ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีน mRNA ของ Pfizer ทำให้หนูตายด้วยมะเร็ง Turbo Cancer จริงหรือ?

28 พฤษภาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่ามีงานวิจัยที่พบว่าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ของบริษัท Pfizer มีคุณสมบัติเป็นตัวกระตุ้นการเกิดมะเร็งหรือ Turbo Cancer หลังพบหนูทดลองเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหลังรับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ในเวลาไม่กี่วัน


บทสรุป :

  1. Turbo Cancer ไม่มีจริง
  2. หนูที่ตายจากมะเร็งได้รับวัคซีน Pfizer ปริมาณมากกว่ามนุษย์ 600 เท่า ไม่สามารถเทียบผลที่จะเกิดกับมนุษย์ได้
  3. หนูทดลองอีก 70 ตัวที่ได้รับวัคซีนเหมือนกัน ไม่มีตัวไหนป่วยเป็นมะเร็ง
  4. งานวิจัยมากมายไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีนกับมะเร็ง หรือวัคซีนโควิด-19 กับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ข้อความที่กล่าวอ้าง นำมาจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Frontiers in Oncology เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2023 ซึ่งเป็นการศึกษาผลกระทบของวัคซีน mRNA กับอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ


ทีมวิจัยได้แบ่งหนูออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 14 ตัว โดยกลุ่มทดลองได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ของบริษัท Pfizer ผ่านทางหลอดเลือดดำ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับยาหลอกเป็นน้ำเกลือ

แม้ไม่พบอาการข้างเคียงในหนูส่วนใหญ่ แต่พบว่ามีหนูทดลอง 1 ตัวเสียชีวิตจากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด B-cell lymphoma (DLBCL) หลังจากรับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA เข็มที่ 2 ไปเพียง 2 วัน

อย่างไรก็ดี แซนเดอร์ เอนส์ นักวิจัยด้านโรคหลอดเลือดหัวใจ มหาวิทยาลัยแอทเวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ผู้ร่วมวิจัยยืนยันว่า งานวิจัยไม่ได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีน mRNA กับโรคมะเร็ง โดยย้ำว่าทีมวิจัยได้ทดลองวัคซีนกับหนูไปกว่า 70 ตัวแล้ว และไม่พบว่ามีหนูตัวอื่น ๆ ที่แสดงอาการของโรคมะเร็งอีกเลย

ปริมาณวัคซีนมากกว่ามนุษย์ 600 เท่า

เดวิด กอร์สกี ศัลยแพทย์โรคมะเร็ง และศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเวย์น สเตท สหรัฐอเมริกา วิเคราะห์ว่า ความแตกต่างระหว่างวัคซีนที่ใช้ในการทดลองกับที่ใช้ในมนุษย์ นอกจากใช้วิธีฉีดเข้าหลอดเลือดดำแทนการฉีดเข้ากล้ามเนื้อแล้ว ปริมาณวัคซีนที่ใช้ยังสูงกว่าปริมาณที่ใช้ในมนุษย์อย่างมาก

วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ของบริษัท Pfizer สูตรสำหรับผู้ใหญ่จะมีปริมาณ 30 ไมโครกรัม โดยคนที่มีน้ำหนักตัวเฉลี่ย 70 กิโลกรัม จะได้รับปริมาณวัคซีน 0.000428 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กรัม

ส่วนหนูทดลองซึ่งมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยประมาณ 24 กรัม ได้รับปริมาณวัคซีนที่ 6 ไมโครกรัม เท่ากับว่าหนู 1 ตัวได้รับปริมาณวัคซีน 0.25 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กรัม

เมื่อเทียบปริมาณวัคซีนต่อน้ำหนักตัวแล้ว หนูทดลองได้รับวัคซีนมากกว่ามนุษย์ถึง 600 เท่า จึงไม่อาจนำผลที่เกิดจากการฉีดวัคซีนในหนูทดลอง มาเปรียบเทียบกับผลจากการฉีดวัคซีนในมนุษย์ได้

สัญญาณมะเร็งในหนูก่อนการทดลอง

เดวิด กอร์สกี ยังพบความผิดปกติของหนูทดลองที่ป่วยตายจากมะเร็ง โดยพบว่าหนูตัวดังกล่าวมีน้ำหนักตัวลดลงผิดปกติตั้งแต่ช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนได้รับวัคซีน จึงเป็นไปได้อย่างมากว่า หนูน่าจะป่วยเป็นมะเร็งตั้งแต่ก่อนการทดลองแล้ว

หนูสายพันธุ์ที่เอื้อต่อการเป็นมะเร็ง

ซานเจย์ มิชชา นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสโควิด-19 และโรคมะเร็ง มหาวิทยาลัยบราวน์ สหรัฐอเมริกา ชี้แจงว่า หนูที่ใช้ในการทดลอง (BALB/c) เป็นสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน และเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นสายพันธุ์ที่นิยมใช้ทดลองในงานด้านพยาธิวิทยาเนื้องอก

ซานเจย์ มิชชา ยังย้ำว่า วิธีการฉีดเข้าหลอดเลือดและปริมาณวัคซีนโดสสูง คือข้อจำกัดของงานวิจัยที่ไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกับการฉีดวัคซีนในมนุษย์ได้

สมมติฐานเรื่องวัคซีนกับมะเร็ง

ในอดีต วงการวิทยาศาสตร์เคยตั้งสมมติฐานว่า การทำงานของวัคซีนอาจมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

แต่งานวิจัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากจะไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีนกับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแล้ว บางครั้งยังพบว่าวัคซีนช่วยลดความเสี่ยงอีกด้วย

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cancer Epidemiology, Biomarkers & Prevention เมื่อปี 2022 ศึกษาประวัติการรับวัคซีนโรคตับอักเสบเอและบี วัคซีนไข้เหลือง และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 2,461 และกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 2,253 ราย โดยผลวิจัยไม่พบว่า การฉีดวัคซีนเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และบางรายยังพบว่าการฉีดวัคซีนช่วยลดความเสี่ยงอีกด้วย

วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA กับอาการต่อมน้ำเหลืองบวมโต

เมื่อต้นปี 2023 นักวิจัยชาวเยอรมันได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA กับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังพบผู้ป่วยมะเร็ง 2 รายที่พบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ในแขนข้างเดียวกับที่ฉีดวัคซีน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า การฉีดวัคซีนที่หัวไหล่อาจไปกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณรักแร้ของแขนข้างเดียวกัน

ทีมวิจัยได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการฉีดวัคซีนโควิด-19 และการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกับกลุ่มตัวอย่าง 313 รายในโรงพยาบาล 2 แห่ง โดยพบว่าก่อนช่วงการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 มีผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองข้างเดียวจำนวน 16 ราย และหลังจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 พบผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองข้างเดียวจำนวน 11 ราย ซึ่งถือว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็ได้รับการยืนยันว่า วัคซีนไม่ใช่สาเหตุของโรคเช่นกัน

วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA มีความปลอดภัยต่อผู้ป่วยมะเร็ง

แม้ในการทดลองทางคลินิกระยะแรก การทดลองวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA กับผู้ป่วยมะเร็งยังมีอย่างจำกัด แต่ภายหลังมีการศึกษาความปลอดภัยของวัคซีนกับผู้ป่วยมะเร็งมากขึ้น โดยพบว่าอาการข้างเคียงจากวัคซีนระหว่างคนทั่วไปและผู้ป่วยมะเร็งไม่มีความแตกต่างกัน และไม่พบว่าวัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ทำให้มะเร็งกลับมากำเริบ หรือทำให้ผู้ป่วยมะเร็งอาการทรุดลงแต่อย่างใด

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่องระดับปานกลางถึงรุนแรง รวมถึงผู้ป่วยมะเร็งเลือดชนิดต่าง ๆ ควรได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวนโดสมากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากการรักษาทำให้ผู้ป่วยได้รับภูมิคุ้มกันจากวัคซีนน้อยกว่าปกติ

ส่วนผู้ป่วยที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เช่นผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ แนะนำให้เลื่อนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ออกไปก่อน เนื่องจากประสิทธิผลของวัคซีนจะลดต่ำลงจากการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่เพราะวัคซีนมีปัญหาด้านความปลอดภัยแต่อย่างใด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/08/covid-19-vaccines-have-not-been-shown-to-cause-turbo-cancer/
https://healthfeedback.org/claimreview/claim-mouse-study-shows-covid-19-vaccine-causes-turbo-cancer-misinterprets-study-findings/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลแถลงยันกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยื่นประท้วง ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลแถลงยืนยันไทยมีความจริงใจ-หยุดยิงตามข้อตกลง แต่กัมพูชากลับยิงใส่ทหารไทยหลายพื้นที่ จึงได้ประท้วงไปที่ ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน ขอประชาชนอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้รอผลยืนยันจากรัฐ พร้อมสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ปกป้องอธิปไตยประเทศ-คุ้มครองประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ประเทศ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

เปิด 7 ข้อตกลง วงหารือ “กองทัพภาค 2 – กัมพูชา”

29 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการทางทหารฝ่ายกัมพูชา ก่อนได้ข้อสรุปตกลงร่วมกัน 7 ข้อ พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่รถตู้ของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ฝั่งไทย จะขับออกจากด่านช่องจอมไป -สำนักข่าวไทย