ชัวร์ก่อนแชร์ CyberUpdate🚀 : 2 พ.ค. 67 วันรหัสผ่านโลก ! รหัสผ่านของคุณปลอดภัยแล้วหรือยัง ?

ทุกวันนี้พาสเวิร์ดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การล็อกอินเข้าโซเซียลมีเดีย ช็อปปิ้งออนไลน์ ดูหนังผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิง โอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวทางดิจิทัลอีกหลายอย่าง ล้วนต้องใช้พาสเวิร์ดด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นการตั้งรหัสผ่านหรือพาสเวิร์ดที่รัดกุมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่รู้หรือไม่ว่า รหัสผ่านที่คนใช้มากที่สุดในโลก และครองแชมป์ติดต่อกันหลายปี กลับเป็นตัวเลขเรียงต่อกัน อย่าง 123456 ซึ่งเป็นรหัสผ่านที่ทั้งจดจำง่ายและแฮกได้ภายในไม่ถึง 1 นาที ทำให้วันรหัสผ่านโลก ถือกำเนิดขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของการตั้งรหัสผ่านที่รัดกุม และวันนี้ชัวร์ก่อนแชร์ CyberUpdate จะพาทุกคนไปรู้จักกับที่มาของวันพาสเวิร์ดโลกกันค่ะ


จุดเริ่มต้นของวันพาสเวิร์ดโลก 

วันพาสเวิร์ดโลก (World Password Day) เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2556 โดยบริษัท Intel จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีแรกของเดือนพฤษภาคม ในปีนี้ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เพื่อเน้นย้ำให้ทุกคนเห็นความสำคัญในการตั้งค่ารหัสผ่านที่ปลอดภัย เนื่องจากปัญหาภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลบัญชีรั่วไหล หรือการโดนแฮกบัญชีออนไลน์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 


จากรายงานของบริษัท NordPass (2023) เผยให้เห็นว่า  86% ของการโจมตีทางโลกไซเบอร์ได้มาจากข้อมูลส่วนตัวที่ถูกขโมยมา โดยมีทั้ง บัญชีธนาคารออนไลน์ อีเมล และรหัสผ่าน ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายบ่อยที่สุดบน Dark Web แต่คนจำนวนมากก็ยังเลือกที่จะใช้รหัสผ่านที่ง่าย มักเลือกใช้เป็นชุดตัวเลขเรียงกันหรือใช้เป็นรหัสผ่านที่ระบบกำหนดค่าเอาไว้ โดยไม่ได้คำนึงถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยด้วยรหัสผ่านที่คาดเดายากเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

 10 รหัสผ่านที่คนไทยใช้มากที่สุดในปี 2023 หากใครยังใช้อยู่ รีบเปลี่ยนด่วน !
1. 123456
2. Aa123456
3. admin
4. 12345678
5. 123456789
6. password
7. Ar123455
8. aa123456
9. 12345
10. 123456Za

จะเห็นได้ว่ารหัสผ่านหลายอันดับข้างต้น เป็นแค่ตัวเลขเรียงต่อกัน หรือคำที่ระบบตั้งไว้ในตอนแรก เสี่ยงต่อการโดนแฮกได้ง่าย ซึ่งรหัสผ่านที่ดีควรมี 4 องค์ประกอบ  ได้แก่ 


1. ตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ 

2. ตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์เล็ก 

3. ตัวเลข 

 4. สัญลักษณ์พิเศษ

โดยองค์ประกอบเหล่านี้ ควรจะคละอยู่ในรหัสผ่าน และควรมีความยาว 12 ตัวขึ้นไป

ร่วมฉลองวันพาสเวิร์ดโลกด้วยการตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย 

 ชัวร์ก่อนแชร์ ขอชวนทุกคนมาร่วมฉลองวันพาสเวิร์ดโลก ด้วย 7 เทคนิคในการตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัยกันค่ะ 

1. รหัสดี มีเอกลักษณ์ 

เราสามารถตั้งรหัสผ่าน

จากข้อมูลส่วนตัวได้ แต่ต้องแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

