ชัวร์ก่อนแชร์ : กินหมูกระทะ ไม่แยกตะเกียบ เสี่ยงไข้หูดับ จริงหรือ ?


24 สิงหาคม 2566 – ตามที่มีการแชร์ข้อความเตือนว่า แพทย์เจอติดเชื้อไข้หูดับเพียบ เหตุกินหมูกระทะไม่แยกตะเกียบคีบหมูดิบนั้น


บทสรุป : จริง แชร์ได้

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ น.สพ.ดร.สถาพร จิตตปาลพงศ์ คณบดีคณะเทคนิคการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  


โรคไข้หูดับ คืออะไร ?

โรคไข้หูดับ คือ โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) จากหมู 

โรคนี้จะเข้าสู่ร่างกายได้ 2 ทาง คือ


  1. การกินเนื้อหมูแบบสุก ๆ ดิบ ๆ 
  2. สัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ ซึ่งจะติดต่อสู่คนทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกาย ทางที่ดีที่สุดถ้าเรามีบาดแผล ก็หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง รวมถึงการกินเนื้อหมูก็ต้องมั่นใจว่าหมูที่เรากินเข้าไปนั้นสุกจริง ๆ เพราะส่วนใหญ่พบว่าผู้ป่วยได้รับเชื้อ Streptococcus suis มาจากการกิน “หมูกระทะ” ไม่แยกตะเกียบคีบหมูดิบ หรือใช้คีบหมูดิบหมูสุกปะปนกัน

ดังนั้น เรื่องนี้จริง แชร์ได้ เพราะเป็นประโยชน์ สามารถช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้

ข้อความที่แชร์มา :

แพทย์อินเทิร์นกุมขมับ! เจอเคสติดเชื้อไข้หูดับเพียบ! เหตุกิน หมูกระทะ ไม่แยกตะเกียบคีบหมูดิบ แม้จะรณรงค์ให้ระวังอยู่เรื่อยๆ แต่จำนวนผู้ป่วยก็ยังเยอะ

เมื่อไม่กี่วันก่อน แพทย์อินเทิร์นเจ้าของบัญชี @fufernfu ในสื่อโซเชียล X (ทวิตเตอร์) ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ว่า “ไม่กล้ากินหมูกระทะอีกแล้ว เพราะวอร์ดผู้ป่วยที่ดูแลอยู่ พบเคสผู้ป่วยติดเชื้อ Streptococcus suis (เชื้อก่อโรคหูดับ) ในสมองเยอะมาก โดยประวัติผู้ป่วย คือ กินหมูกระทะไม่เปลี่ยนตะเกียบ วันนี้ก็เจออีกแล้ว รณรงค์ให้ทุกร้านมีตะเกียบคีบหมูดิบแยกต่างหาก”

จากนั้นประเด็นนี้ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และเผยแพร่ไปในวงกว้างบนโลกออนไลน์ โดยอินเทิร์นต้นเรื่องได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการติดเชื้อ “โรคหูดับ” ในสมองไว้ด้วยว่า เมื่อติดเชื้อแล้วไม่ใช่ว่าจะมีอาการ “หูดับ” อย่างเดียว แต่ยังมีอาการอื่น ๆ ที่ต้องระวังด้วย เช่น มีไข้สูง ปวดหัวมาก คอแข็งขยับไม่ได้

บางรายมาด้วยพฤติกรรมโวยวาย เอะอะ ทำร้ายคนอื่น ตำรวจพามาส่งโรงพยาบาลเพราะคิดว่าติดสารเสพติดบางชนิด แต่พอเจาะน้ำไขสันหลังไปตรวจ ปรากฏว่า “ติดเชื้อในสมอง” จากเชื้อ Streptococcus suis เช่นกัน

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Streptococcus suis แล้วจะแสดงอาการป่วยหลังจากได้รับเชื้อเข้าร่างกายไปประมาณ 1-2 วัน ไปจนถึงประมาณ 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่ร่างกายแข็งแรงมีโอกาสหายเป็นปกติ แต่หากเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวด้วยก็มักจะมีภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะหากมีอาการหูดับต้องรักษากันต่อยาว ๆ

ขณะเดียวกันก็มีหลายคนตั้งคำถามว่า แล้วถ้าบางร้านหมูกระทะไม่มีที่คีบหมูดิบมาให้ ควรแยกตะเกียบใช้งานอย่างไร ระหว่างการคีบเนื้อหมูดิบกับคีบหมูสุก มีการให้คำแนะนำการแยกตะเกียบคีบหมูเบื้องต้น จากหลากหลายความเห็นต่อโพสต์ดังกล่าว โดยสรุปข้อมูลได้ดังนี้

  1. ใช้ตะเกียบไม้แยกกัน 2 คู่ โดยตะเกียบคู่แรกเอาไว้คีบหมูดิบไปปิ้งบนกระทะให้สุกทั้งสองด้านก่อน แล้วค่อยใช้ตะเกียบคู่ที่สองคีบหมูสุกมากิน (วางตะเกียบทั้งสองคู่ให้แยกจากกันชัดเจน)
  2. ใช้ตะเกียบคู่เดียวแต่สลับด้านกันใช้งาน คือ ด้านหัวตะเกียบใช้คีบหมูดิบ ด้านปลายตะเกียบใช้คีบหมูสุก
  3. ขอที่คีบจากทางร้านเพิ่มเติม โดยบอกไปว่าเอามาแยกคีบหมูดิบเพื่อความปลอดภัยในการบริโภค
  4. อย่าใช้ตะเกียบคู่เดียวในการคีบทั้งหมูดิบหมูสุกปะปนกันไปมา แม้ว่าหลังคีบหมูดิบจะจุ่มตะเกียบลงในน้ำซุปร้อน ก็ไม่ได้การันตีว่าจะช่วยฆ่าเชื้อโรคจากหมูดิบได้

