ชัวร์ก่อนแชร์: French Paradox สูตรอายุวัฒนะเพราะไวน์แดง จริงหรือ?

24 กันยายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

French Paradox เป็นปรากฏการณ์ความย้อนแย้งที่พบในประเทศฝรั่งเศส เพราะขณะที่ชาวฝรั่งเศสนิยมบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ซีส เนย ไข่แดง ไส้กรอก เบคอน และเนื้อแดง แต่กลับมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (CHD) น้อยกว่าชาติอื่น ๆ


นำไปสู่ข้อสรุปว่า สาเหตุดังกล่าวมาจากพฤติกรรมการดื่มไวน์แดงของชาวฝรั่งเศส ซึ่งสารอาหารในไวน์แดงช่วยบำรุงหัวใจและลดความเสี่ยงการป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แม้ชาวฝรั่งเศสจะนิยมบริโภคอาหารที่ส่งผลเสียต่อหัวใจในปริมาณมากก็ตาม จนการดื่มไวน์แดงเพื่อสุขภาพตามแนวคิด French Paradox ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกตลอด 30 ปีที่ผ่านมา

บทสรุป :

นักวิจัยอังกฤษพบว่า French Paradox อาจเกิดเพราะฝรั่งเศสรายงานผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยกว่าความเป็นจริง และชาวฝรั่งเศสในอดีตกินอาหารไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าในปัจจุบัน ไม่ใช่ประโยชน์จากไวน์แดง


FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ต้นกำเนิดกระแส French Paradox

French Paradox เริ่มเป็นที่รู้จักในปี 1991 เมื่อ แซร์จ เรอโนด์ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส นำเสนอผลวิจัยที่พบว่า ปรากฏการณ์ French Paradox มีสาเหตุจากการที่ชาวฝรั่งเศสนิยมกินอาหารประเภท Mediterranean Diet ร่วมกับการดื่มไวน์แดงเป็นประจำในปริมาณไม่มาก แนวทางดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงการป่วยด้วยโรคมะเร็ง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

Mediterranean Diet ประกอบไปด้วย ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่วแบบมีฝัก น้ำมันมะกอก เป็นองค์ประกอบหลัก เนื้อสีขาว (ปลาและอกไก่) และผลิตภัณฑ์จากนม (ชีสและโยเกิร์ต) ในปริมาณจำกัด และเนื้อแดง (เนื้อวัวและเนื้อหมู) ในปริมาณน้อย

Mediterranean Diet ซึ่งอุดมไปด้วยน้ำมันโอเมกา 3 ร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระจากไวน์แดง มีส่วนเพิ่มไขมันดี (HDL) และลดไขมันเลว (LDL) ที่ส่งผลให้ชาวฝรั่งเศสมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีอายุที่ยืนยาว

ในปีเดียวกันนั้น แนวคิดเรื่อง French Paradox และประโยชน์ของไวน์แดง ถูกเผยแพร่ไปยังสหรัฐอเมริกา ผ่านการถ่ายทอดทาง 60 Minutes รายการโทรทัศน์ยอดนิยมของสถานีโทรทัศน์ CBS ส่งผลให้ยอดจำหน่ายไวน์แดงของสหรัฐฯ ในปีนั้นเพิ่มขึ้นถึง 40% จนผู้จำหน่ายไวน์ทั่วโลกเริ่มโพรโมตไวน์แดงในฐานะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพนับแต่นั้น

ภาพลวงตาของ French Paradox

อย่างไรก็ดี การค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์ในยุคต่อมาเริ่มพบว่า มีตัวแปรหลาย ๆ อย่างที่อาจส่งผลให้ชาวฝรั่งเศสป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบน้อยกว่าชาติอื่น ๆ ซึ่งไวน์แดงอาจจะไม่ใช่ปัจจัยอย่างที่เคยเชื่อกันมาตลอด 3 ทศวรรษ

นิโคลัส วอลด์ และ มัลคอล์ม ลอว์ นักวิทยาศาสตร์แถวหน้าของสหราชอาณาจักร นำเสนองานวิจัยปี 1999 ทางวารสาร British Medical Journal ที่พบว่ามีปัจจัย 2 ประการที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบน้อยกว่าชาติอื่น ๆ จนเป็นที่มาของปรากฏการณ์ French Paradox ได้แก่

  1. รายงานผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในฝรั่งเศสน้อยกว่าความเป็นจริง

