อสมท ผนึกกำลัง กองทุนสื่อฯ สร้างภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ยุคใหม่ เปิดตัวโครงการนักสืบสายชัวร์ 404: “ถอดสลักกับดักไซเบอร์”

กรุงเทพฯ – 17 มกราคม 2568 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จับมือ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดตัวโครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์” ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 อาคารปฏิบัติการวิทยุ-โทรทัศน์ บมจ. อสมท เดินหน้าเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เยาวชน ครู ผู้สูงวัย และประชาชนทั่วไป ให้พร้อมรับมือกับภัยออนไลน์รูปแบบใหม่


เพราะโลกไซเบอร์ที่ตื่นตาตื่นใจ มักแฝงไปด้วยภัยร้ายที่มองไม่เห็น เปรียบเสมือนทุ่งหญ้าสวยงามที่อาจมีกับดักและอันตรายซ่อนอยู่ โครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์” นำโดย ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท จึงจัดกิจกรรมเพื่อยกระดับการพัฒนาทักษะในการสังเกต ตรวจจับ และหลีกเลี่ยง “กับดักไซเบอร์” ให้แก่ผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้แบบผสมผสาน ดังนี้

  • การอบรมเชิงปฏิบัติการแบบลงพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ สมุทรสาคร ระยอง สิงห์บุรี และนครนายก ครอบคลุมเนื้อหา 5 หลักสูตร ได้แก่ การเงิน วิทยาศาสตร์ สุขภาพ เอไอ และไซเบอร์ ถ่ายทอดความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจากหลากหลายหน่วยงาน อาทิ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นักมายากล นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ และศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บมจ. อสมท
  • ชุดนิทรรศการเคลื่อนที่ “Behind The Trap” ชำแหละเบื้องหลังกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพไซเบอร์ นำเสนอผ่านรูปแบบ Interactive Exhibition ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วม ใน 4 ห้องจัดแสดง เพื่อเรียนรู้ 4 มิติกับดักไซเบอร์ ได้แก่ ล่อลวง อำพราง จับงับ และกักขัง
  • Exclusive Workshop “ถอดสลักกับดักไซเบอร์” เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรสุดเข้มข้นและเจาะลึกในเนื้อหาทั้ง 5 ด้าน เพื่อรับมือกับดักไซเบอร์และภัยคุกคามที่มีอยู่รอบตัว โดยผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
  • กิจกรรมอบรมออนไลน์ FCDA 101 ฉบับปรับปรุง ภาพยนตร์เพื่อการเรียนรู้รางวัลนวัตกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (TMFMEDIA INNOVATION AWARDS 2021) สาขานวัตกรรมสื่อเพื่อสังคม ประเภทองค์กร คอร์สพื้นฐานการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เน้นพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการรู้เท่าทันสื่อ ข่าวปลอม ข้อมูลเท็จและความปลอดภัยทางไซเบอร์

นอกจากนี้ ยังมีการผลิตและเผยแพร่เนื้อหาใหม่เพื่อกระตุ้นการตระหนักรู้ผ่านสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ในเครือ อสมท ดังนี้


  • “พ่อมดเซ้นส์ พิชิตภัยโลกไซเบอร์” ซีซัน 2: จตุมนตร์ ผจญดินแดนปริศนา การ์ตูนเสริมสร้างความรู้เท่าทันภัยออนไลน์สำหรับเด็ก เผยแพร่ทางรายการช่อง 9 การ์ตูน
  • รายการ “รู้ทันมิจฯ คิด-ก่อน-เชื่อ” สรุปกลโกงเชิงเตือนภัย รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องบันเทิงใกล้ตัว ผ่านมุมมองของคนข่าวบันเทิงตัวจริงและสัมภาษณ์ผู้เสียหาย ให้เป็นอุทธาหรณ์ต่อสังคม เผยแพร่ผ่านทางรายการไนน์เอ็นเตอร์เทน 
  • การผลิตเนื้อหาเสริมความรู้เท่าทันผ่าน พอดคาสต์ อินโฟกราฟิก และบทความ ผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ รวมถึงประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการฯ ผ่านรายการ 9 ข่าวเที่ยง และวิทยุ ภูมิภาค เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ทราบถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นสารประโยชน์

นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท กล่าวว่า “ความสำเร็จของโครงการ “นักสืบสายชัวร์” เริ่มต้นขึ้นในปี 2562 จากโครงการ “นักสืบสายชัวร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์เยาวชน” ต่อยอดประสบการณ์สู่โครงการ “นักสืบสายชัวร์ x ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร” ในปี 2563 และเติบโตสู่โครงการ “นักสืบสายชัวร์ TRICK or TRUST” ในปี 2565 ซึ่งทุกโครงการต่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนสามารถพัฒนามาเป็นโครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์” นี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท ที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 ในปีนี้ ซึ่ง อสมท มีนวัตกรรมสื่อหลายชิ้นที่สร้างสรรค์ขึ้นเมื่องานนี้โดยเฉพาะ เชื่อมั่นว่าจะสำเร็จอีกครั้ง และนำสู่การนำพานิเวศสื่อไทยสู่การมี information integrity หรือความจริงแท้ทางสารสนเทศได้”

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวต่อว่า “เราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และปลูกฝังจิตสำนึกในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างปลอดภัย ให้กับเยาวชน ครอบครัว และสังคมไทย”

ภายในงานแถลงข่าว มีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายหน่วยงานร่วมเสริมทัพ นักสืบสายชัวร์ 404 อาทิ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย (บก.ปอท.), พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน (บช.สอท.), พ.ต.อ.ณัทกฤช พรหมจันทร์ (สกมช.), อ.ธีร์ ภวังคนันท์ (สพฐ.), คุณธีรศักดิ์ สูงลอย (ธปท.), ดร.ปริญญา หอมเอนก, คุณนวพล เชื่อมวราศาสตร์ (SaySci), ผศ.ดร.เจษฎา ศาลาทอง, คุณขจร พีรกิจ, คุณเบิ้ม ลูกโป่ง, อพวช., นพ.นคร เปรมศรี (สถาบันวัคซีนแห่งชาติ), สพธอ., บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) จำกัด, สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร และโรงเรียนผู้เข้าร่วมโครงการ

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ที่ : เพจ facebook “นักสืบสายชัวร์ x ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร” หรือเพจ “ชัวร์ก่อนแชร์”


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]