จาการ์ตา 29 ก.ย. – ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย ปกป้องแผนการจัดหาอาหารกลางวันฟรีสำหรับเด็ก แม้จะมีรายงานผู้ป่วยอาหารเป็นพิษกว่า 6,000 ราย โดยเขากล่าวว่า สัดส่วนของผู้ได้รับผลกระทบนั้นมีน้อยมาก และโครงการนี้ยังอยู่ในช่วงของการปรับปรุง
กรณีอาหารเป็นพิษทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจในหมู่ประชาชน โดยสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ได้เผยแพร่ภาพเด็ก ๆ ที่กำลังรับการรักษาบนเตียงในโรงพยาบาล ขณะที่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในท้องถิ่นเรียกร้องให้ระงับโครงการ
โครงการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นี้ ซึ่งรวมถึงการมอบอาหารฟรีแก่สตรีมีครรภ์ด้วย ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในเดือนมกราคม โดยมีผู้รับประโยชน์แล้วประมาณ 30 ล้านคน และตั้งเป้าจะเข้าถึง 83 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้
นายปราโบโวกล่าวในระหว่างการปราศรัยที่งานกิจกรรมของพรรคการเมืองยอมรับว่ามีความบกพร่อง มีอาหารเป็นพิษเกิดขึ้น แต่หากได้นับรวมจำนวนมื้ออาหารที่เสิร์ฟทั้งหมดแล้ว ข้อบกพร่อง ความผิดพลาด หรือความคลาดเคลื่อนนี้คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.00017% เท่านั้น
รายงานระบุว่า มีรายงานเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารเป็นพิษประมาณ 70 เหตุการณ์ โดยสองในสามของจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบ 6,000 คนนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา
นายประโบโวกล่าวว่า โครงการ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อป้องกันภาวะแคระแกร็นในเด็กนี้ ได้ช่วยปรับปรุงโภชนาการสำหรับเด็กจำนวนมาก สร้างงาน รวมถึงสร้างโอกาสให้เกษตรกรและชาวประมงในท้องถิ่นสามารถขายผลผลิตได้ เขากล่าวว่า ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลพอใจ แต่ความพยายามที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เขาคิดว่าไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประวัติศาสตร์โลก ขนาดบราซิลต้องใช้เวลาถึง 11 ปีในการเข้าถึงผู้รับประโยชน์ 40 ล้านคน
หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อหารือแนวทางการป้องกันอาหารเป็นพิษ นายปราโบโวได้สั่งการให้ครัวทุกแห่งในโครงการได้ติดตั้งอุปกรณ์ทดสอบคุณภาพอาหารแบบรวดเร็ว อุปกรณ์ฆ่าเชื้อถาดอาหาร เครื่องกรองน้ำ และกล้องวงจรปิด หรือ ซีซีทีวี (CCTV) ที่เชื่อมต่อกับรัฐบาลกลางเพื่อเฝ้าติดตามตรวจสอบ
สำนักงานโภชนาการแห่งชาติระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จากครัว 9,000 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ มี 40 แห่งที่ถูกสั่งปิด เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐาน
โครงการนี้ยังก่อให้เกิดความกังวลว่าอาจจะไม่สามารถยั่งยืนได้ทางการเงิน โดยมีการจัดสรรงบประมาณสำหรับปีหน้าไว้ที่ 335 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 645,000 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าจากงบประมาณประมาณการที่ 99 ล้านล้านรูเปียห์ หรือ ราว 192,060 ล้านบาท สำหรับปี 2568.-813.-สำนักข่าวไทย