ชัวร์ก่อนแชร์:เดินวิ่ง ปั่นจักรยานที่สาธารณะ แพร่เชื้อโควิดไกล 10 เมตรจริงหรือ?

21 กรกฎาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง/เรียบเรียง โดย : ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์/พีรพล อนุตรโสตถิ์


ตามที่มีการแชร์คลิปวิดีโอโดยระบุว่า การออกกำลังกายนอกบ้านสามารถแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ไกลถึง 10 เท่า และการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยานในสวนสาธารณะ สามารถแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ไกลถึง 10 เมตร พร้อมแนะนำว่าควรออกกำลังกายให้อยู่เหนือลมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และดีที่สุดในขณะนี้ ควรออกกำลังกายภายในบ้าน ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วพบว่า จริงบางส่วน ยังไม่ควรแชร์

บทสรุป : จริงบางส่วน ยังไม่ควรแชร์


  • คลิปวิดีโอหรือข้อความที่ระบุว่า การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ในสวนสาธารณะและที่โล่งแจ้ง สามารถแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ไกล 10 เมตร ไม่ใช่เรื่องจริง
  • ข้อมูลที่แชร์เป็นการทดสอบในระบบจำลอง โดยปริมาณละอองฝอยที่ไปไกลได้ถึงขนาดนั้น ไม่ได้มีจำนวนมากพอ ที่จะทำให้สามารถติดเชื้อได้
  • ออกกำลังกายเหนือลมเป็นเรื่องที่ดี แต่ในความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ตลอด ฉะนั้นควรเว้นระยะห่างการออกกำลังกายในพื้นที่สาธารณะ โดยห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร
  • การออกกำลังกายภายในบ้านเป็นเรื่องที่ดี แต่หากจะออกกำลังกายในสวนสาธารณะต้องปฏิบัติตนตามวิถีใหม่อย่างเคร่งครัด

ข้อมูลที่ถูกแชร์

คลิปวิดีโอความยาว 1.17 นาที ถูกแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์แห่งหนึ่ง มีผู้กดถูกใจวิดีโอดังกล่าวจำนวน 267 คน และมีการแชร์คลิปวิดีโอดังกล่าวออกไปมากถึง 168 ครั้ง (ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2564) โดยเนื้อหาในคลิประบุว่า การออกกำลังกายนอกบ้านทำให้เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่กระจายได้ไกลกว่าเดิมมากถึง 10 เท่า และมีการอ้างผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของเบลเยี่ยมและดัตซ์ เกี่ยวกับเรื่องการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง การปั่นจักรยานแบบช้าๆ สามารถแพร่เชื้อได้ไกลกว่า 10 เมตร โดยคลิปวิดีโอดังกล่าว ได้ถูกส่งเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” เป็นจำนวนมาก

 Fact Check : ตรวจสอบข้อมูล 


ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบข้อมูลกับ นพ.อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้คำตอบดังนี้

Q : การออกกำลังกายนอกบ้านสามารถแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ไกลกว่าเดิม 10 เท่า จริงหรือไม่?
A : ไม่จริง เพราะการแชร์ข้อมูลว่าเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ไกลกว่าเดิมถึง 10 เท่านั้น เป็นการทดสอบในระบบจำลองว่าละอองฝอยสามารถแพร่กระจายได้ไกลสูงสุดเพียงใด แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย เช่น ความแรงของลม, ทิศทางลม และปริมาณของเชื้อไวรัสที่อยู่ ณ บริเวณนั้น อย่างไรก็ตามการไอหรือจามเชื้อจะอยู่ได้ในระยะ 1-2 เมตร แต่หากเชื้อจะแพร่กระจายไกลกว่าเดิม 10 เท่า มีความเป็นไปได้น้อยมาก น้อยจนไม่สามารถทำให้เกิดการก่อโรคได้ ถ้าบอกว่าเชื้อสามารถแพร่กระจายได้ถึง 10 เมตร แล้วทำให้ก่อโรคได้นั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะการจะติดเชื้อไวรัสนั้น มีสิ่งที่ต้องพิจารณาสำคัญ 2 อย่าง คือ1.ปริมาณของเชื้อที่รับ ถ้าเชื้อมีปริมาณน้อย ก็ไม่สามารถทำให้เกิดโรคได้ 2. ระยะเวลาในการสัมผัสเชื้อ เช่น การอยู่ร้านกาแฟประมาณครึ่งชั่วโมง, การชมโรงภาพยนตร์ในเวลา 2 ชั่วโมง หรือการนั่งเครื่องบิน 6 ชั่วโมง ฉะนั้นความเสี่ยงจะเป็นอย่างไร ต้องพิจารณาจากระยะเวลาในการสัมผัสเชื้อกับปริมาณของเชื้อที่ได้รับ คลิปวิดีโอที่มีการแชร์มา เป็นการจำลองเหตุการณ์และระบุเพียงว่าเชื้อสามารถแพร่กระจายไปได้ไกลเท่าไหร่ แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อ

