บอร์ด สปสช.เคาะปรับอัตราจ่ายค่าบริการโควิด

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – บอร์ด สปสช.เคาะปรับอัตราจ่ายค่าบริการโควิด พร้อมหนุนหน่วยบริการร่วมจัดหา ATK แจกประชาชน


ที่ประชุมบอร์ด สปสช. เห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์-อัตราจ่ายชดเชยบริการโควิดใหม่ เหมาจ่ายค่าห้องผู้ป่วยสีเขียว ปรับอัตราค่าห้องผู้ป่วยสีเหลือง-แดง หนุนหน่วยบริการร่วมกระจายชุดตรวจ ATK ให้คนไทยทุกสิทธิ เหมาจ่ายรถโดยสารอื่น-TAXI กรณีเสริม-แทนการใช้รถพยาบาล พร้อมดึงกลไกการจ่ายเงินผ่านธนาคาร online เป็นรายวัน เพิ่มความรวดเร็วในการจ่ายให้หน่วยบริการ

ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2565 ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์ แนวทางอัตราจ่าย และกำหนดวันบังคับใช้การจ่ายชดเชยบริการโรคโควิด-19 พร้อมทั้งมีมติรับทราบกลไกการจ่ายเงินรายวันได้ ผ่านทางธนาคารด้วยระบบออนไลน์ ได้เป็นรายวัน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามข้อ 14 (2) แห่งระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน พ.ศ.2555 เสนอโดย นางดวงตา ตันโช ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุน


สำหรับการปรับหลักเกณฑ์นี้เป็นไปตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มีนโยบายการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดกลุ่มไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มากด้วยระบบการดูแลที่บ้านหรือในชุมชน รวมถึงการตรวจคัดกรองโควิดด้วยชุดตรวจ ATK เป็นวิธีแรก (HI – CI – ATK first) เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐ และเป็นการลดภาระงบประมาณ ภาระงานด้านสาธารณสุขของประเทศ รวมถึงการประชุมหารือร่วมระหว่าง 4 กองทุนภาครัฐ ที่เห็นชอบในหลักการจ่ายชดเชยค่าบริการสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 (กลุ่มอาการสีเขียว) ที่รักษาในโรงพยาบาล, HI/CI, Hotel Isolation, รพ.สนาม และ Hospitel ทั้งในหน่วยบริการในระบบ และกรณีการเข้ารับบริการในระบบเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตโรคโควิด (UCEP COVID) เป็นการจ่ายแบบเหมาจ่ายในอัตราเดียวกัน

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า การปรับหลักเกณฑ์และแนวทางอัตราจ่ายใหม่นี้ มีทั้งหมด 5 ส่วน ได้แก่ 1.การจ่ายค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยกรณีดูแลรักษาผู้ป่วยอาการสีเขียว จะจ่ายชดเชยเช่นเดียวกับบริการ HI/CI ไม่ว่าจะเป็นการรักษาในโรงพยาบาล (ไม่จ่าย DRGs) รวมถึงการรักษานอกโรงพยาบาล เช่น HI/CI, Hotel Isolation, รพ.สนาม และ Hospitel โดยกำหนดอัตราการจ่ายแบบเหมาจ่ายต่อการให้บริการผู้ป่วย 1 ราย รวมค่าอาหาร อยู่ที่ 12,000 บาท สำหรับการรักษา 7 วันขึ้นไป และ 6,000 บาท สำหรับการรักษาตั้งแต่ 1-6 วัน ส่วนกรณีไม่รวมค่าอาหารจะเหมาจ่ายที่ 8,000 บาท และ 4,000 บาท ตามลำดับ

2.การตรวจคัดกรองและตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการติดเชื้อโควิด-19 โดยวิธีตรวจ ATK โดยผู้เชี่ยวชาญ (ATK Professional) จะปรับอัตราจ่ายให้เหมาะสมกับราคาในปัจจุบัน และสอดรับนโยบาย ATK First และอ้างอิงราคาตามประกาศกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยแบบ Chromatography จะจ่ายที่ 250 บาท จากเดิม 300 บาท และแบบ FIA จะจ่ายที่ 350 บาท จากเดิม 400 บาท ขณะที่การตรวจคัดกรองด้วยวิธี RT-PCR ประเภท 2 ยีน จะปรับการจ่ายเป็น 900 บาท จากเดิม 1,300 บาท ส่วนประเภท 3 ยีน จ่ายเป็น 1,100 บาท จากเดิม 1,500 บาท


