ชัวร์ก่อนแชร์: เชื้อโรคกลายพันธุ์ ความรุนแรงลดลงเสมอ จริงหรือ?

5 มีนาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Politifact (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


ข้อมูลด้านชีววิทยาวิวัฒนาการสมัยใหม่ยืนยันว่าเชื้อโรคสามารถกลายพันธุ์ให้มีความรุนแรงน้อยลงหรือมากขึ้นก็ได้

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทาง Facebook ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าเชื้อโรคที่กลายพันธุ์จะลดความรุนแรงของโรคไปเรื่อยๆ ถ้าเชื้อโรคกลายพันธุ์แล้วเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้น โฮสต์หรือผู้รับเชื้อที่เชื้อโรคใช้พึ่งพิงจะเสียชีวิตกันหมด และมนุษย์อาจจะสูญพันธุ์ไปนานแล้ว โดยผู้โพสต์ยกตัวอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา และการระบาดของไวรัส HIV ในประเทศยูกันดาที่ลดความรุนแรงลงเรื่อยๆ


FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:

การเหมารวมว่าเชื้อโรคที่กลายพันธุ์จะลดความรุนแรงของโรคไปเรื่อยๆ เป็นการกล่าวอ้างที่ขัดแย้งกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพราะเชื้อโรคสามารถกลายพันธุ์แล้วมีความรุนแรงมากขึ้นหรือลดลงก็ได้

แอนดรูว์ รีด ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาวิวัฒนาการ มหาวิทยาลัย Penn State University กล่าวว่า การอ้างว่าเชื้อโรคที่ปรับตัวได้ดีจะลดความรุนแรงเพื่อเลี่ยงการทำร้ายโฮสต์ของตนเองมากเกินไม่เป็นความจริงเสมอไป ข้อมูลด้านชีววิทยาวิวัฒนาการสมัยใหม่ยืนยันว่าเชื้อโรคสามารถกลายพันธุ์ให้มีความรุนแรงน้อยลงหรือมากขึ้นก็ได้

ไวรัสไม่สามารถขยายพันธุ์ด้วยตัวเอง จึงต้องอาศัยเซลล์ของโฮสต์ในการผลิตโปรตีนที่จำเป็นต่อการขยายพันธุ์ ยิ่งมีเวลาในการขยายพันธุ์มาก โอกาสที่จะเกิดการผ่าเหล่าระหว่างการแบ่งตัวก็มีสูง ซึ่งไวรัสที่กลายพันธุ์จะมีคุณสมบัติที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทั้งความสามารถในการแพร่เชื้อและความรุนแรงของโรค ซึ่งปัจจัยอาจเกิดจากความกดดันจากการเลือกสรร (Selective Pressure) หรือปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ

ความเชื่อที่ว่าเชื้อโรคจะลดความรุนแรงลงเรื่อยๆ เป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อ ธีโอบอลด์ สมิธ นักพยาธิวิทยาชาวอเมริกัน ตั้งข้อสังเกตว่าสัตว์ในฟาร์มที่ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากเห็บเป็นพาหะ จะมีอาการรุนแรงน้อยลง เมื่อเทียบกับการติดเชื้อก่อนหน้า

มีทฤษฎีทางเลือกที่เสนอแนวคิดว่า วิวัฒนาการของเชื้อโรคขึ้นอยู่กับการถ่วงดุลระหว่างความต้องการใช้ร่างกายของโฮสต์เป็นเครื่องมือในการแพร่เชื้อ และความเสี่ยงที่จะทำอันตรายต่อร่างกายของโฮสต์ที่ตัวเองอาศัยอยู่

ทฤษฎีดังกล่าวยังเป็นที่ถกเถียงในแวดวงชีววิทยาวิวัฒนาการ เนื่องจากมีการศึกษาที่สนับสนุนแนวคิดดังกล่าวแค่บางส่วน ปัจจัยอื่นๆ เช่น การมีอยู่ของวัคซีนและปริมาณของโฮสต์ที่ใช้ในการแพร่เชื้อล้วนเป็นปัจจัยที่ต้องใช้พิจารณา

