คนขับซูเปอร์คาร์ให้ปากคำ ยันไม่ได้เมา หากผิดพร้อมเยียวยา

สน.ธรรมศาลา 23 เม.ย. – คนขับซูเปอร์คาร์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ยืนยันไม่ได้เมา ด้านพ่อทำใจรถ 34 ล้านบาท เหลือแต่ซาก ย้ำหากลูกผิด พร้อมเยียวยาคู่กรณีเต็มที่


นายเฟียส อายุ 23 ปี คนขับรถเฟอร์รารี่ พร้อมด้วยแฟนสาวและพ่อ ได้เดินทางมายัง สน.ธรรมศาลา เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนถึงเหตุการณ์รถเฟอร์รารี่ รถเบนซ์ และรถกระบะ ขับพุ่งชนกันจนทำให้รถเฟอร์รารี่และรถเบนซ์ไฟไหม้เสียหายทั้งคัน

พ่อของน้องเฟียส เป็นตัวแทนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะนี้น้องยังมีอาการตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ น้องได้ขับรถกลับจากส่งแฟนสาวย่านศาลายาและกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านแถวพุทธมณฑล สาย 2 แล้วประสบอุบัติเหตุ จึงได้รีบโทรแจ้งให้ตนมาที่เกิดเหตุทันที


เมื่อตอนมาถึง พบว่าตัวน้องมีอาการแน่นหน้าอกและตกใจกลัว พร้อมเล่าให้ฟังว่า ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุ ลูกชายขับอยู่เลนขวาสุด กลับถูกรถกระบะตู้ทึบขับในเชิงปาดหน้าขึ้นมา ลูกจึงพยายามเบรครถด้วยความตกใจ แต่ดันเสียหลักไปพุ่งชนท้ายรถกระบะแล้วเสียหลักหมุนไปชนกับรถเบนซ์ที่ตามหลังมา เป็นเหตุให้ศีรษะและหน้าอกกระแทกกับพวงมาลัย

ปรากฏว่ารถเบนซ์มาทับบนหลังคารถเฟอร์รารี่ของลูกชาย ก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ลูกชายได้พยายามออกมาจากรถ โดยมีพลเมืองดีให้การช่วยเหลือ หลังจากนั้นตนจึงได้รีบพาลูกชายไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ โดยลูกชายไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรุนแรงที่อวัยวะภายใน ส่วนอาการแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออกอาจเกิดจากภาวะตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตนเองก็ไม่ได้ปักใจเชื่อในคำพูดของลูกชายทั้งหมดและไม่ตัดสินว่าใครเป็นคนผิดเป็นคนถูก แม้ว่าในที่เกิดเหตุตนจะเห็นรอยเบรครถของลูกชายบนกลางถนนเลนขวา แต่ตนขอรอพยานหลักฐานและการสอบสวนจากฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะภาพวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ชี้ชัดว่าใครเป็นคนผิดเป็นคนถูก


ทั้งนี้ ไม่ว่าตำรวจจะชี้ชัดว่าฝ่ายตนเองจะผิดหรือถูกก็ตาม ตนก็พร้อมยินดีที่จะให้การช่วยเหลือเยียวยารถกระบะและรถเบนซ์ทั้งตามกฎหมายและตามหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะถ้าทั้งสองฝ่ายมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตนก็พร้อมพูดคุยและให้การช่วยเหลือ แต่อย่างไรก็ตามกรณีนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ นอกจากฝั่งลูกชายตนเองที่บาดเจ็บ

ในส่วนคู่กรณีนั้น เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้พบเจอกับฝ่ายรถกระบะที่ สน.ธรรมศาลา ซึ่งฝั่งรถกระบะอ้างว่าเขาขับรถมาตามปกติแล้วถูกชนด้านท้าย เมื่อตนสอบถามเรื่องของการขับรถปาดหน้า ฝั่งกระบะก็ยืนยันว่าไม่มีการขับปาดหน้าแต่อย่างใด ซึ่งประเด็นนี้ก็คงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน แต่โดยภาพรวมการพูดคุยกับฝ่ายกระบะเป็นไปได้ด้วยดีและไม่ได้มีการโต้เถียงอะไรกัน เพราะต่างฝ่ายต่างก็ต้องรอความชัดเจนจากทางตำรวจ แต่ทางฝั่งรถเบนซ์นั้น ตนยังไม่พบและยังไม่ได้ติดต่อแต่อย่างใด

สำหรับรถเฟอร์รารี่นั้น เป็นรถของครอบครัวซื้อมาได้ประมาณ 1 ปี ในราคาประมาณ 34 ล้านบาท ซึ่งโชคดีที่มีประกันภัยชั้น 1 ทางครอบครัวจึงไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เพราะมองว่าเป็นเพียงแค่ทรัพย์สินนอกกาย ปัจจัยสำคัญที่สุดคือชีวิตของคนมากกว่า แต่มีเพียงลูกชายที่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปกติแล้วพฤติกรรมการขับรถของลูกชายอยู่ในสายตาของตนโดยตลอด ตนมักจะไม่ให้ลูกชายขับรถไปไหนมาไหน เว้นแต่ไปทำธุระส่วนตัวถ้าจำเป็นและตนก็ตักเตือนลูกตลอดทุกครั้งว่า อย่าขับรถเร็ว เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องคอยตักเตือนลูกในเรื่องการขับรถ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ลูกเคยมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบ้างเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องปกติของคนขับรถทั่วไป สำหรับรถเฟอร์รารี่คันนี้ ลูกไม่เคยขับรถไปเกิดอุบัติเหตุเลยจนกระทั่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่วนเรื่องดื่มสุราขณะขับรถนั้น ยืนยันว่าลูกชายไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว หากลูกดื่มสุราลูกจะไม่ขับรถ เมื่อคืนนี้ลูกก็ไม่ได้ดื่มสุราแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันฝ่ายคนขับรถเบนซ์และรถกระบะที่เป็นคู่กรณีในเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างเดินทางมาที่ สน.ธรรมศาลา เพื่อพูดคุยเจรจาเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน.-415- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]