ฮ่องกง 7 มี.ค.- ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในฮ่องกงมานานพากันย้ายออกจากฮ่องกง หลังจากต้องใช้ชีวิตอยู่กับมาตรการคุมเข้มโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เป็นศูนย์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีคนเดินทางออกจากฮ่องกงทั้งหมด 71,000 คน มากที่สุดนับตั้งแต่โควิดระบาด ในจำนวนนี้ 63,000 คนเป็นผู้พำนักอาศัยในฮ่องกง สตรีต่างชาติคนหนึ่งเผยว่า เตรียมเดินทางออกจากฮ่องกง สถานที่ที่เธอเรียกว่าบ้านมานานถึง 8 ปี เพราะเพื่อนสนิทพากันย้ายออกไปหมดแล้ว ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอตัดสินใจย้ายออกคือ กลัวถูกพรากจากลูก ๆ ทั้ง 3 คนที่เกิดในฮ่องกง เนื่องจากทางการสั่งให้ผู้พำนักอาศัยทั้ง 7 ล้าน 4 แสนคนต้องตรวจหาเชื้อภายในเดือนนี้ ผู้ติดเชื้อจะถูกแยกกักโรค และอาจทำให้คนในครอบครัวต้องพรากจากกัน ขณะที่ชายเยอรมันคนหนึ่งเผยว่า ตัดสินใจย้ายออกเพราะทางการฮ่องกงไม่มีกำหนดว่าจะยกเลิกมาตรการเมื่อใด บุตรสาวของเขาโตมาพร้อมกับมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ลืมตาดูโลกเมื่อ 2 ปีก่อน
มาตรการจำกัดการเดินทางของฮ่องกงกระทบหนักต่อคนทำงานชาวต่างชาติที่มีเกือบ 1 ใน 10 ของคนในฮ่องกงทั้งหมด เพราะผู้เดินทางเข้าฮ่องกงต้องจ่ายค่ากักตัวในโรงแรมราคาแพงนาน 2-3 สัปดาห์ ธุรกิจในฮ่องกงกำลังประสบปัญหาสมองไหล ขณะที่ค่าขนส่งสินค้าทางเรือเข้าฮ่องกงปรับขึ้น 2 เท่าใน 1 ปี ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ขณะเดียวกันคนหนุ่มสาวชาวฮ่องกงเริ่มหลั่งไหลไปใช้ชีวิตในต่างประเทศตั้งแต่จีนกวาดล้างผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย จำนวนประชากรในฮ่องกงในเดือนมิถุนายน 2564 ลดลงต่อปีมากที่สุดในรอบ 60 ปี จนน่าเป็นกังวล.-สำนักข่าวไทย