รัฐบาลชวนหญิงตั้งครรภ์ตรวจคัดกรอง “ดาวน์ซินโดรม-ธาลัสซีเมีย”
ทำเนียบ วันนี้ ( 8 พ.ย.) รัฐบาลเชิญชวนหญิงไทยตั้งครรภ์ทุกคน ทุกสิทธิรักษาพยาบาล รับบริการตรวจคัดกรอง “ดาวน์ซินโดรม” และ “ธาลัสซีเมีย” ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ฝากครรภ์ กองทุนบัตรทอง
ทำเนียบ วันนี้ ( 8 พ.ย.) รัฐบาลเชิญชวนหญิงไทยตั้งครรภ์ทุกคน ทุกสิทธิรักษาพยาบาล รับบริการตรวจคัดกรอง “ดาวน์ซินโดรม” และ “ธาลัสซีเมีย” ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ฝากครรภ์ กองทุนบัตรทอง
“สิระ” ชี้เป้า 2 พี่น้องติดโควิด คนหนึ่งส่อหนักป่วยธาลัสซีเมีย เริ่มหอบ จ่อบุก สธ. พรุ่งนี้ ทวงเตียงผู้ป่วย
กรุงเทพฯ 1 มี.ค.-ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เชิญชวนบริจาคโลหิตในภาวะวิกฤติโควิด-19 ช่วยผู้ป่วยโรคเลือดกว่า 5 แสนรายทั่วประเทศ เพราะยังมีผู้ป่วยต้องใช้โลหิตเป็นประจำทุกเดือน รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 ขณะนี้ การดำเนินงานบริการโลหิต ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไป ไม่สามารถหยุดการรับบริจาคโลหิตได้ เนื่องจากโลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ซึ่งต้องได้มาจากการบริจาคเท่านั้น และต้องการใช้ทุกวัน หากขาดโลหิตจะส่งผลกระทบกับผู้ป่วยโรคต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย จำเป็นที่ต้องใช้โลหิตในการรักษาเป็นประจำ ซึ่งในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ผู้ป่วยประสบปัญหา ในการรอรับโลหิต หรือบางรายต้องเลื่อนการรับโลหิตออกไป นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยผ่าตัดใหญ่ อุบัติเหตุ ตกเลือด จากการคลอดบุตร ฯลฯ ที่มีการเสียโลหิตในปริมาณมาก ต้องให้โลหิตทดแทนอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่สามารถ ที่จะเลือกเวลาได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ตาม รศ.พญ.ดารินทร์ ซอโสตถิกุล สาขาโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคโลหิตจางเรื้อรัง เกิดจากการถ่ายทอดพันธุกรรมจากพ่อและแม่ ที่เป็นพาหะหรือมียีนแฝงของโรคธาลัสซีเมีย ประมาณ 25 ล้านคน […]
บนสังคมออนไลน์แชร์เตือนว่า การไม่กินอาหารเช้า ระวังจะเสี่ยงเป็นนิ่วในถุงน้ำดี เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
บนสังคมออนไลน์แชร์ว่า คนที่ชอบเคี้ยวน้ำแข็งเสี่ยงเป็นโรคโลหิตจางสูงกว่าคนปกติ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
ปี 2561 สปสช. รุกดูแลผู้ป่วยธาลัสซีเมีย บรรจุนวัตกรรมยา “ดีเฟอร์ราซิร็อก” ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงยาขับเหล็ก ครอบคลุมเพิ่ม 1.5 หมื่นราย