กรุงเทพฯ 1 มี.ค.-ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เชิญชวนบริจาคโลหิตในภาวะวิกฤติโควิด-19 ช่วยผู้ป่วยโรคเลือดกว่า 5 แสนรายทั่วประเทศ เพราะยังมีผู้ป่วยต้องใช้โลหิตเป็นประจำทุกเดือน
รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 ขณะนี้ การดำเนินงานบริการโลหิต ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไป ไม่สามารถหยุดการรับบริจาคโลหิตได้ เนื่องจากโลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ซึ่งต้องได้มาจากการบริจาคเท่านั้น และต้องการใช้ทุกวัน หากขาดโลหิตจะส่งผลกระทบกับผู้ป่วยโรคต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย จำเป็นที่ต้องใช้โลหิตในการรักษาเป็นประจำ ซึ่งในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ผู้ป่วยประสบปัญหา ในการรอรับโลหิต หรือบางรายต้องเลื่อนการรับโลหิตออกไป นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยผ่าตัดใหญ่ อุบัติเหตุ ตกเลือด จากการคลอดบุตร ฯลฯ ที่มีการเสียโลหิตในปริมาณมาก ต้องให้โลหิตทดแทนอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่สามารถ ที่จะเลือกเวลาได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ตาม
รศ.พญ.ดารินทร์ ซอโสตถิกุล สาขาโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคโลหิตจางเรื้อรัง เกิดจากการถ่ายทอดพันธุกรรมจากพ่อและแม่ ที่เป็นพาหะหรือมียีนแฝงของโรคธาลัสซีเมีย ประมาณ 25 ล้านคน ปัจจุบัน มีคนไทยที่ป่วยเป็นโรคนี้สูงถึง 8 แสนราย และมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันตามชนิดของโรค ผู้ป่วยชนิดรุนแรง กว่า 5 แสนราย จำเป็นต้องได้รับโลหิตทุก 3-4 สัปดาห์ เฉลี่ยครั้งละ 1-2 ยูนิต (ถุง) ในการรักษาเพื่อเพิ่มระดับฮีโมโกลบินให้ใกล้เคียงปกติ หากไม่ได้รับโลหิต ผู้ป่วยเหล่านี้จะมีภาวะซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ส่งผลกระทบต่อ การดำรงชีวิตในประจำวัน
ทั้งนี้ ขอวอนผู้มีสุขภาพดี ร่วมบริจาคโลหิต ช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคเลือดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 12 มีนาคม 2564 ผู้บริจาคโลหิตจะได้รับสายคล้องหน้ากาก “Give Blood Save Lives”แทนคำขอบคุณจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โดยสายคล้องหน้ากากผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษมีคุณค่า เป็น Limited Edition ไม่มีจำหน่าย สามารถนำไป ใช้งานได้กับหน้ากากทุกชนิด ในส่วนกลาง บริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์รับบริจาคโลหิตและพลาสมา สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค), เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ บางกะปิ,เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม, บ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง) และโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต 6 แห่งในกรุงเทพฯ
ส่วนภูมิภาค บริจาคโลหิตได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี, ชลบุรี,ราชบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, นครสวรรค์, พิษณุโลก, เชียงใหม่, นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง), สงขลา ภูเก็ต และโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ .-สำนักข่าวไทย