02 มกราคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลที่ถูกแชร์ :
มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทาง Facebook และ X(Twitter) ในต่างประเทศ ที่อ้างว่าสภาวะโลกร้อนหรือ Global Warming จากปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในชั้นบรรยากาศเป็นเรื่องที่สังคมตื่นกลัวเกินจริง เนื่องจากในชั้นบรรยากาศมีคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 0.04% เท่านั้น
บทสรุป :
- แม้ CO2 ในชั้นบรรยากาศจะมีเพียง 0.04% แต่ก่อนยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมโลกมีปริมาณ CO2 เพียง 0.028%
- CO2 ที่มากขึ้น ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้น 1.1 องศาเซลเซียส
- หากปริมาณ CO2 เพิ่มเป็น 0.05% อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
บทบาทของ CO2 ต่อการควบคุมอุณหภูมิโลก
เมื่อโลกได้รับพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ พลังงานเหล่านั้นจะถูกสะท้อนกลับไปยังนอกโลกในรูปแบบของรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อน
99% ของบรรยากาศโลก ประกอบด้วยแก๊สที่ไม่สามารถกักเก็บความร้อนที่สะท้อนจากผิวโลกได้ (ไนโตรเจน 78% ออกซิเจน 21% อาร์กอน 0.9%) ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 1% เป็นแก๊สที่สามารถกักเก็บความร้อนจากผิวโลก หนึ่งในนั้นคือแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (0.04%)
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สามารถกักเก็บความร้อนไว้ในชั้นบรรยากาศโลกครึ่งหนึ่ง และส่งความร้อนออกจากชั้นบรรยากาศโลกอีกครึ่งหนึ่ง จึงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect)
หากไม่มีแก๊สเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ที่คอยกักเก็บความร้อนในชั้นบรรยากาศ โลกอาจมีอุณหภูมิลดต่ำถึง -17 องศาเซลเซียส ซึ่งสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
บทบาทของแก๊สเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 15 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะสมสำหรับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่
การเพิ่มขึ้นของ CO2 ในชั้นบรรยากาศ
แม้ปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จะอยู่ในชั้นบรรยากาศเพียง 0.04% แต่ไม่ได้หมายความว่าจำนวนดังกล่าวจะไม่เป็นเรื่องน่ากังวลต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลจาก Earth System Science Data พบว่า ใน ค.ศ. 1750 หรือประมาณ 10 ปีก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 โลกมีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 278 ppm หรือ 0.028%
กระทั่งการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. 2022 ปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในปัจจุบันอยู่ที่ 417 ppm หรือ 0.042% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 50%
ข้อมูลจาก NASA พบว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1880 หรือช่วงเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 1.1 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ยังอยู่ในชั้นบรรยากาศได้นานถึง 300-1,000 ปี จึงเป็นตัวการสำคัญสำหรับปัญหาสภาวะโลกร้อน
ผลกระทบต่อโลก หาก CO2 สูงกว่า 0.04%
เปาโล เซปปิ รองศาสตราจารย์ด้านภูมิอากาศวิทยา มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน อธิบายว่า หากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศเพิ่มจาก 0.04% เป็น 0.05% เมื่อใด อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งวงการวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมกังวลว่า หากโลกมีอุณหภูมิเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ย 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อใด จะก่อเกิดปัญหาสภาพภูมิอากาศแปรปรวนสุดขั้วไปทั่วโลก และความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมอาจจะไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกเลย
และหากปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็น 0.10% อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มอีกหลายองศา และจะเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลก
เปาโล เซปปิ ชี้แจงว่า แม้คาร์บอนไดออกไซด์เพียง 0.04% ในบรรยากาศดูจะเป็นตัวเลขที่เล็กน้อย เปรียบเหมือนเกลือที่อยู่ในอาหารแต่ละมื้อ แต่การเพิ่มปริมาณเกลือเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตได้เช่นกัน
โรเบิร์ต เบรชา ศาสตราจารย์ด้านความยั่งยืน มหาวิทยาลัยเดย์ตัน เปรียบเทียบว่า 0.04% ของน้ำหนักตัว เทียบได้กับก้อนมะเร็งขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 นิ้ว แม้จะมีขนาดเล็กแต่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน
เป้าหมายสำคัญจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปี ค.ศ. 2023 หรืองาน COP28 คือการควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกด้วยการลดการใช้พลังงานฟอสซิล
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.reuters.com/fact-check/share-co2-atmosphere-not-reflection-its-climate-impact-2024-01-04/
https://www.politifact.com/article/2023/apr/21/is-only-004-of-the-atmosphere-but-a-viral-video-ig/
https://news.climate.columbia.edu/2019/07/30/co2-drives-global-warming/
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter