ชวนร่วมบริจาคโลหิตวันพระใหญ่วิสาขบูชา

กรุงเทพฯ 25 พ.ค.-เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมบริจาคโลหิต เนื่องในวันวิสาขบูชา ช่วยชีวิตผู้เจ็บป่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนและลดปัญหาการขาดแคลนโลหิต ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 6 แห่ง และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ


รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันวิสาขบูชาเป็นวันที่มีความสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์ 3 ประการ ในวันเดียวกัน คือ วันที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานมาบรรจบกัน วันวิสาขบูชาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี โดยองค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก ด้วยเหตุผลว่า องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นมหาบุรุษ ผู้มีเมตตาต่อมวลมนุษย์ ทั้งยังทรงสอนให้รู้จักช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย โดยในปี 2564 วันวิสาขบูชาตรงกับวันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2564 ซึ่งพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่จะร่วมกันทำบุญตักบาตร ให้ทาน เวียนเทียน และบำเพ็ญสาธารณกุศล นอกจากนี้การบริจาคโลหิตให้กับผู้อื่น ถือเป็นการสร้างบุญกุศลให้แก่ตนเอง และยังสามารถช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้อีกด้วย

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงจัดกิจกรรมเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญใหญ่ ให้ชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต ในโครงการ “สาธุชนผู้ศรัทธา บำเพ็ญบุญ บริจาคโลหิต เนื่องในวันวิสาขบูชา” วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เพื่อร่วมกันทำบุญบริจาคโลหิตให้ชีวิตแก่ผู้ป่วย เป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ เพราะการบริจาคโลหิตเป็นการสละโลหิตในร่างกายของตนเอง เพื่อช่วยชีวิตผู้เจ็บป่วยโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน เพื่อเป็นกิจกรรมกระตุ้นเกิดการบริจาคโลหิตประจำทุก 3 เดือน ทำให้มีปริมาณโลหิตที่เพียงพอแก่ผู้ป่วยโรงพยาบาลทั่วประเทศ ลดปัญหาการขาดแคลนโลหิตในขณะนี้ และเพื่อความปลอดภัยของผู้บริจาคโลหิต รักษามาตราการป้องกันโรค COVID-19 ขอให้ผู้บริจาคโลหิตทยอยมาร่วมทำบุญ ได้ทุกวัน


สามารถบริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์รับบริจาคโลหิตและพลาสมา สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค), เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง)

ส่วนภูมิภาค บริจาคโลหิตได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี, ชลบุรี, ราชบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, นครสวรรค์, พิษณุโลก, เชียงใหม่, นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง), สงขลา และภูเก็ต .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”