“ศ.พญ.กุลกัญญา” แจงข้อสงสัยโควิด-19 XBB.1.16 แนะฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

19 เมษายน 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์และเสาวภาคย์ รัตนพงศ์


ตามที่มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ XBB .1.16 อ้างว่ามาจาก ศ.พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ นั้น

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ได้รับการยืนยันว่าเป็นเป็นข้อความที่เขียนจริง โดยเป็นการเขียนและส่งให้กับเพื่อนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับไวรัสโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 และสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากในขณะนี้



ข้อความที่แชร์กัน

วันที่ 19 เมษายน 2566


     ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ได้รับ คำถามจากหลายหลายท่านเกี่ยวกับการระบาดของ โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น

     -มันกลับมาใหม่แล้วใช่ไหม?

     -สายพันธุ์ใหม่ XBB .1.16 น่ากลัวขึ้นไหม รุนแรงขึ้นกว่าเดิมไหม และดื้อยาแล้วหรือ? 


     -เราจะต้องฉีดวัคซีนอีกแล้วเหรอ? ฉีดมาแล้วตั้งหลายเข็ม

     -ใช้วัคซีนแบบไหนรุ่นไหนดี? 

     -ควรฉีดเมื่อไหร่?

     -วัคซีนจะป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้ไหม?

     -ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB, Evusheld) ยังใช้ได้ผลอยู่หรือไม่?

      จึงขอรวบรวมความสงสัยเหล่านี้มาตอบคำถาม ซึ่งคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ 

     -ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าโรค โควิด-19 จะอยู่กับมนุษยชาติตลอดไป และ จะกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ และทุกครั้งที่กลายพันธุ์ก็จะเกิดสายพันธุ์ที่หลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนหรือเกิดจากการติดเชื้อที่ผ่านมา เพราะสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์และหลบภูมิคุ้มกันได้เก่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด และในที่สุดจะทดแทนสายพันธุ์เดิม 

       ที่จริงแล้วสายพันธุ์ โอไมครอน BA.2.75 นับว่าอยู่ค่อนข้างนาน แต่เมื่อคนติดเชื้อสายพันธุ์นี้ไปจำนวนมากแล้ว  สายพันธุ์ใหม่ที่หลบหลีกภูมิคุ้มกันก็จะขึ้นมาแทนที่ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ ตระกูล XBB ซึ่งตัวล่าสุดที่ระบาดในอเมริกาคือ XBB.1.5 และที่ระบาดในอินเดียคือ XBB.1.16 ซึ่งมีการศึกษาพบว่ามันแบ่งตัวได้เก่งกว่าเดิม และเป็นที่คาดว่าจะเข้ามาในประเทศไทยและระบาดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์สนุกสนานเจอคนมากมายใกล้ชิด  มีโอกาสที่นักท่องเที่ยวนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาได้มาก เพราะความระมัดระวังในการติดเชื้อของเรามันเริ่มน้อยลงและการฉีดวัคซีนเข็มสุดท้าย ส่วนใหญ่จะทิ้งช่วงไปนานกว่า 3-4 เดือนแล้ว 

      -ที่จริงแล้วสายพันธุ์ XBB ทุกตัว และโอไมครอน ที่ผ่านมาทั้งหมดมิได้มีความรุนแรงมากขึ้น และมิได้ดื้อยารักษาตัวใด แต่จะดื้อภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป อย่างไรก็ดี โอไมครอนทุกสายพันธุ์ มีโอกาสจะรุนแรงสำหรับกลุ่มเสี่ยง 608 โดยเฉพาะที่ไม่เคยรับวัคซีนหรือได้รับน้อยกว่าสามเข็ม คนทั่วไปที่ได้รับวัคซีนมาแล้วหลายเข็มหากทิ้งช่วงนานกว่า 3-4 เดือนระดับภูมิคุ้มกันจากวัคซีนหรือจากการติดเชื้อในครั้งก่อน ก็จะแผ่วลดลงตามธรรมชาติทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้แต่มักจะไม่รุนแรง 

       -การฉีดวัคซีนซ้ำ จะเพิ่มภูมิคุ้มกันข้ามไปยังสายพันธุ์กลายพันธุ์ได้ดี แม้วัคซีนจะป้องกันได้ไม่สมบูรณ์ แต่ลดความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อะไร วัคซีนได้ผลดีไม่ว่าจะเป็นวัคซีนรุ่นเก่า (monovalent) หรือรุ่นใหม่ (bivalent) ซึ่งขณะนี้ เรามี bivalent BA.1 (Pfizer)และ bivalent BA.4/5 (Moderna) ในปริมาณไม่มากอาจจะกระจายไม่ทั่วถึงทุกที่ 

       เป็นความจริงว่าวัคซีน bivalent จากกระตุ้นภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคจากสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ได้สูงกว่าวัคซีนรุ่นเก่า แต่ เมื่อถึงเวลาที่ระดับภูมิคุ้มกันเริ่มตกลงไปแล้วการฉีด ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนรุ่นไหนแบบไหน  ดีกว่าไม่ฉีด อย่างแน่นอน

      -เนื่องจาก โควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำฤดูกาลเหมือนเช่นไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งประชาชนเกือบทั้งหมดจะมีภูมิคุ้มกันแล้วจากการฉีดวัคซีนที่ผ่านมาหรือติดเชื้อไปแล้ว  จึงมีแนวทางที่จะปรับการฉีดวัคซีน ให้เป็นการฉีดกระตุ้นประจำปี ปีละหนึ่งครั้งเหมือนไข้หวัดใหญ่  โดยควรฉีดก่อนเข้าฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูที่จะเกิดการระบาดของไวรัสทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 ซึ่งในจังหวะเดือนเมษาถึงมิถุนายนเป็นช่วงที่สมควรฉีดวัคซีนประจำปีเป็นอย่างมาก 

       เมื่อมีโอกาสควรรีบฉีดทันทีเพราะ “ฉีดก่อนป้องกันก่อน”ควรห่างจากเข็มสุดท้ายหรือการติดเชื้อครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 3 เดือน ใช้วัคซีนอะไรก็ได้ถ้าได้รุ่นใหม่ก็ยิ่งดี แต่รุ่นเก่าก็ยังใช้ได้  มิฉะนั้นจะพลาดถ้าเป็นโรคไปเสียก่อน (แม้ว่าโรคจะไม่รุนแรง ในผู้ที่ ฉีดวัคซีนมาแล้วหลายเข็ม แต่ก็ไม่อยากให้เป็นกันเลยเพราะ ต้องหยุดงานและ ไม่สบาย มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้)  

      -ในขณะนี้ทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 กำลังระบาดอยู่พร้อมพร้อมกันและมีอาการที่ไม่แตกต่างกัน หากเป็นทั้งสองโรคพร้อมกันอาการจะหนักกว่าเป็นโรคเดียว จึงแนะนำว่าควรฉีดวัคซีนป้องกันทั้ง โควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ไปพร้อมพร้อมกันเลย หรือจะฉีดห่างกันกี่วันก็ได้ไม่มีข้อห้ามเลย

     -การรักษายังเหมือนเดิมแต่ ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปจะใช้ไม่ได้ผลเสียแล้วถ้าเป็น XBB แต่ตอนนี้ยังพอได้ผลอยู่ เพราะส่วนหนึ่งยังเป็นสายพันธุ์เดิม BA.2.75

ขอสรุปคำตอบของคำถามอย่างสั้นๆคือ

      -มันกลับมาใหม่แล้วใช่ไหม?….

       มันไม่เคยจากไปไหนเพียงแค่สงบลงไปชั่วคราวและใช่แล้ว ตอนนี้กำลังมาเป็นคลื่นใหม่ โดยเฉพาะกำลังเข้าหน้าฝนด้วย

      -สายพันธุ์ใหม่ XBB .1.16 น่ากลัวขึ้นไหม รุนแรงขึ้นกว่าเดิมไหมและดื้อยาแล้วหรือ?…

      ไม่รุนแรงกว่าเดิมไม่ดื้อยากว่าเดิมแต่มีรายงานว่าพบอาการตาแดงมากขึ้นโดยเฉพาะในเด็ก และการรักษายังเหมือนเดิม ไม่ได้มีการดื้อยาต้านไวรัส มากขึ้น

      -ฉีดมาแล้วตั้งหลายเข็ม เราจะต้องฉีดวัคซีนอีกแล้วเหรอ? 

    ควรฉีดหากเข็มสุดท้ายเกิน3-4 เดือน เพราะสายพันธุ์ XBB ค่อนข้างจะหลบภูมิได้ดี ทำให้ภูมิคุ้มกันของเดิมประสิทธิภาพสั้นลง 

    อย่าเบื่อเรื่องวัคซีนเลยเพราะสุดท้ายเราต้องฉีดกระตุ้นปีละครั้ง ไม่ต้องนับจำนวนเข็มที่ผ่านมาแล้ว(กลุ่มเสี่ยงสูงมากๆควรพิจารณาฉีดปีละสองครั้ง)

   -ใช้วัคซีนแบบไหนรุ่นไหนดี? ควรฉีดเมื่อไหร่?….. 

