ชัวร์ก่อนแชร์: ไวรัส Omicron พบแต่ในคนที่ฉีดวัคซีนครบโดส จริงหรือ?

10 ธันวาคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. แม้ผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอน 4 รายแรกจะฉีดวัคซีนโควิด 19 แบบครบโดส แต่มีรายงานพบนักท่องเที่ยวติดเชื้อไวรัสโอไมครอนโดยยังไม่ฉีดวัคซีนเช่นกัน
  2. ข้อมูลในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุต้นกำหนดของไวรัสโอไมครอนได้อย่างแน่ชัด

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในสหรัฐอเมริกา โดย Gateway Pundit เว็บไซต์ที่นำเสนอแนวคิดต่อต้านวัคซีนโควิด 19 อ้างว่าไวรัสโอไมครอนจะพบแต่ในคนที่ฉีดวัคซีนครบโดส เนื่องจากผู้ติดเชื้อ 4 รายแรกที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโอไมครอนในประเทศบอตสวานา ล้วนเป็นผู้ฉีดวัคซีนครบโดสทุกคน จนกลายเป็นข้อความที่มีการโต้ตอบทางสื่อสังคมออนไลน์กว่า 4,000 ครั้ง

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


แม้ผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโอไมครอน 4 รายแรกจะฉีดวัคซีนโควิด 19 แบบครบโดสทั้งหมด แต่การอ้างว่ามีแต่ผู้ฉีดวัคซีนเท่านั้นที่ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนไม่เป็นความจริง เนื่องจากมีรายงานพบนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ผู้หนึ่งในประเทศเบลเยียมติดเชื้อไวรัสโอไมครอน

ปัจจัยที่ทำให้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 จำนวนมาก เนื่องจากการตรวจหาเชื้อไวรัสโอไมครอนมักจะพบผู้ติดเชื้อที่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางระหว่างประเทศ สาเหตุเพราะหลายประเทศออกนโยบายไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ฉีดวัคซีน จึงทำให้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนแบบครบโดสเป็นส่วนใหญ่

นอกจากนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ไวรัสโอไมครอนเกิดจากการกลายพันธุ์ในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนหรือไม่ เพราะปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะยืนยันต้นกำเนิดและเส้นทางการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอนได้อย่างแน่ชัด

มีรายงานแจ้งว่า ก่อนการพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้ ผลจากการรวบรวมตัวอย่างระบุว่าไวรัสโอไมครอนเคยแพร่ระบาดมาก่อนในประเทศ เยอรมนี, เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์

ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าเชื้อไวรัสโอไมครอนได้รับการยืนยันครั้งแรกจากตัวอย่างที่ส่งตรวจเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2021 แต่ไม่มีการเปิดเผยที่มาหรือสถานะการฉีดวัคซีนของผู้ติดเชื้อรายนี้

วงการวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สาเหตุของการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด 19 มาจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำในบางประเทศ โดยเฉพาะหลายประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่ง WHO ก็เคยเตือนปัญหาความไม่เท่าเทียมของการแบ่งปันวัคซีนมาก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายเดือน

มีทฤษฎีเกี่ยวกับการอุบัติของไวรัสโอไมครอนออกมามากมาย ทั้งการกลายพันธุ์ในสัตว์ที่ติดเชื้อจากมนุษย์สู่สัตว์ (Reverse Zoonosis) และสมมติฐานการกลายพันธุ์ในผู้ป่วยโควิด 19 แบบเรื้อรัง โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบแนวโน้มว่าผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมีความเสี่ยงจะป่วยด้วยโรคโควิด 19 แบบเรื้อรังและสามารถให้กำเนิดสายพันธุ์ไวรัสโควิด 19 ที่เป็นอันตราย

ซาลิม อับดูล คาริม นักภูมิคุ้มกันวิทยา มหาวิทยาลัย Columbia University ค้นพบว่า ไวรัสโอไมครอนมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับการแพร่ระบาดของไวรัส HIV ในทวีปแอฟริกา

งานวิจัยฉบับก่อนการตีพิมพ์ (preprint) ของ ซาลิม อับดูล คาริม ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายน 2021 เป็นการศึกษาผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ที่ป่วยด้วยโรคโควิด 19 แบบเรื้อรังเป็นเวลา 6 เดือน โดยเริ่มสังเกตอาการตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2020 พบว่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ในตัวผู้ป่วยมีการกลายพันธุ์คล้ายกับไวรัสสายพันธุ์เบต้า สายพันธุ์ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้เมื่อเดือนธันวาคมปี 2020 ก่อนที่จะแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ

แม้ไม่อาจยืนยันได้ว่าไวรัสเบต้าเกิดจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV แต่งานวิจัยแสดงหลักฐานว่าการป่วยด้วยโรคโควิด 19 แบบเรื้อรัง เพิ่มโอกาสการอุบัติของไวรัสสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายได้

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง แต่ความรุนแรงจากการติดเชื้อยังต้องมีการศึกษาที่ชัดเจนต่อไป ปัญหาที่พบในปัจจุบันคือการเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว การวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมไวรัสโควิด 19 ที่แพร่ระบาดในแอฟริกาใต้ช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2021 พบว่าเป็นสายพันธุ์โอไมครอนถึง 74%

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/misleading-claims-linking-omicron-variant-to-vaccinated-people-rely-on-partial-data-unsubstantiated/

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยึดรถบอสดิไคอน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน ขณะที่พนักงานสอบสวนชุดเล็กประชุมสรุปรายงานผลการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมรายงานคณะทำงานชุดใหญ่พรุ่งนี้

ระเบิดสะพานโจร

“ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง

กสทช. จับมือตำรวจ สานต่อยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง อย่างอุกอาจ เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ว.วชิรเมธี

พระพยอมชี้ ท่าน ว.วชิรเมธี นั่งบนหิมะ ไม่ผิดวินัยสงฆ์

เพจดังลงภาพท่าน ว.วชิรเมธี นั่งสมาธิบนหิมะที่ญี่ปุ่น ด้านพระพยอมชี้ ไม่ผิดวินัยสงฆ์ คิดว่าท่าน ว.วชิรเมธี คงอยากทดสอบความอดทน

ข่าวแนะนำ

ต่างชาติประทับใจซ้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

วันนี้มีการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ครั้งที่ 2 ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งไม่เพียงแต่คนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ประทับใจกับความงดงาม

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” ยันไม่ปล่อยผ่านคดีตากใบ เร่งตามผู้ต้องหาก่อนหมดอายุความ

ผบ.ตร.เผยคดีตากใบ เร่งติดตามตัวผู้ต้องหาก่อนหมดอายุความ เข้าตรวจค้น 29 ครั้ง เฝ้าจุดระวังติดตามกว่า 180 ครั้ง ยันไม่ปล่อยผ่าน