• เชื้อแบคทีเรียก่อโรค “ไข้หูดับ” ตัวการภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบและอาจหูดับถาวร

ทั้งนี้ มีข้อมูลจาก ผศ.นพ.ศรัญ ประกายรุ้งทอง โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ได้ให้ข้อมูลผ่านบทความวิชาการไว้ในทิศทางเดียวกัน ระบุว่า “โรคไข้หูดับ” คือ ภาวะติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus Suis โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว เกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือด นำไปสู่อาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน คอแข็ง และมีประวัติสัมผัสหรือบริโภคเนื้อหมูแบบสุกๆ ดิบๆ มาก่อน ในช่วงไม่เกิน 14 วัน หากมีอาการรุนแรงอาจเกิด “ภาวะหูดับถาวร” ได้

สำหรับ เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus Suis นั้น เป็นเชื้อโรคที่อาศัยอยู่ในทางเดินหายใจหมู และในเลือดของหมูที่กำลังป่วย เชื้อนี้สามารถติดต่อมายังคนได้จากการบริโภคเนื้อหมูดิบ หรือเลือดหมูที่ปรุงแบบสุกๆ ดิบๆ และจากการสัมผัสชิ้นส่วนของเนื้อหมูดิบ เลือดหมู ผ่านทางผิวหนังที่มีรอยถลอก บาดแผล หรือเยื่อบุตาก็ได้

สำหรับกลุ่มเสี่ยงต่อโรคไข้หูดับที่หากสัมผัสเชื้อแล้วจะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้มาก ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง และกลุ่มบุคคลที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้น การดูแลป้องกันตัวเองเบื้องต้นได้แก่ งดบริโภคเนื้อหมูหรือเลือดหมูแบบสุกๆ ดิบๆ และหากจะต้องปรุงอาหารที่ต้องหยิบจับเนื้อหมูดิบหรือเลือดหมูดิบ ก็ต้องสวมถุงมือทุกครั้ง

ด้าน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ให้คำแนะนำถึงวิธีเลือกซื้อเนื้อหมูไว้ว่า ควรหาซื้อเนื้อหมูจากตลาดสดและห้างสรรพสินค้าที่ผ่านการตรวจเช็กมาตรฐานความปลอดภัยแล้วเท่านั้น ส่วนวิธีเลือกซื้อเนื้อหมูที่สดใหม่และไม่ใช่หมูป่วยติดเชื้อ ได้แก่ ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ เนื้อยุบ เมื่อนำมาปรุงต้องผ่านความร้อนอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป โดยปรุงในความร้อนนานอย่างน้อย 10 นาทีหรือจนเนื้อหมูสุกขาวไม่มีสีแดง

• เปิดวิธีรักษาผู้ป่วย “ไข้หูดับ” ทั้งอาการในระยะแรก และกรณีที่มีอาการรุนแรง

เมื่อผู้ป่วยมาถึงมือแพทย์แล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจเพาะเชื้อจากเลือด และน้ำเยื่อหุ้มไขสันหลัง เพื่อเป็นการตรวจยืนยันหาเชื้อ Streptococcus Suis (การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการต้องส่งตรวจภายใน 24 ชั่วโมง)

หากผลตรวจยืนยันว่าพบเชื้อจริง แพทย์จะเริ่มการรักษาทั้งแบบเฉพาะเจาะจง คือ การให้ยาฆ่าเชื้อผ่านทางเส้นเลือดดำ การรักษาตามอาการ ลดอาการปวด ลดอาการไข้ ลดอาการเวียนศีรษะ ด้วยการให้ยาและอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการรักษาแบบประคับประคองไปพร้อมกันด้วย คือ การให้สารน้ำ สารอาหาร เกลือแร่ต่างๆ แก่ผู้ป่วยอย่างพอเพียง

ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรง คือ มีอาการหูดับ หรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรงทางหู มักจะเกิดขึ้นหลังจากการเกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หากเกิดขึ้นแล้ว ผู้ป่วยจะไม่สามารถได้ยินอีก จัดเป็นภาวะรีบด่วนที่ผู้ป่วยควรต้องได้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมเพื่อฟื้นฟูการได้ยิน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะกลับมาสื่อสารในแบบสังคมปกติได้อีกครั้ง

สาเหตุที่ “ภาวะหูดับจากโรคไข้หูดับ” จัดเป็นอาการป่วยที่ต้องได้รับการวินิจฉัยได้โดยเร็วนั้น ก็เนื่องมาจากสมองที่ไม่ได้รับการกระตุ้นจากเสียง จะเสียความสามารถในการรับฟังไปเรื่อยๆ ยิ่งนานวันเข้า โอกาสฟื้นฟูก็จะยิ่งลดลงนั่นเอง.

สัมภาษณ์เมื่อ : 17 สิงหาคม 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย