครั้งใหม่ งดยกเว้นกักโรค

โซล 2 ธ.ค.- เกาหลีใต้พบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ในขณะที่ทางการสั่งระงับการยกเว้นกักโรคสำหรับผู้เข้าประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เพื่อสกัดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเข้าประเทศ สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,266 คนเมื่อวันพุธ หลังจากยอดทะลุ 5,000 คนเป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคาร และมีความวิตกเรื่องพบผู้ติดเชื้ออาการหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทางการจะกำหนดให้ผู้เข้าประเทศทุกคนต้องกักโรคนาน 10 วัน เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ มีผลบังคับใช้นาน 2 สัปดาห์ จากเดิมที่ยกเว้นการกักโรคกับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว มาตรการเข้มงวดนี้มีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้ยืนยันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนกลุ่มแรกจำนวน 5 คนเมื่อวันพุธ เป็นคู่รักฉีดวัคซีนครบโดสที่เดินทางมาจากไนจีเรีย คนในครอบครัว 2 คน และเพื่อนอีก 1 คน รัฐบาลกำลังจำกัดการเดินทางมาจาก 8 ประเทศในทางตอนใต้ของแอฟริกา โดยจะเพิ่มไนจีเรียไว้ในรายชื่อนี้ในวันศุกร์ และระงับเที่ยวบินตรงจากเอธิโอเปียตั้งแต่วันเสาร์ ผู้ใหญ่ในเกาหลีใต้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 92 ขณะนี้มุ่งฉีดวัคซีนให้เด็กและการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ยอดผู้ติดเชื้อน่าจะยังคงเพิ่มขึ้นเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่อาจแพร่ได้มากขึ้น เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตั้งแต่ทางการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเมื่อเดือนก่อน ทำให้รัฐบาลระงับแผนการผ่อนคลายเพิ่มเติมเมื่อไม่กี่วันก่อน เคดีซีเอแจ้งว่า ยอดผู้ติดเชื้ออาการหนักเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 733 คน ขณะที่เตียงในหอผู้ป่วยวิกฤตเขตมหานครโซลมีผู้ครองเตียงสูงถึงร้อยละ 90 […]

ฮ่องกงห้ามคนจากอีก 13 ประเทศเดินทางเข้า

ฮ่องกง 30 พ.ย.- ฮ่องกงประกาศห้ามผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่ในฮ่องกงเดินทางเข้าเมือง หากมาจาก 13 ประเทศ เพิ่มเติมจากที่ประกาศห้ามไปก่อนหน้านี้กับ 8 ประเทศในทวีปแอฟริกา เพราะกังวลเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน ทางการฮ่องกงแถลงเมื่อเย็นวันจันทร์ว่า ผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่ในฮ่องกงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน หากเดินทางมาจากแองโกลา เอธิโอเปีย ไนจีเรีย และแซมเบีย ส่วนผู้มีถิ่นที่อยู่ในฮ่องกงที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้จะเดินทางกลับเข้าฮ่องกงได้ต่อเมื่อฉีดวัคซีนแล้ว โดยต้องกักโรค 7 วันในสถานที่ของรัฐบาล และกักตัวต่ออีก 2 สัปดาห์ในโรงแรมที่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง นอกจากนี้ผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่ในฮ่องกงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม หากพำนักอยู่ในออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยียม แคนาดา เช็ก เดนมาร์ก เยอรมนี อิสราเอล และอิตาลีในช่วง 21 วันที่ผ่านมา ขณะที่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในฮ่องกงที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้จะเดินทางกลับเข้าฮ่องกงได้ต่อเมื่อฉีดวัคซีนแล้ว โดยต้องกักโรค 3 สัปดาห์ในโรงแรม สัปดาห์ที่แล้วฮ่องกงเพิ่งประกาศห้ามผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่ในฮ่องกงเดินทางเข้า หากมาจากแอฟริกาใต้ บอตสวานา เอสวาตีนี เลโซโท มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย และซิมบับเว […]

1 2 3 4
...