ชัวร์ก่อนแชร์: ไม่ควรลด CO2 เพราะ CO2 ช่วยให้พืชเติบโตเร็วขึ้น จริงหรือ?

05 กุมภาพันธ์ 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทาง Facebook และ X (Twitter) ในต่างประเทศ ที่อ้างงานวิจัยที่พบว่าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชหลายชนิด เห็นได้จากกลุ่มผู้ปลูกพืชในเรือนกระจก ที่นิยมใช้เครื่องกำเนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Generators) เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืช การลดปริมาณ CO2 ในธรรมชาติจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง และทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนอาหารไปทั่วโลก


บทสรุป :

  1. พืช C3 ต้องการ CO2 มากกว่าพืชชนิดอื่น แต่การเพิ่ม CO2 เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชในเรือนกระจกที่ปัจจัยด้านน้ำและดินมีความสมบูรณ์
  2. ในธรรมชาติที่ปัจจัยด้านน้ำและดินมีอย่างจำกัด การเพิ่ม CO2 ในบรรยากาศจะนำมาซึ่งภัยแล้งและคลื่นความร้อน ส่งผลเสียต่อการเพาะปลูกโดยรวม
  3. งานวิจัยพบว่าการเพิ่ม CO2 ทำให้พืช C3 ให้ผลผลิตมากขึ้น แต่ผลผลิตกลับมีคุณค่าทางโภชนาการลดลง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

คาร์บอนไดออกไซด์ กับการเติบโตของพืช C3


ในกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช จะมีกระบวนการที่เรียกว่าการตรึงคาร์บอน (Carbon Fixation) หรือการเปลี่ยนคาร์บอนอนินทรีย์ซึ่งอยู่ในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์ ให้มาอยู่ในรูปของสารประกอบอินทรีย์คือน้ำตาลกลูโคส สำหรับใช้เป็นพลังงานสะสมของพืชต่อไป

การตรึงคาร์บอนจะแบ่งตามชนิดของพืช มีด้วยกัน 3 แบบ คือ การตรึงคาร์บอนแบบ C3 C4 และ CAM

พืช C3 หรือพืชที่มีการตรึงคาร์บอนแบบ C3 ถือเป็นพืชที่พบได้มากที่สุด หรือ 95% ในธรรมชาติ ได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าวสาลี ถั่วเหลือง และข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น

พืช C3 มีแนวโน้มเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่แสงแดดปานกลาง อุณหภูมิปานกลาง และมีความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 200 ppm หรือสูงกว่า

ดังนั้น พืช C3 จึงเป็นพืชที่ต้องการคาร์บอนไดออกไซด์ในการเจริญเติบโตมากกว่าพืชที่มีการตรึงคาร์บอนแบบ C4 และ CAM

บิดเบือนงานวิจัย

อย่างไรก็ดี การนำงานวิจัยมาอ้างว่าไม่ควรลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นการนำเสนองานวิจัยอย่างไม่ครบถ้วน

งานวิจัยที่ถูกนำมาอ้างได้แก่หัวข้อ “Higher CO2 concentrations increase photosynthesis in C3 plants” (คาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณสูงช่วยเร่งกระบวนการสังเคราะห์แสงในพืช C3) ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet เมื่อปี 2019

คริสตี เอบี ศาสตราจารย์จากศูนย์สุขภาพและสิ่งแวดล้อมโลก มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เจ้าของงานวิจัยร่วมชี้แจงต่อ Fact Checker ของสำนักข่าว AP ว่า คาร์บอนไดออกไซด์คืออาหารที่สำคัญของพืช งานวิจัยพบว่า ขณะที่ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้พืชมีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วขึ้น 85% แต่ขณะเดียวกันกลับทำให้คุณค่าทางอาหารลดลง

ทีมวิจัยจึงลงความเห็นว่าการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อหวังเพิ่มผลผลิต ได้ผลลัพธ์ที่ไม่คุ้มค่าและไม่เป็นผลดีต่อโลก เพราะปัจจุบันมีประชากรโลกกว่า 830 ล้านคนที่เผชิญปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร และอีก 2 พันล้านคนที่มีปัญหาขาดแคลนแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย

การปลูกพืชในธรรมชาติไม่เหมือนการปลูกพืชในเรือนกระจก

เครื่องกำเนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะมีประโยชน์ต่อพืชในเรือนกระจก ต่อเมื่อปริมาณ CO2 กับปริมาณน้ำและแสงแดดไม่สมดุลกัน

เควิน กริฟฟิน ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยา มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย อธิบายว่า ในเรือนกระจกที่ผู้ปลูกพืชให้น้ำและปุ๋ยอย่างพอเพียง หากเกิดการขาดแคลนปริมาณ CO2 การใช้เครื่องกำเนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะช่วยเร่งผลผลิตได้อย่างมาก แต่หากปริมาณน้ำขาดแคลน การใช้เครื่องกำเนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ไม่ได้ผลเช่นกัน

แต่ในระบบนิเวศน์ ที่ CO2 มีอย่างพอเพียง แต่ปัจจัยด้านปริมาณน้ำ สภาพดิน อุณหภูมิที่เหมาะสม ถือเป็นทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด การเพิ่มขึ้นของ CO2 จะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมโดยรวม ทั้งสภาพอากาศแปรปรวน คลื่นความร้อน และภัยแล้ง ซึ่งส่งผลเสียต่อผลผลิตทางการเกษตรที่รุนแรงยิ่งกว่า

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.reuters.com/article/idUSL1N2Z01O0/
https://apnews.com/article/fact-check-climate-co2-carbon-emissions-plants-crops-167887410508
http://www.thaischool1.in.th/_files_school/90100566/data/90100566_1_20150108-110615.pdf
http://www.sc.chula.ac.th/courseware/2305103/add_topics/add3/2_photosynthesis.html
https://il.mahidol.ac.th/e-media/science4/plant/teacher.htm

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร