สธ. 27 มิ.ย. – ปลัด สธ.ย้ำ 1 ก.ค.พ้นการระบาดใหญ่โควิด แต่ยังต้องมีการฉีดวัคซีนต่อเนื่อง เตรียมฉีดวัคซีนให้กลุ่มเด็กเล็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป รอเพียงบริษัทผู้ผลิตมาขึ้นทะเบียน ส่วน BA.4 และ BA.5 ยังไม่ฟันแพร่เร็วกว่าเดิม หลังหลายประเทศมีความแตกต่าง
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ไทยยังคงก้าวเข้าสู่การพ้นการระบาดใหญ่ของโควิด -19 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เชื่อว่าหากมีการเจ็บป่วย จากนี้จะไม่พบการระบาดเป็นที่เวฟใหญ่เหมือนในอดีต แต่จะเป็นเวฟเล็ก ๆ ที่ไม่กระทบต่อระบบการแพทย์และสาธารณสุข เนื่องจากขณะนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 140 ล้านโดส อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการรณรงค์ให้มีการรับวัคซีนต่อเนื่องทุก ๆ 4 เดือน และจากการหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ พบว่ามีคนไทยในต่างประเทศ 16 ล้านคน ต้องสำรวจว่ามีการรับวัคซีนแล้วหรือไม่
ส่วนความกังวลโอไมครอน สายพันธุ์ BA.4. และ BA.5 นั้น จากข้อมูลในต่างประเทศ พบว่าสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ มีการแพร่เร็วกว่าเดิม 1.3-1.4 เท่า แต่ในนอร์เวย์กลับมีอัตราการแพร่น้อยกว่า ดังนั้น ปัจจัยของการแพร่เชื้อเร็วขึ้น จึงอาจไม่ใช่เรื่องของเชื้อไวรัสที่พัฒนาเพียงอย่างเดียว อาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การเฝ้าระวังสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลงของโควิด-19 มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยพบมาตั้งแต่เมษายน แต่เป็นในกลุ่มนักเดินทางชาวต่างชาติ ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างสายพันธุ์ตรวจ พบว่าเป็น BA.4 ถึง 40-50% ซึ่งยังต้องมีการติดตามต่อไป อย่างไรก็ตาม โควิดไม่ได้หายไปไหนยังอยู่รอบตัว ดังนั้น ยังต้องระมัดระวังตัวต่อไป แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงเหมือนในอดีตที่กระทบกับสถานพยาบาล และทาง อย.สหรัฐ มีการอนุมัติวัคซีนโควิด -19 ฉีดให้กับกลุ่มเด็กเล็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขก็เตรียมพิจารณาให้มีการฉีดวัคซีนเช่นกัน แต่ต้องรอทางบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ยื่นการทะเบียนกับ อย.หลังจากนั้นก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยรูปแบบการฉีดคงแตกต่างจากฉีดเด็กวัยเรียน รายละเอียดต้องรอทางกรมควบคุมโรค
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีบริษัทผู้ผลิตวัคซีนสำหรับเด็กเล็ก ทั้งไฟเซอร์ และโมเดอร์นา มายื่นของขึ้นทะเบียน เพราะเพิ่งผ่านการอนุมัติจาก อย.สหรัฐไม่นาน อย่างไรก็ตาม สำหรับสูตรการฉีดวัคซีนเด็กเล็กนี้ จะต้องมีขนาดแตกต่างกว่าเด็กวัยเรียน ประมาณ 0.3 ไมโครกรัมต่อโดส.-สำนักข่าวไทย