ชัวร์ก่อนแชร์ KEYWORD : SASAENG ? — แฟนคลับตัวยง คลั่งรักจนเกินเหตุ !

คำยอดฮิตบนสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้เรียกแฟนคลับที่คลั่งไคล้ศิลปินจนเกินเหตุ เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย และสุขภาพจิตของศิลปิน ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล

SASAENG เป็นคำศัพท์ในอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้


คำว่า “SA” มาจากคำว่า “ส่วนตัว”

คำว่า “SAENG” มาจากคำว่า “ชีวิต”

กลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชม ชื่นชอบนักร้อง ดารา ศิลปิน แต่ว่าระดับของการชื่นชม ชื่นชอบ ถึงขั้นรุกล้ำ คุกคาม หมกมุ่น ทำให้ชีวิตศิลปินหรือบุคคลสาธารณะไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ ทำให้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย


ระดับความรุนแรงของพฤติกรรม “SASAENG”

ระดับความรุนแรงของพฤติกรรม “SASAENG” มีดังนี้

ระดับที่ 1 เริ่มรุกล้ำข้อมูลส่วนตัวของศิลปิน เช่น รู้ตารางงานและข้อมูลส่วนตัวของศิลปินต่าง ๆ

ระดับที่ 2 เริ่มติดตามอย่างหมกมุ่น เช่น ตามศิลปินทางออนไลน์ และออนไซต์หลาย ๆ สถานที่

ระดับที่ 3 เริ่มแอบถ่ายศิลปินทุกช่วงเวลาที่ดำเนินชีวิตตามปกติ เพื่อเก็บไว้ดูส่วนตัว

ระดับที่ 4 เริ่มส่งของขวัญหรือข้อความเชิงคุกคามศิลปิน

ระดับที่ 5 เริ่มเข้าใกล้ศิลปินโดยเปิดเผยตัวตน

ปัจจัยที่ทำให้พบ SASAENG เพิ่มมากขึ้น

เกิดจากการเสพสื่อที่เรียกว่า Parasocial Relationship คือ ความสัมพันธ์แบบข้างเดียว ที่ทึกทักเอาเองว่าตัวเองมีความผูกพันส่วนตัวกับบุคคลที่มีชื่อเสียง

“para” แปลว่า ข้างเดียว ทำให้คนติดกับดักความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวล ซึมเศร้า เหงา โดดเดี่ยว เพราะในความเป็นจริง ศิลปินไม่ได้มีความสัมพันธ์ตอบกลับมาเป็น 2 ทาง

ดังนั้น ควรติดตามศิลปิน นักกีฬา และ/หรือ บุคคลที่มีชื่อเสียงจาก “ผลงาน” มากกว่า เพื่อทำให้ตัวเราดีขึ้น ได้พัฒนา และเป็นแรงบันดาลใจด้วย

มีข้อมูลจาก spacebar.th เพิ่มเติมเกี่วกับ SASAENG ดังนี้

คำว่า ‘ซาแซง’ มาจากภาษาเกาหลี มีรากศัพท์จากคำว่า ‘ซา’ (사) ที่แปลว่า ‘ส่วนตัว’ และ ‘แซง’ (생) ที่แปลว่า ‘ชีวิต’ เมื่อนำคำสองคำมารวมกันแล้วหมายถึง ‘ชีวิตส่วนตัว’

ในวงการบันเทิงเกาหลีจึงให้คำจำกัดความของ ‘ซาแซง’ ว่าหมายถึงแฟนคลับที่หลงใหลในตัวศิลปินอย่างมากจนถึงขั้นล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวของศิลปิน 