เช่น การนำเบอร์โทรศัพท์มาตั้ง แล้วทำให้ตัวอักษรเดายากขึ้น

โดยนำตัวอักษรอย่าง ชื่อของเรา มาแทรกเข้าไปอยู่ระหว่างตัวเลข 

หรืออาจใช้ประโยคที่เราชอบ ชื่อสถานที่ที่เราชอบ

แล้วเปลี่ยนตัวอักษรเป็นตัวเลข สัญลักษณ์ 

เช่น เปลี่ยนจาก I เป็นเครื่องหมายตกใจ 

เปลี่ยนจากตัว O เป็นเลขศูนย์ 

2. อักษรซ่อนรหัสลับ 

cyfence.com ได้แนะนำการตั้งรหัสผ่าน 

จากค่าหรือตัวอักษร 2 – 3 ตัว 

และวางมือที่ปุ่ม QWERTY Keyboard 

เลียนแบบการลากเส้นเป็นตัวอักษร

เช่น ตัวอักษร V ให้กดปุ่มดังนี้ 

ก็จะได้รหัสเป็น 1qazse4 

หรือหากต้องการให้ซับซ้อนขึ้น 

ให้กดคละตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็กสลับกันก็ได้ค่ะ

3. สลับโหมดแป้นพิมพ์ 

ใช้การพิมพ์รหัสผ่านเป็นประโยคภาษาไทย 

แล้วให้คีย์บอร์ดของเราอยู่ในโหมดภาษาอังกฤษ 

แต่ไม่ควรใช้คำทั่วไปที่มีในพจนานุกรม 

เพราะแฮกเกอร์สามารถใช้โปรแกรมการเดารหัสผ่าน

เปรียบเทียบจากฐานข้อมูลคำศัพท์ได้ 

4. กระหยิ่มใจใช้บทเพลง 

การตั้งรหัสผ่านด้วยตัวอักษรแรกของท่อนเนื้อเพลงที่ชอบ 

และจำได้ง่าย 

5. เพ่งรหัส เสริมเรื่องราว 

เป็นเทคนิคที่แนะนำโดยนักวิศวคอมพิวเตอร์

จาก Carnegie Mellon University 

ให้ลองคิดชุดคำเป็นเรื่องราวว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน 

อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง เป็นเรื่องสนุกๆ ที่เราสามารถจำได้ 

แล้วแปลงเป็นรหัส

6. เสริมกล่าว ชื่อแพลตฟอร์ม 

เวลาตั้งรหัสไม่ควรตั้งให้ซ้ำกันสำหรับบัญชีแต่ละแพลตฟอร์ม 

เพราะถ้าเจาะเข้าบัญชีไหนได้ ก็อาจลามไปทุก ๆ บัญชีได้ 

แต่จะให้แตกต่างกันทุกอันก็อาจจำยากเกินไป 

เราอาจใช้การขึ้นหัวหรือปิดท้ายรหัสด้วยชื่อแพลตฟอร์มนั้น ๆ 

เช่น รหัสที่ใช้สำหรับ facebook 

ก็จะเป็น รหัสผ่านแล้วตามด้วย FB 

หรือถ้าเป็น LINE 

ก็จะเป็นรหัสผ่านเดิม แต่ตามด้วยคำว่า LINE 

7. พร้อมปรับ ตามวันที่ 

รหัสผ่านควรเปลี่ยนอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง 

และเพื่อความจำง่าย 

อาจใช้วันเดือนปีที่ตั้งรหัสผ่านครั้งล่าสุดเข้าไปอยู่ในรหัสด้วย

ซึ่งหากเมื่อไหร่เราลืม หรือกดผิดไป 

ก็สามารถดูได้ว่า เราเปลี่ยนรหัสล่าสุดเมื่อไหร่

เช่น เปลี่ยนรหัสเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2565 

ก็จะเป็นรหัสผ่านของเราแล้วตามด้วย 06032565  

ใกล้ถึงยุคจุดจบของรหัสผ่าน ! Passkeys คืออะไร ?

ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบการยืนยันตัวตนอย่าง Passkeys ขึ้นมา ช่วยให้ผู้ให้งานสามารถเข้าสู่ระบบได้ง่ายและปลอดภัยกว่าการใช้รหัสผ่านแบบเดิม โดยเป็นการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติ  เช่น ลายนิ้วมือ สแกนใบหน้า หรือสแกน QR CODE ผ่านเว็บไต์หรือแอปพลิเคชันที่รองรับระบบ Passkeys ได้ทันที ซึ่งวิธีนี้จะมีความปลอดภัยมากกว่าการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย ป้องกันการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง มัลแวร์ การรั่วไหลของข้อมูล และป้องกันการโจมตีแบบอื่น ๆ ได้ ซี่งมีหลายบริษัทหันมาใช้การยืนยันตัวตนด้วยระบบ Passkeys แล้ว ทั้ง Google, Tiktok, Whatsapp, Amazon ดูบริการและแอปพลิเคชันที่รองรับระบบ Passkeys เพิ่มเติม https://www.passkeys.io/who-supports-passkey

สำหรับใครที่อยากทดลองใช้ สามารถเข้าไปลองได้ที่นี่ https://www.passkeys.io/

  อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พาสคีย์ กำลังจะเริ่มแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยเรื่อย รหัสผ่านแบบดั้งเดิม รวมทั้งการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน ก็ยังคงมีความจำเป็น สำหรับการปกป้องสิ่งมีค่าของเรา ไม่ว่าจะเป็นตัวตนหรือทรัพย์สินเงินทอง ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจในการตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง แยกแยะไม่ใช้ซ้ำอยู่รหัสเดียว และเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอนหากเป็นไปได้ เพราะแท้จริงแล้วไม่ว่าเทคโนโลยีจะรัดกุมขนาดไหนก็ตาม แต่กุญแจสำคัญของความปลอดภัยสูงสุด ก็ยังอยู่ที่ตัวเรานั่นเอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

คุณหญิงกัลยา ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

กทม. 19 ก.ย.-คุณหญิงกัลยา ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ผ่านมา คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า “ข้าพเจ้า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ขอเรียนแจ้งความประสงค์ในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการที่ข้าพเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของพรรค ข้าพเจ้าได้รับเกียรติและประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมผลักดันนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการสร้างโอกาสให้เยาวชนประสบความสำเร็จ รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ เพื่อแก้จน แก้หลาก และแก้แล้ง อันช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังคงมีความเชื่อมั่นว่า “การศึกษา คือรากฐานสำคัญที่สุดในการพัฒนาคนและชาติ” จึงตั้งใจจะอุทิศเวลาและความรู้ ความสามารถทั้งหมดต่อจากนี้ เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย สร้างโอกาสที่เท่าเทียม และขับเคลื่อนการเรียนรู้สู่ความยั่งยืนต่อไป ขอขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มอบโอกาสและความไว้วางใจเสมอมา ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้ประสบความสำเร็จในภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติสืบไป”.-315.-สำนักข่าวไทย

พายุดีเปรสชันทวีกำลังเป็นโซนร้อน “มิแทก” ส่งผลไทยฝนเพิ่ม

กรุงเทพฯ​ 19 ก.ย.​-กรมอุตุฯ เผย​พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “มิแทก” (MITAG) แล้วบ่าย​วานนี้ แม้ไม่เคลื่อนเข้าไทยโดยตรง แต่ส่งผลกระทบทางอ้อม ตอนกลางประเทศ​ฝนเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ และต้องเฝ้าระวังพายุอีกลูกช่วงปลายเดือนนี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้​พายุโซนร้อน “มิแทก” มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.3 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งทางตะวันออกของประเทศจีนตอนใต้ในวันนี้​(19 กันยายน) แม้พายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ไทยโดยตรง แต่ส่งผลทางอ้อม ทำให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 19–26 กันยายน 2568 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี จันทบุรี ตราด รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เช่น […]