   รุ่นใหม่จะดีกว่ารุ่นเก่าประมาณ 30% แต่ใช้ได้ดีทั้งคู่ และภาพรวมในการป้องกันโรคต่างกันไม่มาก เมื่อถึงเวลาที่สมควรฉีดมีอะไรก็ฉีดอย่างนั้นอย่ามัวแต่รออาจจะไม่ทันได้ฉีดจะเป็นโรคไปเสียก่อน และไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนไหนภูมิคุ้มกันก็ตกลงตามกาลเวลา

   -วัคซีนจะป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้ไหม?…. 

    ตอบว่าได้ ประสิทธิภาพป้องกันได้ประมาณ 60-80% โดยเฉพาะเมื่อฉีดมาแล้วหลายหลายเข็ม และป้องกันได้ดีในช่วง 3-4 เดือนหลังฉีด แม้จะป้องกันได้ไม่ 100% แต่ลดความรุนแรงได้มาก ซึ่งสำคัญมากสำหรับกลุ่มเสี่ยง 608

      -ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB, Evusheld) ยังใช้ได้ผลอยู่หรือไม่?….. 

       ตอนนี้ยังได้ผลอยู่บ้างแต่ถ้าในอนาคตสายพันธุ์ XBB มาแทนที่เกือบหมดก็จะใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปไม่ได้ผล

      ย้ำว่าการป้องกันที่ยังได้ผลดี ก็ยังเป็นการสวมหน้ากากเมื่อต้องไปพบกับคนมากๆ หมั่นล้างมือ และเว้นระยะห่าง ขอให้ทุกๆท่านปลอดภัยจาก โควิด-19 นะคะ 

พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ 

19 เมษายน 2566

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย

เคลียร์ BM21 หมู่บ้านกระสุนตก 5 ลูก อ.น้ำยืน อุบลฯ

อุบลราชานี 1 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ใน 8 หมู่บ้าน 24 จุด พบกระสุน BM21 ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และพร้อมทำงาน โดยในช่วงเช้าทำลาย 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณริมถนนสายน้ำยืน นาจะหลวย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนขุดดินด้านบนแล้วหย่อนระเบิด C4 ลงไปในหลุมที่หัวกระสุน BM21 ตกแต่ไม่ระเบิด จากนั้นจึงจุดชนวนทำลายระเบิด ใช้เวลาเพียง 20 นาที หัวกระสุนถูกทำลายโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ […]

ทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่จุดกัมพูชายิงถล่ม

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – วันนี้คณะทูตานุทูตและทูตทหาร รวม 23 ประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ถูกกัมพูชาโจมตี และศูนย์พักพิง การลงพื้นที่ในวันนี้ทางประเทศไทยต้องการให้คณะทูตทั้ง 23 ประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงและนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ จุดแรกคือปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM21 โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปให้คณะได้รับฟังถึงเหตุการณ์วันแรกที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียจากที่เกิดขึ้นต่อคณะทูตานุทูตผ่านล่าม พร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นคณะทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ ต่อไปยังจุดกระสุนตกใส่พลเรือน ที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ส่งผลทำให้อาคาร รพ.สต. เสียหาย ที่นี่ ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ประจำกว่า 30 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางจังหวัดได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง โดยนางเข็มจิรา จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.บ้านชำเม็ง บอกว่าถ้าวันนั้น หากยังไม่มีการอพยพ […]

ชาวบ้านผวาโดรนปริศนา บินว่อนพื้นที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 1 ส.ค. – ชาวบ้านหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ผวาพบโดรนปริศนาบินว่อนหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ หวั่นเป็นของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบินสอดแนม ชาวบ้านหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ต่างหวาดผวา หลังยังพบโดรนปริศนาจำนวนหลายลำบินว่อนในหลายอำเภอ เช่น อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ละหานทราย อ.ประโคนชัย และ อ.บ้านกรวด แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ถึงที่มาที่ไปของโดรนว่ามาจากไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นของคนไทยก็จะนำตัวมาสอบถาม จุดประสงค์ในการบิน และอาจถูกดำเนินคดี เนื่องจาก ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้ออกประกาศห้ามอากาศไร้คนขับหรือโดรนบิน ในช่วงนี้เด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย แต่หากเป็นโดรนฝ่ายกัมพูชาที่ลักลอบบินเข้ามาสอดแนมหรือจับพิกัดเป้าหมายสำคัญในไทย เจ้าหน้าที่จะเร่งหามาตรการป้องกันสกัดกั้น เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติ สำหรับภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย หลังเจรจาหยุดยิง ขณะนี้ยังไม่พบการปะทะกันขึ้น แต่โรงเรียนในพื้นที่แนวชายแดนทั้ง อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย รวม 85 แห่ง ยังคงปิดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่จังหวัดยังไม่มีประกาศให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้านพักได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ประกอบกับต้องเคลียร์พื้นที่ก่อนเพราะมีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่มากกว่า 240 ลูก.-สำนักข่าวไทย