Q : การเดิน วิ่ง ปั่นจักยาน สามารถแพร่เชื้อได้ไกลมากกว่าการยืนอยู่เฉยๆ จริงหรือไม่?
A :
เหมือนกับที่ระบุไปในตอนต้น เรื่องนี้เป็นการทดสอบในระบบจำลอง ซึ่งการติดเชื้อสามารถปรับเปลี่ยนได้ ถ้าเราอยู่ใกล้ หรืออยู่หลังผู้ที่มีเชื้อโดยตรง ก็จะมีความเสี่ยง แต่หากมีการเว้นระยะห่างประมาณ 2 เมตรก็จะปลอดภัย และถ้าสามารถเว้นระยะห่างได้มากกว่านั้น ก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

Q : การเว้นระยะห่าง 2 เมตรในการออกกำลังกายในที่สาธารณะจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่?
A :
กรณีนี้จะพูดถึงสวนสาธารณะหรือที่โล่งแจ้งในหมู่บ้าน ยังเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถมาออกกำลังกายได้ เนื่องจากเป็นสถานที่เปิดโล่ง โดยผู้ให้บริการสถานที่และผู้ใช้บริการสถานที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ผู้ให้บริการสถานที่ : 1.ต้องมีการคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ 2.ต้องออกแบบเพื่อลดความแออัดของสวนสาธารณะ 3. ต้องมีป้ายคำแนะนำในการปฏิบัติตนขณะใช้สถานที่ และ 4. ต้องดูแลความสะอาดโดยเฉพาะจุดสัมผัสร่วมอย่างสม่ำเสมอ 

ผู้ใช้บริการสถานที่ : ต้องตรวจสอบว่าตนเองป่วยหรือมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ หากมีความเสี่ยงสูง ไม่ควรมาใช้บริการสวนสาธารณะ หากไม่พบอาการป่วยหรือไม่มีความเสี่ยงสูง สามารถใช้บริการสวนสาธารณะได้ แต่ต้องปฏิบัติตนตามวิถีใหม่ โดยสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างในการออกกำลังกาย และล้างมือบ่อยๆ ส่วนการออกกำลังกายโดยวิธีการวิ่ง ร่างกายจะต้องการปริมาณออกซิเจนจำนวนมาก สามารถถอดหน้ากากได้ แต่ต้องเว้นระยะห่างให้ดี แต่หากเป็นการเดิน ก็ไม่จำเป็นต้องถอดหน้ากาก และที่สำคัญต้องเข้าใจว่าในสถานการณ์เช่นนี้ สวนสาธารณะยังเป็นสถานที่ที่ใช้ในการออกกำลังกาย ไม่ควรนั่งจับกลุ่มพูดคุย หรือรับประทานอาหารร่วมกัน ควรกลับบ้านทันทีหลังออกกำลังกาย เพื่อลดความเสี่ยงของตัวเอง ลดความแออัด และเปิดพื้นที่ให้ผู้อื่นได้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องรู้หน้าที่ของตนเองและปฏิบัติตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดก็จะสามารถลดความเสี่ยงได้มาก 

“สวนสาธารณะและสถานที่เปิดโล่งของหมู่บ้าน ยังเป็นที่ที่ควรจะเปิดให้บริการตามมาตรการวิถีแบบ New Normal อย่างเคร่งครัด เพราะสถานที่ดังกล่าวมีประโยชน์ ทำให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย ได้รับอากาศบริสุทธิ์ และลดความตึงเครียดจากการกักตัวอยู่ในห้องเพียงอย่างเดียว” นพ.อุดม ระบุ  

Q : ในคลิปวิดีโอยังระบุว่า เดิม การไอ จาม สามารถแพร่เชื้อได้ 2 เมตร แต่มีผลวิจัยออกมาว่า หากเดินออกกำลังกายสามารถแพร่เชื้อได้ไกล 4-5 เมตร?
A : อย่างที่ระบุไว้ตอนต้น ข้อมูลที่แชร์เป็นการทดสอบในระบบจำลอง แต่ละอองฝอยที่ไปไกลได้ถึงขนาดนั้น ไม่ได้มีจำนวนมากพอ ที่จะทำให้สามารถติดเชื้อได้ และเราสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการรักษาระยะห่าง