เช่นกรณีของไวรัส HIV ซึ่งมีคุณสมบัติปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว แม้ในบางพื้นที่ไวรัสจะก่อความรุนแรงของโรคลดลง แต่อาจจะไปก่อความรุนแรงเพิ่มขึ้นยังพื้นที่อื่นๆ ก็เป็นได้

มีไวรัสหลายชนิดที่สามารถกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายยิ่งขึ้นเช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่และไวรัส HIV ที่ให้กำเนิดสายพันธุ์ดื้อยาหลายชนิด ส่วนไวรัสอีโบลาและไวรัสซิกามีการปรับตัวเข้ากับร่างกายของโฮสต์ด้วยการกลายพันธุ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแพร่เชื้อสูงสุด ส่วนไวรัส Myxoma ซึ่งแพร่เชื้อในกระต่าย เคยเชื่อว่าเป็นไวรัสที่ทำให้การติดเชื้อซ้ำมีความรุนแรงลดลง ก็พบว่าการติดเชื้อในภายหลังมีความรุนแรงยิ่งขึ้น

เชื้อโรคไม่มีความจำเป็นต้องรักษาชีวิตของโฮสต์เพื่อแพร่เชื้อและขยายพันธุ์ เช่นในกรณีของเชื้อมาลาเรีย การติดเชื้อแต่ละครั้งอาจเกิดจากมาลาเรียหลายสายพันธุ์ สายพันธุ์ที่ก่อโรคที่รุนแรงกว่าจะได้เปรียบสายพันธุ์ที่ก่อโรคน้อยกว่า ด้วยการฆ่าโฮสต์ก่อนที่สายพันธุ์อื่นๆ จะทำการขยายพันธุ์ได้สำเร็จ และทำให้สายพันธุ์ของตัวเองได้ประโยชน์สูงสุดจากการแพร่เชื้อ

ในส่วนของไวรัสโควิด 19 ถือเป็นไวรัสที่มีอัตราแพร่เชื้อสูงสุดในระยะที่ผู้รับเชื้อยังไม่แสดงอาการ ดังนั้นความเป็นอันตรายต่อโฮสต์อาจไม่ใช่อิทธิพลต่อวิวัฒนาการของไวรัสอย่างที่ทฤษฎีทางเลือกเสนอแนะ

ดร.อาเมช อดัลจา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัย Johns Hopkins University กล่าวว่า ถ้ามองในเชิงมานุษยรูปนิยม ไวรัสมีความต้องการแค่แพร่เชื้อและขยายพันธุ์ ถ้าวิธีที่ดีที่สุดในการแพร่เชื้อของมันคือการก่อโรคที่รุนแรง ไวรัสชนิดนั้นก็จะรักษาระดับความรุนแรงของโรคเอาไว้ต่อไป

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.politifact.com/factchecks/2021/dec/08/facebook-posts/viruses-and-other-pathogens-can-evolve-become-more/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยึดรถบอสดิไคอน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน ขณะที่พนักงานสอบสวนชุดเล็กประชุมสรุปรายงานผลการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมรายงานคณะทำงานชุดใหญ่พรุ่งนี้

ระเบิดสะพานโจร

“ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง

กสทช. จับมือตำรวจ สานต่อยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง อย่างอุกอาจ เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ว.วชิรเมธี

พระพยอมชี้ ท่าน ว.วชิรเมธี นั่งบนหิมะ ไม่ผิดวินัยสงฆ์

เพจดังลงภาพท่าน ว.วชิรเมธี นั่งสมาธิบนหิมะที่ญี่ปุ่น ด้านพระพยอมชี้ ไม่ผิดวินัยสงฆ์ คิดว่าท่าน ว.วชิรเมธี คงอยากทดสอบความอดทน

ข่าวแนะนำ

ต่างชาติประทับใจซ้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

วันนี้มีการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ครั้งที่ 2 ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งไม่เพียงแต่คนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ประทับใจกับความงดงาม

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” ยันไม่ปล่อยผ่านคดีตากใบ เร่งตามผู้ต้องหาก่อนหมดอายุความ

ผบ.ตร.เผยคดีตากใบ เร่งติดตามตัวผู้ต้องหาก่อนหมดอายุความ เข้าตรวจค้น 29 ครั้ง เฝ้าจุดระวังติดตามกว่า 180 ครั้ง ยันไม่ปล่อยผ่าน