งานวิจัยมะเร็งหลอดอาหารกับการดื่มน้ำอัดลม

19 มีนาคม 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


มีการนำความนิยมของการดื่มน้ำอัดลม ไปเชื่อมโยงกับการเกิดมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (EAC) ที่เพิ่มขึ้นถึง 350% นับตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970s เป็นต้นมา นำไปสู่การวิจัยถึงความสัมพันธ์อย่างแพร่หลาย

แต่ผลการเชื่อมโยงมะเร็งหลอดอาหารกับการดื่มน้ำอัดลมยังไม่เป็นที่แน่ชัด เพราะมีทั้งงานวิจัยที่ไม่พบความสัมพันธ์และงานวิจัยที่พบว่าการดื่มน้ำอัดลมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารเช่นกัน


งานวิจัยปี 2006 ของ Yale ไม่พบว่าการดื่มน้ำอัดลมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารชนิด EAC

จุดประสงค์งานวิจัยมาจากข้อสันนิษฐานเรื่องการดื่มน้ำอัดลมทำให้เกิดอาการท้องอืด รบกวนการทำงานของหลอดอาหารส่วนล่าง และความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มน้ำอัดลมกับอาการจุกเสียดแน่นท้องในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (EAC)

แต่ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยเยล เมื่อปี 2006 นำโดย ซูซาน เมย์น ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ ได้เปรียบเทียบกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งจำนวน 1,095 ราย และกลุ่มควบคุม 657 ราย เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดื่มน้ำอัดลม ทั้งแบบธรรมดาและแบบไม่มีน้ำตาล


ทีมวิจัยพบว่า การบริโภคเครื่องดื่มน้ำอัดลมไม่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (EAC) โดยเฉพาะน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล และการบริโภคมากเกินไปไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหารหรือมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดย่อยใด ๆ ทั้งในผู้ชายหรือผู้หญิง

ทีมวิจัยเตือนว่าผลที่เกิดกับการดื่มน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล อาจมีปัจจัยจากพฤติกรรมด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่ไม่ได้วัดผล

งานวิจัยปี 2008 ในออสเตรเลีย ไม่พบว่าการดื่มน้ำอัดลมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารเช่นกัน

งานวิจัยในประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2008 มีการสำรวจพฤติกรรมการดื่มน้ำอัดลมและเบียร์ กับผู้ป่วยมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (EAC) จำนวน 394 ราย และมะเร็งหลอดอาหารชนิด Squamous-cell carcinoma (ESCC) จำนวน 238 ราย

พบว่าการดื่มน้ำอัดลมปริมาณมากไม่มีความสัมพันธ์ต่อความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (EAC) และยังมีความสัมพันธ์ที่ผกผันกับมะเร็งหลอดอาหารชนิด Squamous-cell carcinoma (ESCC) แต่พบว่า การดื่มเบียร์เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารชนิด Squamous-cell carcinoma (ESCC)

สรุปได้ว่าการดื่มน้ำอัดลมปริมาณมากไม่มีความสัมพันธ์ต่อความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารทั้งแบบ EAC และ ESCC

งานวิจัยปี 2018 ในออสเตรเลีย พบว่าน้ำอัดลมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งมากกว่าน้ำอัดลมแบบใช้น้ำตาลเทียม

งานวิจัยปี 2018 ของสภาโรคมะเร็งรัฐวิคตอเรียและมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นในประเทศออสเตรเลีย สำรวจพฤติกรรมการดื่มน้ำอัดลมของชายและหญิงชาวออสเตรเลียจำนวน 41,514 ราย ระหว่างปี 1990-1994 และ 2003-2007 เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มน้ำอัดลมกับการป่วยด้วยโรคมะเร็งซึ่งมีที่มาจากโรคอ้วน

ผลสำรวจพบว่า การดื่มน้ำอัดลมแบบมีน้ำตาลเพิ่มความเสี่ยงการป่วยด้วยโรคมะเร็งซึ่งมีที่มาจากโรคอ้วนถึง 11 ชนิด ทั้งมะเร็งไต มะเร้งลำไส้ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี และมะเร็งหลอดอาหาร

อย่างไรก็ดี กลับไม่พบความสัมพันธ์ดังกล่าวกับการดื่มน้ำอัดลมแบบใช้น้ำตาลเทียม

ไดแอน ริคคาร์ดี นักโภชนาการ จากศูนย์วิจัยมะเร็ง Moffitt Cancer Center อธิบายว่า น้ำอัดลมแบบมีน้ำตาลมีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) ที่สูงมาก การดื่มน้ำอัดลมมาก ๆ จะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย ซึ่งระดับอินซูลินที่สูงจะไปกระตุ้นการเติบโตของเซลล์มะเร็ง

ไดแอน ริคคาร์ดี จึงแนะนำให้ควบคุมระดับน้ำตาล ผู้หญิงไม่ควรเกินวันละ 6 ช้อนชา ผู้ชายไม่ควรเกินวันละ 9 ช้อนชา

บทความปี 2024 ย้ำว่าเครื่องดื่มผสมน้ำตาลเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด

ขณะที่ผลวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องดื่มผสมน้ำตาลกับความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้รับการยืนยันอย่างแพร่หลาย แต่ความสัมพันธ์กับโรคมะเร็งยังคงไม่มีความชัดเจน

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งและสุขภาพยืนยันต่อสำนักข่าว news18 ของประเทศอินเดียว่า เครื่องดื่มผสมน้ำตาลกระตุ้นการเกิดกรดไหลย้อน เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งกระเพาะอาหาร

ในขณะเดียวกัน ระดับอินซูลินที่สูงจากน้ำตาลส่วนเกิน ยังกระตุ้นการสร้างโกรธฮอร์โมน ที่ชื่อว่า Insulin-like growth factor 1 (IGF-1) ฮอร์โมนที่มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของมะเร็งที่ไวต่อฮอร์โมน เช่น มะเร็งเต้านม และ มะเร็งต่อมลูกหมาก

นอกจากนี้ ปริมาณน้ำตาลส่วนเกินจากเครื่องดื่มผสมน้ำตาลยังขัดขวางการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งอีกด้วย

แม้ปัจจุบันความสัมพันธ์ต่อมะเร็งหลอดอาหารยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่การบริโภคเครื่องดื่มผสมน้ำตาล ต้องคำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ โรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคหลอดเลือดหัวใจ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://medicine.yale.edu/news-article/link-between-esophageal-cancer-and-soft-drinks-debunked-by-researchers-at-yale/
https://link.springer.com/article/10.1007/s10552-008-9119-8
https://www.moffitt.org/endeavor/archive/theres-no-sugar-coating-it-sugary-soft-drinks-linked-to-cancer/
https://www.news18.com/lifestyle/health-and-fitness-how-packaged-juices-and-sweetened-drinks-fuel-breast-prostate-and-bowel-cancer-risks-9141936.html

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]

“แพทองธาร” ลั่นพ่อป่วยจริง แจงสังคมได้

ทำเนียบ 13 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ลั่นแจงสังคมได้ พ่อป่วยจริง ใครจะคิดอย่างไร ห้ามไม่ได้ ชี้มติแพทยสภาว่าไปตามกระบวนการ เผย “ทักษิณ” เตรียมไปศาล 13 มิ.ย.นี้ ย้ำเหตุเกิดก่อนตัวเองนั่งเก้าอี้นายกฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมองว่าเป็นการล้อมกรอบพรรคเพื่อไทย และมองกันว่าเป็นการแบ่งชนชั้นว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นอย่างไร และยังไม่มีแพทยสภาคนใด ที่ออกมาพูดว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่จริง ยังไม่ได้มีข้อสรุปตรงนี้และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จะแปลว่าอย่างไรก็ไม่ทราบจริงๆ ส่วนจะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติออกมา จะมีผลอะไรตามมากับนายทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าไม่มีและคุณพ่อเตรียมที่จะชี้แจงแค่นั้น เป็นการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง เมื่อถามย้ำว่าประเด็นนี้สามารถแจงสังคมได้ใช่หรือไม่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า แจงได้ และพูดมาตลอดว่า นายทักษิณอายุมากแล้ว และเคยเป็นโควิดตั้งแต่ ก่อนกลับประเทศไทยตอนอายุประมาณ 72 ปี ตนจำได้เพราะไม่สบายหนัก และมีประวัติเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่การรักษาที่เมืองนอก และเกี่ยวเนื่องกันมา […]

เพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซ.ฉลองกรุง 55 ดับสนิทแล้ว

กทม. 13 พ.ค. – เหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 ไฟดับแล้วทุกจุด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสารเคมี เตรียมปิดศูนย์บัญชาการวันนี้ แต่เปิดศูนย์พักพิงให้บริการประชาชนต่อเนื่อง กรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เกิดขึ้นตั้งแต่ 16.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม กระทั่งเมื่อคืนนี้ช่วง 01.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม เกิดมีไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้งบางจุด เนื่องจากอุณหภูมิพลาสติกที่สูงสะสมประกอบกับลมแรง แต่เป็นเพียงหย่อมเล็กๆ และไม่มีการลามไปยังจุดอื่นๆ เจ้าหน้ายังคงคอยควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันการลุกไหม้ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศขณะนี้ พบว่ายังคงมีกลุ่มควันลอยออกมาจากตัวอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ และยังคงมีกลิ่นสารเคมีลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ วันนี้ นางเกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ภายในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ด้วย ด้าน นายธราพงษ์ เพ็ชร์คง ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุด […]

เตรียมฝากขัง “สจ.กอล์ฟ” พรุ่งนี้ อาจโดนข้อหาซ่องโจรเพิ่ม

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจยังไม่นำตัว “สจ.กอล์ฟ” กับลูกน้องไปฝากขังผัดแรก ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม อาจแจ้งข้อหาซ่องโจรเพิ่มด้วย มั่นใจดิ้นไม่หลุด จากเหตุการณ์ นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ. เขต7 จ.สงขลา ลูกชาย สส.สงขลา ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจตชด. ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง ขณะไปลงคะแนน ก่อนถูกออกหมายจับ และเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ขณะที่ลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้ว ซึ่งทั้ง7 คนยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังสภ.เมืองสงขลา เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาล จ.สงขลา พรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม วันนี้อาจมีการนำตัวผู้ต้องหาบางคนออกมาสอบสวนเพิ่มเติม และอาจแจ้งข้อหาเพิ่ม อาทิ ซ่องโจร เนื่องจากเป็นการรวมตัวเกิน 5 คนเพื่อกระทำความผิด อย่างไรก็ตาม คดีนี้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานหนาแน่นทั้งพยานบุคคล ภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานในโทรศัพท์มือถือของสจ.กอล์ฟ […]