วอลด์และลอว์พบว่า หลักการตรวจคัดกรองโรคหลอดเลือดหัวใจตีบของประเทศฝรั่งเศสมีความแตกต่างจากในสหราชอาณาจักร ส่งผลให้ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบน้อยกว่าในสหราชอาณาจักรถึง 20%

  1. ปัจจุบันป่วยน้อยเพราะคนฝรั่งเศสในอดีตบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าในปี 1991

วอลด์และลอว์นำเสนอสมมุติฐานเกี่ยวกับช่วงเวลาระหว่างสองเหตุการณ์ (Time-Lag Hypothesis) เพื่อเปรียบเทียบการป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและปริมาณการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและความเข้มข้นของคอเลสเตอรอลในเลือดของชาวฝรั่งเศส

โดยพบว่า เมื่อปี 1960-1970 ชาวฝรั่งเศสมีอัตราการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและมีความเข้มข้นของคอเลสเตอรอลในเลือดน้อยกว่าชาวฝรั่งเศสในปี 1990 ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมในปี 1990 ชาวฝรั่งเศสป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบน้อยทั้ง ๆ บริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เนื่องจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารในช่วงเวลาหลายปี มากกว่าจะเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารในปัจจุบัน ไม่ต่างจากการป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ที่เกิดจากพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในระยะเวลาหลายปี มากกว่าพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของคนในปัจจุบัน

มีการนำเสนอปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากไวน์แดงที่น่าจะส่งผลต่อปรากฏการณ์ French Paradox ทั้งคุณค่าทางโภชนาการของการกินแบบ Mediterranean Diet การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลในปริมาณน้อย จนถึงสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจที่สูงกว่าของผู้ดื่มไวน์ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขได้ดีกว่า

ดร.วิล โครเวอร์ นักประสาทวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการ ได้สรุปปัจจัยของปรากฏการณ์ French Paradox ในหนังสือปี 2003 ชื่อ The Fat Fallacy : The French Diet Secrets to Permanent Weight Loss ว่า

  1. ชาวฝรั่งเศสได้รับไขมันดีจากนมและพืชมากกว่าชาวอเมริกัน
  2. ชาวฝรั่งเศสกินปลามากกว่าชาวอเมริกัน (อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์)
  3. ชาวฝรั่งเศสกินอาหารต่อมื้อในปริมาณที่น้อยกว่าและกินช้ากว่าชาวอเมริกัน
  4. ชาวฝรั่งเศสกินอาหารที่มีน้ำตาลน้อยกว่าชาวอเมริกัน
  5. ชาวฝรั่งเศสกินของว่างเช่นขนมขบเคี้ยวและน้ำอัดลมน้อยกว่าชาวอเมริกัน

งานวิจัยปี 2010 หัวข้อ Lifestyle in France and the United States ทางวารสาร Journal of the Academy of Nutrition and Dietetics ระบุว่ามีปัจจัย 3 ประการที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ French Paradox ได้แก่

  1. ชาวฝรั่งเศสเดินมากกว่าชาวอเมริกัน
  2. ชาวฝรั่งเศสดื่มน้ำมากกว่าชาวอเมริกัน
  3. ชาวฝรั่งเศสกินผักและผลไม้มากกว่าชาวอเมริกัน

ความนิยมของไวน์แดงจากความเชื่อเรื่อง French Paradox

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Wine Institute พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชาวอเมริกันดื่มไวน์คนละประมาณ 2-3 แกลลอนต่อปี (9.5-11 ลิตร)

ข้อมูลจาก Allied Market Research ประเมินว่าภายในปี 2028 อุตสาหกรรมไวน์แดงจะเติบโตและมีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 278,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ผลวิจัยเกี่ยวกับโทษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไวน์แดงที่ถูกเปิดเผยมากขึ้นในปัจจุบัน อาจยังไม่สามารถทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดื่มที่มีมานานได้ แต่อย่างน้อยข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์หล่านี้ น่าจะช่วยให้ผู้คนเห็นถึงภัยจากการดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น แม้จะต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็ตาม

ข้อมูลอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/French_paradox
https://www.yahoo.com/lifestyle/is-red-wine-igood-for-your-health-234429359.html
https://ifh.rutgers.edu/highlight/modern-myths-of-aging-red-wine-and-the-truth-behind-the-french-paradox/
https://theconversation.com/the-french-paradox-turned-out-to-be-an-illusion-but-it-led-to-some-interesting-research-78196
https://wineinstitute.org/our-industry/statistics/us-wine-consumption/
https://www.alliedmarketresearch.com/red-wine-market-A13400

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคเหนือ-ภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย