ชัวร์ก่อนแชร์ UPSKILL : จับผิด “ลิงก์” หลอกลวง

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ


8 กันยายน 2568

เมื่อใช้งานโลกออนไลน์ เลี่ยงไม่ได้ต้องเจอกับลิงก์ บางลิงก์พาไปยังเว็บไซต์ที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ แต่บางลิงก์ก็พาไปเว็บปลอมสุดอันตราย ที่จ้องจะทำร้ายและหลอกลวง เราจะมา จับผิด “ลิงก์” หลอกลวง ไปด้วยกัน


ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ เพ็ญศรี อรุณวัฒนามงคล ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย

(สัมภาษณ์เมื่อ 24 เมษายน 2568)

คลิกเดียว…อาจเปลี่ยนชีวิต! เจาะลึกวิธีจับผิด “ลิงก์ปลอม” ก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพยุคดิจิทัล

ในยุคที่การสื่อสารออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เราทุกคนต่างคุ้นเคยกับการคลิกลิงก์ (URL) เพื่อเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร, ซื้อสินค้า, หรือทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ท่ามกลางความสะดวกสบายนั้น ภัยร้ายในรูปแบบของ “ลิงก์ปลอม” หรือ “ฟิชชิ่ง” (Phishing) ก็แฝงตัวอยู่อย่างแนบเนียน รอคอยจังหวะที่เราเผลอไผลเพียงเสี้ยววินาทีเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว, รหัสผ่าน, หรือแม้กระทั่งเงินในบัญชีของเราไปจนหมด


ข้อความ SMS ที่อ้างว่าเราได้รับสิทธิพิเศษ, อีเมลแจ้งอัปเดตข้อมูลจากธนาคาร, หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่ชวนให้ดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์ฟรี ล้วนเป็นกลวิธีสุดคลาสสิกที่มิจฉาชีพใช้เพื่อล่อลวงให้เราคลิกลิงก์อันตรายเหล่านี้ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงโครงสร้างของ URL อย่างละเอียด เพื่อให้คุณมี “ภูมิคุ้มกันดิจิทัล” สามารถแยกแยะลิงก์จริงออกจากลิงก์ปลอมได้อย่างเฉียบคม และไม่ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป

ถอดรหัสโครงสร้าง URL : รู้ให้ลึกถึงแก่นเพื่อความปลอดภัย

หลายคนอาจมองว่า URL เป็นเพียงตัวอักษรภาษาอังกฤษยาว ๆ ที่ซับซ้อน แต่แท้จริงแล้วมันมีโครงสร้างที่ชัดเจน การทำความเข้าใจส่วนประกอบต่าง ๆ คือด่านแรกที่สำคัญที่สุดในการป้องกันตัวเอง

ส่วนประกอบหลักของ URL : Protocol://Subdomain.Domain-name.Top-level-domain/Path

  1. Protocol (โพรโทคอล) : คือส่วนที่ขึ้นต้น URL เช่น http:// หรือ https:// ทำหน้าที่กำหนดวิธีการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์ของเรากับเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์
    1. ข้อควรจำ : https:// (Hypertext Transfer Protocol Secure) บ่งบอกว่าข้อมูลที่ส่งผ่านจะได้รับการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย สังเกตได้จากรูปแม่กุญแจหน้า URL ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่เว็บไซต์น่าเชื่อถือส่วนใหญ่ต้องมี
  2. Domain Name (ชื่อโดเมน) : นี่คือ “หัวใจ” ของ URL และเป็นส่วนที่มิจฉาชีพนิยมปลอมแปลงมากที่สุด มันคือชื่อเฉพาะของเว็บไซต์นั้นๆ เช่น google, facebook, ktb
    1. จุดตายที่ต้องดู : ชื่อโดเมนที่ถูกต้องจะอยู่ “หน้า .com, .co.th, .go.th” หรือ TLD อื่นๆ เสมอ!
  3. Top-Level Domain (TLD) : คือส่วนที่อยู่ท้ายสุดของชื่อโดเมน เช่น .com, .org, .net, .co.th, .go.th ทำหน้าที่บอกประเภทหรือประเทศขององค์กร
    1. .co.th : บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย
    1. .go.th : หน่วยงานราชการของไทย
    1. .ac.th : สถาบันการศึกษาในไทย
  4. Subdomain (โดเมนย่อย) : คือส่วนที่อยู่ “หน้า” ชื่อโดเมนหลัก ใช้เพื่อแบ่งส่วนย่อย ๆ ภายในเว็บไซต์ เช่น mail.google.com (Subdomain คือ mail) หรือ ibanking.bangkokbank.com (Subdomain คือ ibanking)
  5. Path (เส้นทาง) : คือส่วนที่อยู่หลัง TLD คั่นด้วยเครื่องหมาย / ใช้เพื่อระบุตำแหน่งของหน้าเว็บหรือไฟล์ที่เฉพาะเจาะจงภายในเว็บไซต์นั้นๆ เช่น /profile/settings

กลลวงของมิจฉาชีพ : เทคนิคการปลอมแปลงที่ต้องรู้ทัน

เมื่อเข้าใจโครงสร้างแล้ว เรามาดูกันว่ามิจฉาชีพใช้เทคนิคอะไรบ้างในการสร้างลิงก์ปลอมเพื่อหลอกตาเรา

  • เทคนิค “หน้าคล้ายแต่ไม่ใช่” : มิจฉาชีพจะจดทะเบียนชื่อโดเมนที่ดูเผินๆ คล้ายกับชื่อจริง แต่มีการสะกดผิดเล็กน้อย หรือใช้ตัวอักษรอื่นมาแทน
    • ตัวอย่างของจริง : www.kasikornbank.com
    • ตัวอย่างของปลอม : www.kasikornbank.com-update.info (ในกรณีนี้ .com-update.info คือชื่อโดเมน ไม่ใช่ .com ที่เราคุ้นเคย) หรือ www.karsikornbank.com (สะกดผิด)
  • เทคนิค “ซับโดเมนลวงตา” : เป็นเทคนิคที่แนบเนียนที่สุด โดยการนำชื่อเว็บไซต์จริงไปใส่ไว้ในตำแหน่งของ “ซับโดเมน” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
    • ตัวอย่างของจริง : ibanking.bangkokbank.com (ถูกต้อง เพราะ bangkokbank อยู่หน้า .com)
    • ตัวอย่างของปลอม : bangkokbank.scammer-site.com (ผิด! เพราะชื่อโดเมนที่แท้จริงคือ scammer-site ไม่ใช่ bangkokbank)
  • เทคนิค “URL Shortener” : การใช้บริการย่อลิงก์ให้สั้นลง เช่น bit.ly หรือ goo.gl ทำให้เราไม่สามารถเห็นชื่อโดเมนที่แท้จริงได้ก่อนคลิก ซึ่งเป็นช่องทางยอดนิยมที่มิจฉาชีพใช้ซ่อนลิงก์ปลอม

เกราะป้องกันตัวเอง: Checklist ก่อนคลิกทุกครั้ง

  1. เช็กชื่อโดเมนก่อนเสมอ : อย่าดูแค่ส่วนหน้าหรือส่วนท้าย ให้มองหา “ชื่อโดเมนหลัก” ที่อยู่หน้า .com, .co.th เสมอ และตรวจสอบการสะกดให้ถูกต้องทุกตัวอักษร
  2. อย่าเชื่อชื่อผู้ส่ง : ชื่อผู้ส่งใน SMS หรืออีเมลสามารถปลอมแปลงได้ง่าย อย่าไว้ใจเพียงเพราะเห็นว่ามาจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ
  3. สงสัยลิงก์ที่ย่อมา : หากเจอลิงก์ที่ถูกย่อ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ หากไม่แน่ใจ ให้ลองเข้าเว็บไซต์ขององค์กรนั้นๆ โดยตรงผ่านการพิมพ์ URL ในเบราว์เซอร์ด้วยตัวเอง
  4. อย่าดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมั่วซั่ว : การติดตั้งแอปพลิเคชันควรทำผ่าน App Store หรือ Google Play Store ที่เป็นทางการเท่านั้น อย่าติดตั้งผ่านลิงก์ที่ส่งมาใน SMS เด็ดขาด
  5. สังเกตภาษาที่ใช้ : ข้อความจากมิจฉาชีพมักมีลักษณะเร่งรีบ, ข่มขู่ (เช่น “บัญชีของท่านจะถูกระงับ”), หรือเสนอผลประโยชน์ที่ดีเกินจริง

การท่องโลกออนไลน์อย่างปลอดภัยไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความรอบคอบและ “สติ” อยู่เสมอ การสละเวลาสักครู่เพื่อตรวจสอบ URL อย่างละเอียดตามหลักการข้างต้น อาจช่วยป้องกันความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สินและข้อมูลส่วนตัวได้อย่างมหาศาล จงจำไว้เสมอว่า ในโลกดิจิทัล “อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ และคิดก่อนคลิกเสมอ”

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์
ตรวจสอบบทความโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ UPSKILL : จับผิด “ลิงก์” หลอกลวง

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

“พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลประชุม GBC สมัยพิเศษ

เกาะกง 10 ก.ย. – “พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลหารือ GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง มุ่งแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากนี้จะมีการดำเนินการถอนอาวุธหนักภายใน 4 สัปดาห์ โดยให้คณะกรรมการไอโอที ร่วมสังเกตการณ์ด้วย และเก็บกู้ทุ่นระเบิดใน 1 สัปดาห์ ต้องแล้วเสร็จใน 1 เดือน ซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย