สำนักข่าวไทย 5 ธ.ค. – ปปง. แจงตำรวจคืนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เฉพาะ 4 รายที่ยับยั้งทัน ผู้เสียหายสามารถสอบได้ผ่านหมายเลข 1710 ตลอด 24 ชม.
พลตำรวจตรี รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมสำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ออกหมายจับผู้กระทำผิด 113 หมายจับ ตามจับได้แล้ว 80 หมายจับ โดยยังมีผู้หลบหนีไปต่างประเทศอีก 7 ราย และสามารถยึดเงินของกลางได้กว่า 120 ล้านบาท เบื้องต้นสามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ 4 ราย ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน สน.คลองตัน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.สงขลา และจะทยอยคืนเงินให้ผู้เสียหายได้ทั้งหมดภายใน 2 สัปดาห์ นั้น
การเผยแพร่ข่าวดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนที่ได้รับความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เข้าใจว่าสามารถขอรับเงินที่ได้รับความเสียหายได้ภายใน 2 สัปดาห์ และโทรศัพท์ผ่านสายด่วน ปปง. 1710 มาสอบถามยังศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ปปง. (ศปก.ปปง.) เป็นจำนวนมาก เพื่อสอบถามเรื่องการขอรับเงินคืนจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงิน สำนักงาน ปปง. ขอประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้
1. กรณีการคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ 4 ราย นั้น เป็นกระบวนการของตำรวจ ที่ดำเนินการเพื่อบรรเทาความเสียหายให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงินและ ศปก.ปปง. สามารถประสานธนาคารเพื่อยับยั้งการถอนเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ในขณะเกิดเหตุในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
2. สำนักงาน ปปง. จะประสานการปฏิบัติกับพนักงานสอบสวนของฝ่ายตำรวจหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของสำนักงาน ปปง. จะใช้มาตรการตามกฎหมายฟอกเงินในการดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน และคุ้มครองสิทธิให้กับประชาชนผู้เสียหาย ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยบรรเทาความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ หากมีการประกาศคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในราชกิจจานุเบกษาแล้ว สำนักงาน ปปง. จะเผยแพร่ประกาศดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ www.amlo.go.th ให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามมายัง ศปก.ปปง. สายด่วน ฮอตไลน์ 1710 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ.-สำนักข่าวไทย