ลักษณะ “พฤติกรรม” ของซาแซง มีหลายอย่าง เช่น

  1. สืบค้นชีวิตส่วนตัว มักจะสืบหาข้อมูลส่วนตัว เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ตารางงาน หรือแม้แต่ข้อมูลครอบครัวของศิลปิน 
  2. ติดตามไปทุกที่ เมื่อรู้ตารางงานแล้วซาแซงจะติดตามศิลปินไปทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ทำงาน สนามบิน หรือสถานที่ส่วนตัว 
  3. มากกว่าความรักคือการอยากรู้ทุกการเคลื่อนไหว เช่น แอบติดตั้งกล้องวงจรปิดในโรงแรมที่ศิลปินพัก ซื้อข้อมูลเที่ยวบิน หรือแอบบุกรุกบ้าน 
  4. ความคลั่งรักเกินขอบเขต พฤติกรรมของซาแซงส่วนใหญ่เกิดจากความรักหรือความคลั่งไคล้ที่เกินขอบเขต โดยเชื่อว่าการเข้าใกล้ศิลปินในลักษณะนี้จะทำให้ตนเองมีความสัมพันธ์กับศิลปินมากขึ้นหรือทำให้ศิลปินจำตนได้ 

นอกจาก SASAENG แล้ว มีคำว่า สตอล์กเกอร์ (Stalker) 

คำว่า “สตอล์กเกอร์” มาจากภาษาอังกฤษ มีความหมายว่า “ผู้ติดตาม หรือ สะกดรอย”

ในความหมายทั่วไปสตอล์กเกอร์คือผู้ที่เฝ้าติดตามบุคคลอื่นโดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม หรือกระทำการที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย 

ลักษณะ “พฤติกรรม” ของสตอล์กเกอร์ 

  1. สะกดรอยตามแบบผิดกฎหมาย มักสะกดรอยตามเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นคนดังหรือคนทั่วไปโดยไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ถูกติดตาม 
  2. ข่มขู่และก่อกวน สตอล์กเกอร์มักแสดงตนให้รู้ว่ามีอยู่แต่ไม่ปรากฏตัวให้เห็น เช่น ส่งข้อความข่มขู่ โทรศัพท์คุกคาม หรือปรากฏตัวในสถานที่ที่เป้าหมายอยู่เพื่อสร้างความหวั่นกลัว 
  3. มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ในบางครั้งสตอล์กเกอร์อาจลงมือทำร้ายร่างกายหรือทรัพย์สินของเป้าหมาย 
  4. แรงจูงใจ มาจากความหลงใหลส่วนตัว ความรักที่ไม่สมหวัง หรือความตั้งใจที่จะควบคุมเป้าหมาย 

แม้ว่าทั้งซาแซงและสตอล์กเกอร์จะมีพฤติกรรมที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวเหมือนกันแต่กลับมีแรงจูงใจและเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมทั้งสองลักษณะล้วนแล้วแต่สร้างความอันตรายต่อบุคคลอื่นและสมควรได้รับการจัดการอย่างจริงจัง ไม่ว่าศิลปิน คนดัง หรือใครก็ตาม ไม่มีใครสมควรได้รับความหวาดกลัวจากการถูกติดตามคุกคามและการใช้ความรุนแรงที่เกิดจากความรักอันเกินขอบเขต  

หากใครที่อ่านแล้วรู้สึกว่าตนเองเข้าข่ายการเป็นซาแซงหรือสตอล์กเกอร์โดยไม่รู้ตัว ลองปรับจูนความคิดและพฤติกรรมของตัวเองสักนิด ก่อนที่จะสายเกินแก้ เพราะหากผู้ที่ถูกคุกคามรู้สึกไม่ปลอดภัยและรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีสุดท้ายจะแก้ไขอะไรไม่ได้และจะกลายเป็นผู้มีคดีติดตัวในที่สุด

การเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น และแสดงความรักอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนัก

สัมภาษณ์โดย จิรัชยา นวลนิ่มน้อย และ จิราภา อ่อนเกลี้ยง

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ KEYWORD : SASAENG ? — แฟนคลับตัวยง คลั่งรักจนเกินเหตุ !

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย