นักวิชาการเรียกร้อง ครูรับฟังเสียงของเด็กนักเรียน ไม่ปิดกั้น

กรุงเทพฯ18 ส.ค.-นักวิชาการด้านการศึกษา เรียกร้องให้ผู้บริหารโรงเรียน เปิดใจรับฟังการแสดงออกทางการเมืองของเด็กนักเรียน โรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการคิดต่าง ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งผลักเด็กออกไปชุมนุมบนถนน ขณะที่นักเรียนอย่ามองครูคือคู่ขัดแย้ง


ผศ.อรรถพล อนันตวรสกุล คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีการแสดงออกทางการเมือง และการชู3นิ้ว เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ ในเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ของกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมในหลายโรงเรียนทั่วประเทศ ว่า การมีความคิดเห็นที่แตกต่าง เป็นเรื่องปกติของการอยู่ร่วมกันในสังคม สิ่งที่เกิดขึ้นส่วนตัวมองว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เด็ก แต่ปัญหาอยู่ที่ผู้ใหญ่ที่มีแรงกดดันจากหน่วยงานต้นสังกัดที่คาดหวังว่าครูต้องควบคุมทุกอย่าง ซึ่งต้นสังกัดของครูต้องเข้าใจก่อนว่าสถานการณ์ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของการควบคุม แต่คือการประคับประคองบรรยากาศทางสังคมให้อยู่ร่วมกันได้ในความเห็นต่าง รวมถึงเด็กที่อยู่ในวัยที่มีประสบการร์แตกต่างจากผู้ใหญ่ จะต้องสามารถพูดคุยสื่อสารระหว่างกันได้

ย้ำว่า โรงเรียนต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเด็กในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ถ้าโรงเรียนไม่เป็นพื้นที่เหล่านั้น เท่ากับกำลังผลักให้เด็กต้องออกไปบนถนน ออกไปสื่อสารกับสังคมวงกว้างที่อยู่ในพื้นที่ที่คุณครูจะดูแลไม่ได้อีกต่อไป หากเด็กๆต้องไปอยู่ในพื้นที่สาธารณะอื่นๆ เด็กๆอาจจะแต่งตัวไปรเวท เราจะไม่สามารถแยกออกเลยว่า เมื่อเด็กเหล่านี้ไปรวมกลุ่มกับผู้ใหญ่หรือรุ่นพี่จะเป็นอย่างไร เนื่องจากนอกโรงเรียนมีความรุนแรงเกิดขึ้น ทุกคนจะต้องเสียใจ เพราะวันที่เด็กขอพื้นที่ในโรงเรียนเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ทำไมถึงปิดประตูเด็ก มานั่งไล่บี้เด็กว่าใครคือแกนนำ ใครเป็นตัวต้นเหตุ ส่วนตัวมองว่า ผู้ใหญ่ต้องใจกว้าง ต้องรับฟังมากๆ


ทั้งนี้ เห็นใจคุณครูและผู้บริหารทุกคนเพราะเป็นคนตรงกลางระหว่างต้นสังกัด พร้อมมองว่าขณะที่ผู้ใหญ่ยังมีความเห็นต่าง แล้วเด็กที่คิดต่างจะขอความเห็นใจจากผู้ใหญ่ไม่ได้หรือ ทำไมผู้ใหญ่เข้าใจเด็กไม่ได้ นี่เป็นโจทย์ใหญ่ที่ผู้ใหญ่ต้องหันมาตั้งคำถามกับตัวเอง และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องตีความเชิงบวกด้วยว่า เยาวชนของชาติตื่นตัวเรื่องสังคม สนใจบ้านเมือง ไม่ละเลยเพิกเฉย ทำอย่างไรจะทำให้มีพื้นที่ในการคุยกันระหว่างครูนักเรียน หลายโรงเรียนที่ไม่เกิดบรรยากาศของความขัดแย้ง เนื่องจากมีผู้ใหญ่เข้าใจ ให้พื้นที่เด็กในการแสดงความคิดเห็นได้ อย่างน้อยที่สุดให้ใช้พื้นที่โรงเรียนในการแสดงความคิดและบอกความต้องการของเด็ก

ผศ.อรรถพล กล่าวว่า สิ่งที่เด็กแสดงออกวันนี้ มองว่าไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี แต่เป็นสิ่งที่ชอบด้วยสิทธิปกติที่มนุษย์พึงมี เพื่อบอกว่าตัวเองเป็นใคร คิดอย่างไร และด้วยวัยของเด็กเป็นวัยที่มีความเร่าร้อน อยากจะแสดงออก อยากให้คนได้เห็น ได้รู้ ผู้ใหญ่ ครูยิ่งต้องประคับประคองกัน ให้พฤติกรรมที่มีความกระตือรือร้นของเด็กถูกใช้อย่างมีความหมาย ไม่ใช่เพื่อตั้งป้อมเป็นศัตรูกับใคร ซึ่งครูต้องไม่วางตัวเป็นคู่ขัดแย้งของเด็ก การใช้กำลัง ใช้วาจาในการข่มขู่คุกคาม หรือยึดโทรศัพท์ เรียกเข้าห้องปกครองหรือขู่ว่าจะเรียกตำรวจมาจับ เหล่านี้คือสิ่งที่ผลักให้เด็กเป็นคู่ขัดแย้ง เมื่อเด็กมองว่าตัวเองถูกผลักให้เป็นคู่ขัดแย้งจะไม่เหลือพื้นที่ในการคุยกันในโรงเรียน เด็กก็จะออกไปคุยกันข้างนอก ซึ่งจะทำให้ครูไม่สามารถประคับประคองได้อีกต่อไป เรื่องสำคัญคือเด็กโตเกินกว่าจะถูกบังคับให้อยู่ในกรอบ เชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ที่สังคมต้องตื่นรู้ว่าทุกอย่างมีเหตุมีปัจจัย ซึ่งตลอด 6-7 ปี ที่ผ่านมา มีนโยบายรัฐเยอะมากที่ลงไปที่โรงเรียน และกำหนดกฏเกณฑ์ ให้เด็กต้องทำแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งมองว่า สิ่งเหล่านี้เหมือนการรดน้ำเติมปุ๋ยให้ความรู้สึกไม่พอใจที่มีอยู่ เบ่งบานออกมา ยิ่งเด็กโตขึ้น และบรรยากาศสังคมเอื้อให้คนรู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิมีเสียงในการส่งเสียงในการทำหน้าที่พลเมือง จึงอยากให้ผู้ใหญ่มองว่า ดอกไม้บานได้ เพราะมีปุ๋ยรด มีน้ำรด เราใช้อำนาจกดเด็กมานานมาก มีนโยบายหลายอย่างที่ไม่ได้รับฟังเสียงของเด็กๆ และวันนี้เด็กตระหนักในพลังของตัวเอง ดอกไม้เลยต้องบาน เพื่อส่งเสียงว่า เด็กๆมองและคิดอย่างไร ผู้ใหญ่ต้องเคารพในสิ่งที่เด็กคิด และทบทวนตัวเอง เพื่ออยู่ร่วมกันในสังคมและโรงเรียนให้ได้

“การห้ามไม่ใช่ทางออก เพราะไม่สามารถห้ามหรือห้ามความคิดใครได้ มองว่าเรื่องนี้ท้าทายกับผู้ใหญ่ จะใจเย็นมากพอกับเด็กกำลังหุนหันพลันแล่น พร้อมออกมาเคลื่อนไหว สำคัญคือการเปิดใจรับฟัง และผู้ปกครองมีส่วนสำคัญในการรับฟังและเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก หากบ้านและโรงเรียนไม่เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับพวกเด็ก ยิ่งผลักให้เด็กอยู่กับเพื่อน โลกไซเบอร์อยู่กับพื้นที่ชุมนุมนอกโรงเรียน อย่าเข้าใจว่าเด็กถูกล้างสมองหรือถูกใครปั่นหัว เด็กมีความเป็นตัวของตัวเอง เรียนรู้และสังเกตุมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียน ในการสื่สารกับนักเรียนและต้นสังกัดอย่างไร จะเป็นผู้รับคำสั่งแล้วมากดครูและนักเรียนอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องให้เสียงย้อนกลับไปยังต้นสังกัดว่าไม่ง่ายที่จะสั่งการได้ เพราะบรรยากาศสังคมตอนนี้ต้องการการสื่อสารและคุยกัน การฟังหายไปจากโรงเรียนและสังคมไทยอย่างมาก” นายอรรถพล กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]

จัดโพเดียมกลางตึกไทยคู่ฟ้า รอนายกฯ แถลงหลังศาลอ่านคำวินิจฉัย

ทำเนียบ 28 ส.ค.-จัดโพเดียมกลางตึกไทยคู่ฟ้ารอ “แพทองธาร” นายกฯ แถลง หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยปมคลิปเสียงสนทนา “ฮุนเซน” ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบทีมทนายความ และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนเข้ารับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คดีคลิปเสียงสนทนา “สมเด็จฮุน เซน” ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่ น.ส.แพทองธาร จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ในเวลาประมาณ 14.00 น. เพื่อติดตามรับชมการถ่ายทอดสดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ห้องประชุมชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า และจัดเตรียมห้องสีม่วง สำหรับรัฐมนตรีที่มาให้กำลังใจ ร่วมรับฟังคำวินิจฉัยไปพร้อมกัน ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการอ่านคำวินิจฉัย นายกฯ จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน บริเวณโถงกลาง ภายในตึกไทยคู่ฟ้า และจะเดินทางกลับออกไปในทันที โดยคาดว่าจะไม่เปิดให้สื่อมวลชนได้ซักถาม ซึ่งหลังจากเดินทางออกจากทำเนียบฯ ต้องจับตาว่า น.ส.แพทองธาร จะเดินทางไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อพบกับสมาชิก สส. และผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย หรือไม่ เพราะสมาชิก […]