3.อัตราจ่ายค่าห้องสำหรับการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาล ได้ปรับอัตราจ่ายค่าห้องที่ดูแลการรักษา โดยแบ่งระดับเตียงใหม่ตามความรุนแรงของโรคเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสม ตามที่กรมการแพทย์กำหนดเป็น 5 ระดับ และปรับลดอัตราจ่ายอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จากเดิมชุดละ 600 บาท เหลือ 550 บาท สำหรับการดูแลรักษาผู้ป่วยสีเหลือง/แดง และลดจำนวนชุดที่ใช้ต่อวันของเตียงระดับอาการรุนแรง ตามสถานการณ์ปัจจุบันที่ทีมบุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าไปดูผู้ป่วยครั้งละหลายคน

4.การสนับสนุนชุดตรวจ ATK-self test สำหรับประชาชนคนไทยทุกสิทธิ โดย สปสช.จะเป็นกลไกกลางในการประสานผู้จำหน่าย โดยเฉพาะผู้จำหน่ายที่อยู่ในบัญชีนวัตกรรมในการกระจายชุดตรวจให้หน่วยบริการเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม และจำนวนตามความต้องการของหน่วยบริการ ส่วนหน่วยบริการที่เข้าร่วม ได้แก่ ร้านยา คลินิกการพยาบาลฯ คลินิกกายภาพบำบัด หน่วยเทคนิคการแพทย์ฯ หรือหน่วยบริการอื่นที่สนใจ จะได้รับค่าใช้จ่ายเป็นเงินในอัตรา 55 บาทต่อชุดตรวจ สำหรับเป็นค่าชุดตรวจและค่าบริการให้คำแนะนำการตรวจ ATK การอ่านผล และการปฏิบัติตัวของประชาชน

5.อัตราจ่ายค่าพาหนะรับ-ส่งต่อ กรณีใช้รถโดยสารประเภทอื่น ซึ่งเป็นการจ่ายชดเชยในลักษณะเหมาจ่ายต่อวัน ในอัตรา 1,900 บาทต่อวัน กรณีใช้รถโดยสารประเภทอื่น เช่น TAXI เสริมหรือทดแทนการใช้รถพยาบาล (Ambulance) ของโรงพยาบาล โดยต้องมีระบบที่ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อที่ถูกหลักวิชาการ เพื่อแบ่งเบาภาระงาน และเป็นทางเลือกของหน่วยบริการในการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยไม่มีอาการ หรืออาการเล็กน้อย

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในส่วนของแนวทางการจ่ายค่าบริการฯ กรณีการสนับสนุน ATK Self test และบริการรับ-ส่งต่อใช้รถโดยสารประเภทอื่น สปสช.จะกำหนดกลไกการจ่ายเงินรายวัน ผ่านทางธนาคารด้วยระบบ online เป็นรายวันได้ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามข้อ 14 (2) แห่งระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน พ.ศ.2555 ทั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจ่ายเงินกองทุนให้แก่หน่วยบริการ

นพ.จเด็จ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับข้อเสนอการปรับอัตราจ่ายชดเชยบริการโควิด-19 รายการ 1. บริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มอาการสีเขียว 2. บริการตรวจคัดกรองและตรวจยืนยันโควิด-19 ด้วย ATK Professional และ RT-PCR และ 3. อัตราจ่ายค่าห้อง สำหรับการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาล ได้กำหนดวันบังคับใช้ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 เนื่องจากจะดำเนินการพร้อมกับกองทุนประกันสุขภาพอื่น ขณะที่รายการ 4. การสนับสนุนชุดตรวจ ATK Self test สำหรับประชาชนคนไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และ 5.อัตราจ่ายค่าพาหนะรับ-ส่งต่อ กรณีใช้รถโดยสารประเภทอื่น เช่น TAXI จะมีผลทันทีหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบนี้. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร