สธ.15 ธ.ค.-อธิบดีกรมควบคุมโรค รับปีนี้ฝุ่น PM2.5 มาเร็วกว่าที่คาด ห่วงเด็ก คนแก่ ผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจ ได้รับผลกระทบ พร้อมจับตา 4 โรคอาจได้รับผลกระทบจากฝุ่น ได้แก่ ระบบทางเดินหายใจ หลอดเลือดหัวใจ ดวงตา ผิวหนัง ย้ำการสวมหน้ากากอนามัยช่วยกรองฝุ่นได้ระดับหนึ่ง ฉะนั้นอย่าละเลย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ว่า ปีนี้สถานการณ์ฝุ่นมากเร็วกว่าทุกปี อาจเป็นเพราะสภาพอากาศ ที่มีร่องความกดอากาศ สภาพอากาศที่นิ่ง ทำให้บางพื้นที่ค่าฝุ่นวัดได้ตั้งแต่ 50-100-200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะได้เฝ้าระวังจับตาใน 4 โรค ที่อาจได้รับผลกระทบจากฝุ่นขนาดเล็ก ได้แก่ กลุ่มโรคทางเดินหายใจ ,หลอดเลือดหัวใจ,การระคายเคืองตา
ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยระหว่างนี้ขอให้งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง งดการออกกำลังกายแบบหนักๆก่อน และช่วยกันลดการเผาไหม้ที่ไม่จำเป็น ทั้งการเผาขยะ หรือการขับรถยนต์ เพื่อช่วยกันลดฝุ่นและควรหันมาใช้ระบบโดยสารสาธารณะ ส่วนการป้องกันตนเองการสวมใส่หน้ากากอนามัย แม้จะเป็นหน้ากากอนามัยป้องกันโรค แต่ไม่หน้ากากกันฝุ่น โดยเฉพาะก็ยังสามารถป้องกันได้ดี
นพ.โอภาส กล่าวว่า เชื่อว่าสถานการณ์ฝุ่นที่เกิดขึ้นขณะนี้ทำให้หลายคน นึกถึงการเวิร์คฟอร์มโฮมช่วงนั้นสภาพอากาศดีมาก แต่ก็อาจทำในทุกประเภทงานไม่ได้ ดังนั้นก็ขอให้ช่วยกันลดฝุ่น และงดกิจกรรมกลางแจ้งไปก่อน หากออกนอกบ้านหมั่นดูแอปพพลิเคชันและอยู่หรือทำกิจกรรมนอกบ้านให้สั้นที่สุด การพบปัญหาฝุ่นกับโควิด ต้องแยกออกจากกัน ฝุ่นอาจก่อให้เกิดผลกระทบกับภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ เช่น เนื้อเยื่อบริเวณดวงตา หรือจมูก เท่าน้น ไม่ได้มีผลให้โควิดรุนแรงขึ้นหรอือย่างไร เพียงแต่การป้องกันทุกอย่าง ยังคงต้องเน้นการสวมหน้ากากอนามัยไว้ก่อน และ ภายในบ้านก็ควรหมั่นทำความสะอาด .-สำนักข่าวไทย