Q : คลิปวิดีโอยังระบุต่อไปว่า การวิ่ง หรือ ปั่นจักยานแบบช้าๆ สามารถแพร่เชื้อได้ไกล 10 เมตร รวมถึงหากปั่นจักรยานเร็วมากๆ สามารถแพร่เชื้อได้ไกล 20 เมตรจริงหรือไม่?
A : เรื่องนี้เป็นคำตอบในกลุ่มเดียวกันซึ่งเป็นการทดสอบในระบบจำลอง แต่เชื้อที่สามารถไปได้ไกลถึงขนาดนั้น ไม่ได้มีปริมาณมากพอ ที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ รวมถึงการเดิน การปั่นจักรยาน การวิ่งเป็นการทดสอบในระบบจำลอง และไม่ได้นำปัจจัยอื่นๆ มาประมวลผล เช่น ทิศทางลม ความแรงของลม รวมถึงปริมาณของเชื้อที่แพร่กระจายไปไกลขนาดนั้น ไม่ได้มีปริมาณเพียงพอที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้

Q : การออกกำลังกายในที่สาธารณะควรเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลเท่าใด? 
A : การออกกำลังกายในที่สาธารณะยังมีความจำเป็น แต่ควรเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร 

Q : ในคลิปวิดีโอยังมีการแนะนำว่า ควรออกกำลังกายอยู่เหนือลมเพื่อป้องกันการติดโรค?
A : หากสามารถออกกำลังกายอยู่เหนือลมได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี แต่เวลาที่เราออกกำลังกายในสวนสาธารณะ เราไม่สามารถอยู่เหนือลมได้ตลอด เพราะฉะนั้นควรใช้หลักในการเลี่ยงความแออัด รักษาระยะห่าง หากเป็นเพียงการเดินเฉยๆ ไม่ได้เหนื่อยมาก ก็ขอให้สวมหน้ากากอนามัย แต่ถ้าเป็นการออกกำลังกายที่เหนื่อยมาก เช่น การวิ่งก็สามารถถอดหน้ากากได้ แต่ต้องเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร

Q :  คลิปวิดีโอแนะนำว่า ดีที่สุดควรออกกำลังกายในบ้านก่อนช่วงนี้?
A : มีส่วนจริง เพราะปัจจุบันเราอาจมีข้อจำกัดในการใช้สวนสาธารณะ ถ้าเราปรับตัวและมีการออกกำลังกายในบ้านหรือในคอนโด ก็ยังมีคลิปวีดีโอแนะนำการออกกำลังกายที่ดีอยู่จำนวนมาก เช่น การแอโรบิกภายในบ้าน การเล่นโยคะภายในบ้าน หรือการฝึกซ้อมคีตะมวยไทยภายในบ้าน ทั้งนี้การออกกำลังกายในบ้านก็เป็นสิ่งที่ดี แต่บางคนก็ยังชอบที่จะออกกำลังกายภายนอกหรือ Out door  ซึ่งไม่ได้เป็นข้อห้าม แต่ต้องปฏิบัติอย่างเหมาะสมตามมาตรการที่ได้กล่าวไป

Q : สรุปแล้วคลิปที่มีการแชร์กันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สามารถแชร์ต่อได้หรือไม่?
A : เรื่องนี้จริงบางส่วน แต่ยังไม่ควรแชร์ เพราะเป็นการทดสอบในระบบจำลอง และในคลิปวิดีโอไม่ได้ระบุว่าละอองฝอยที่แพร่กระจายไปได้ไกล ยังมีปริมาณไม่มากพอที่จะทำให้ติดเชื้อได้ การแชร์คลิปวีดีโอดังกล่าวจะทำให้เกิดการกลัวการออกกำลังกาย ซึ่งในความจริงแล้วองค์การอนามัยโลก (WHO) และกรมอนามัย ยังแนะนำให้ออกกำลังกาย เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ แม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ผู้ออกกำลังกายมีสุขภาพดี ห่างไกลจากโรค NCDs และเสริมภูมิต้านทาน ในเรื่องนี้มีความจริงบางส่วน แต่ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องแชร์ อย่างไรก็ตามเราสามารถปรับตัวและออกกำลังกายภายในบ้านได้ แต่หากเป็นสวนสาธารณะหรือที่โล่งแจ้งภายในหมู่บ้านที่ไม่ได้มีความแออัด ก็สามารถไปใช้บริการได้ ตามมาตรการความปลอดภัยที่ถูกต้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  1. การสัมภาษณ์ นพ.อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564
  2. คลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ https://www.facebook.com/WhiteNewstv/posts/2977884558960339

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]