ชัวร์ก่อนแชร์: 5 ทฤษฎีสมคบคิด จับผิดการพิชิตดวงจันทร์

24 กรกฎาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ผ่านมาแล้ว 54 ปีที่มนุษย์สามารถเดินทางไปสำรวจดวงจันทร์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 1969 แต่กระนั้น ยังมีทฤษฎีสมคบคิดที่อ้างว่าการเดินทางสู่ดวงจันทร์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือ NASA เมื่อปี 1969 เป็นเรื่องลวงโลก จุดประสงค์เพื่อหวังผลทางการเมืองในช่วงสงครามเย็น ในยุคสมัยที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตแข่งขันกันเป็นผู้นำด้านการสำรวจอวกาศ

การมีอยู่ทฤษฎีสมคบคิด ทำให้ผู้คนไม่น้อยเชื่อว่า NASA จัดฉากการส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ แม้จะมีหลักฐานและประจักษ์พยานมากมายที่ยืนยันว่า ยานอวกาศ Apollo 11 สามารถนำนักบินอวกาศไปลงจอดที่ดวงจันทร์ได้สำเร็จตั้งแต่ปี 1969 ก็ตาม


ต่อไปนี้คือการหักล้าง 5 ทฤษฎีสมคบคิดที่มักใช้ในการจับผิดว่า การเดินทางสู่ดวงจันทร์เมื่อปี 1969 เป็นเรื่องลวงโลก

  1. ธงชาติสหรัฐอเมริกาบนดวงจันทร์โบกไสว ทั้ง ๆ ที่ไม่มีลมหรืออากาศบนดวงจันทร์ จึงน่าจะเป็นการปักธงบนพื้นโลกนี่เอง

เพื่อให้ภาพธงชาติสหรัฐอเมริกาบนผิวดวงจันทร์ออกมาดูสวยงามในสายตาชาวโลก NASA จึงใช้เสาธงรูปตัว L คว่ำ มาใช้เพื่อให้ธงกางออกอย่างชัดเจน แม้ปลายธงที่ไม่มีเสายึดจะดูแกว่งเหมือนลูกตุ้มเล็กน้อย ส่วนสาเหตุที่ผืนธงเต็มไปด้วยรอยยับและดูเหมือนเป็นริ้วคลื่น เป็นเพราะธงถูกพับระหว่างการจัดเก็บ

โรเจอร์ แลนนิอัส อดีตหัวหน้านักประวัติศาสตร์ของ NASA เล่าว่า ก่อนการปักธงครั้งประวัติศาสตร์ นีล อาร์มสตรอง และ บัซ อัลดริน สองนักบินยานอวกาศ Apollo 11 เผลอทำเสาธงงอเล็กน้อย จึงทำให้ธงดูเหมือนกำลังโบกไสว สองนักบินอวกาศยังกลัวว่าเสาธงจะล้มลงหลังจากปักไปแล้ว จึงรีบถ่ายภาพอย่างรวดเร็วหลังจากปักเสาลงบนพื้นดวงจันทร์ได้ไม่นาน จึงได้ภาพที่ดูเหมือนเสาธงกำลังสั่นไหวนั่นเอง


  1. ภาพถ่ายท้องฟ้าบนดวงจันทร์ทุกรูป กลับไร้แสงดาวและเต็มไปด้วยความมืด เพราะ NASA จงใจลบดวงดาวออกไปจากภาพถ่ายทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้นักดาราศาสตร์วิเคราะห์ตำแหน่งดวงดาวและสามารถบอกได้ว่าเป็นภาพถูกถ่ายที่ตำแหน่งใดบนพื้นโลก

การส่งยานอวกาศไปจอดบนดวงจันทร์ของโครงการ Apollo ทุกครั้งเกิดขึ้นในช่วงกลางวันของดวงจันทร์ (Lunar Daytime) แสงจากดวงดาวเพียงเล็กน้อยบนท้องฟ้าของดวงจันทร์ในช่วง Lunar Daytime จึงถูกบดบังด้วยแสงจากดวงอาทิตย์และแสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากผิวดวงจันทร์

เอมิลี ดราเบค-มอนเดอร์ นักดาราศาสตร์จากหอดูดาวหลวงเกรนิช (Royal Observatory Greenwich) จากประเทศอังกฤษ ชี้แจงว่า NASA ปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ของกล้องประจำตัวนักบินอวกาศเอาไว้สูงมาก เพื่อป้องกันไม่ให้แสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากผิวดวงจันทร์ทำให้รูปภาพสว่างมากเกินไป (Overexpose) การปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ให้สูง ส่งผลให้กล้องไม่สามารถจับแสงเพียงเล็กน้อยจากดวงดาวบนท้องฟ้าของดวงจันทร์ได้

นอกจากนี้ การปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ของกล้องถ่ายภาพให้สูง เมื่อนำกล้องไปถ่ายภายฉากหน้าเป็นวัตถุเรืองแสง จะส่งผลให้ฉากพื้นหลังเปลี่ยนเป็นฉากมืดทึบ

  1. เมื่อยาน Eagle หรือยานลงจอดบนดวงจันทร์ (Lunar Module Eagle) สัมผัสบนผิวดวงจันทร์ กลับไม่มีร่องรอยการเกิดฝุ่นคลุ้งกระจายหรือการเกิดแอ่งบนดวงจันทร์จากการปล่อยไอพ่นจากยานขณะลงจอด

เอมิลี ดราเบค-มอนเดอร์ นักดาราศาสตร์จากหอดูดาวหลวงเกรนิช อธิบายว่า ก่อนการลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ ยาน Eagle ไม่ได้ลงจอดตามแนวดิ่งโดยทันที แต่เดินทางไปตามแนวขนานกับพื้นผิวดวงจันทร์ก่อนการลงจอด ทิศทางของไอพ่น (Thruster) จึงไม่ชี้ลงบนผิวดวงจันทร์โดยตรง การจอดของยานลงจอดบนดวงจันทร์จึงไม่ก่อให้เกิดฝุ่นคลุ้งกระจายจำนวนมาก ยกเว้นตอนที่ยานลงจอดจะพบว่ามีฝุ่นคลุ้งกระจายจำนวนเล็กน้อย

โรเจอร์ แลนนิอัส อดีตหัวหน้านักประวัติศาสตร์ของ NASA เล่าว่า ยานลงจอดบนดวงจันทร์ไม่จำเป็นต้องใช้ไอพ่นขนาดใหญ่เพื่อการลงจอดบนผิวดวงจันทร์ เนื่องจากแรงดึงดูดบนดวงจันทร์น้อยกว่าโลกถึง 6 เท่า การลงจอดจึงเป็นไปอย่างนิ่มนวลและไม่ก่อให้เกิดแอ่งบนดวงจันทร์แต่อย่างใด

  1. เงาจากภาพถ่ายบนดวงจันทร์ดูผิดธรรมชาติ น่าจะเกิดจากการจัดแสงสปอตไลต์เพื่อการถ่ายทำ

บนดวงจันทร์มีแหล่งกำเนิดแสงที่หลากหลาย ทั้งแสงอาทิตย์ แสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากผิวดวงจันทร์ แสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากผิวโลก แสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากยานลงจอดบนดวงจันทร์และชุดของนักบินอวกาศ

เมื่อแสงเหล่านั้นสะท้อนไปยังภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์บนดวงจันทร์ ทั้งแอ่ง เนินเขา และฝุ่นบนดวงจันทร์ (Moon Dust) จึงก่อให้เกิดการหักเหแสง และส่งผลให้เงาบนดวงจันทร์มีความแตกต่างจากเงาที่เกิดบนพื้นผิวโลก ซึ่งอาจจะเงายาวกว่า สั้นกว่า หรือบิดเบี้ยวจนผิดจากรูปร่างที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้ กล้องที่ใช้บันทึกภาพบนดวงจันทร์ยังใช้เลนส์มุมกว้าง ซึ่งมีส่วนทำให้ภาพของวัตถุบิดเบี้ยวจากความเป็นจริงได้อีกด้วย

  1. ไม่มีนักบินอวกาศคนใดถือกล้องถ่ายรูป แล้วใครเป็นคนถ่ายภาพบนดวงจันทร์ ถ้าไม่ใช่ช่างภาพในกองถ่าย

NASA ออกแบบให้กล้องประจำตัวนักบินอวกาศติดไว้ที่บริเวณหน้าอกของชุดนักบินอวกาศ จึงไม่จำเป็นต้องยกกล้องขึ้นมาเล็งก่อนการถ่ายภาพเหมือนกล้องทั่วไป

ข้อมูลอ้างอิง :

https://apnews.com/article/8bad42bcddb94c91860c76b71f994e45
https://en.wikipedia.org/wiki/Moon_landing_conspiracy_theories

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]