เพื่อไทยย้ำปัญหาชายแดนไม่เกี่ยว 2 ตระกูล

พรรคเพื่อไทย 27 ก.ค. – เพื่อไทย ย้ำปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นผลพวงจากปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่ปัญหาสองตระกูล ชี้ที่ยิงกันปี 54 ผู้นำรัฐบาลก็ไม่ใช่ตระกูล “ชิน” วอนแกนนำม็อบพักชุมนุม เอางบซื้อข้าว-น้ำไปช่วย ประชาชนชายแดนก่อน


นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าพรรคเพื่อไทยขอเคียงข้างประชาชน และขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของสองตระกูล แต่เป็นเพราะรัฐบาลพยายามจัดการกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเสียผลประโยชน์ เพราะรัฐบาลตั้งใจที่จะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป ที่จะมารบกวนสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งตนได้ติดตามสถานการณ์จากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด บางจุดเริ่มคลี่คลายแต่บางจุดก็สุ่มเสี่ยงต่อการปะทะ ซึ่งกองทัพไทยพร้อมที่จะเผชิญเหตุต่างต่าง และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และขอย้ำว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ

นายดนุพร เชื่อว่าเรื่องการปราบปราม อาชญากรรมข้ามชาติ สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศกัมพูชา เพราะหากย้อนกลับไปไม่นาน ประเทศไทยได้ขอความร่วมมือ เตรียมการจัดตั้งกลไกไตรภาคี ร่วมกับเมียนมาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และเราได้เชิญ กัมพูชาเข้าร่วมด้วย ก็ปรากฏว่า กัมพูชาปฏิเสธโดยบอกว่าจะดำเนินการด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไม่ปกติ เพราะเป็นเรื่องที่ภูมิภาคนี้ควรจะร่วมกันแก้ไข ทั้งนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่เป็นความขัดแย้ง ของสองตระกูลดามที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นขอวิงวอนไปยังสื่อมวลชน อินฟลูเอ็นเซอร์ เสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์และไม่อยากให้นำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นความขัดแย้ง ปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยก แตกสามัคคี ขณะเดียวกันนอกจากพรรคเพื่อไทยประสานไปยังกองทัพ กระทรวงมหาดไทยแล้วยังประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานในระดับทวิภาคี และจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อ ประเมินผลกระทบระหว่างประเทศ และติดตามข้อมูลจากสถานทูตต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป


โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจกับ ครอบครัวทหารกล้า ที่สละชีวิต รวมทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีสสในพื้นที่ ทางอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ได้ระดมสรรพกำลังสส. อีสานในเขตใกล้เคียง เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งได้รับ การยืนยันจากรัฐ รัฐบาลว่า มีส่วนช่วยเหลือประชาชน 295 แห่ง ก็จะกระจาย สส. ลงไปช่วยดูแล และนำสิ่งของอุปโภคบริโภคต่างๆ นำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งแพทย์ เข้าไปดูแลประชาชน

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า ตนเข้าใจดีว่าประชาชนมีความโกรธ มีความสะเทือนใจกับการสูญเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหากล้าหรือพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ก็อยากให้สังคมไทยตั้งสติ และไม่อยากให้เปลี่ยนความโกรธนี้เป็น ความเกลียดชัง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องรัฐต่อรัฐ ไม่ได้เกี่ยวกับพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด จึงไม่อยากให้ พวกเรามีอารมณ์โกรธ จนถึงเกลียดไปทำร้าย พี่น้องชาวกัมพูชาที่มาทำงานในประเทศไทย และไม่อยากให้ความรู้สึกเหล่านี้ลามไปถึงหมู่พี่น้องประชาชน เราประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศสงบสุข ชื่อว่าสยามเมืองยิ้ม

ส่วนกรณีที่มวลชนประกาศจะรวมตัวกัน ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ นายดนุพร กล่าวว่าอยากจะขอร้องไปยังแกนนำว่าวันนี้สิ่งที่ประเทศต้องการ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีท่านใหม่ หรือยุบสภา แต่สิ่งที่ ประเทศไทยต้องการคือความสามัคคี ผนึกกำลังของคนในชาติให้ประเทศเพื่อนบ้านเห็น ว่า วันนี้ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมที่จะตอบโต้ผู้รุกล้ำอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มที่ จึงขอเรียกร้องไปยังแกนนำม็อบทั้งหลาย ที่ไม่พอใจรัฐบาลและไม่พอใจพรรคเพื่อไทย ว่ารอให้ประเทศสงบสุขก่อน แล้วค่อยกลับมาชุมนุม อยากให้รับคำร้องขอและนำไปพิจารณา ตนทราบดีว่าการชุมนุมแต่ละครั้งต้องมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก ทั้งซื้อน้ำอาหารมาเลี้ยงผู้ชุมนุม หากต้องใช้งบประมาณตัวนี้ขอเรียนว่า ขอให้นำน้ำอาหารแห้งต่างๆ ส่งไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่อพยพอยู่บริเวณชายแดน น่าจะเหมาะสมกว่า


ส่วนเมื่อถามว่าที่กัมพูชาไม่พอใจ นอกจากการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีเรื่องที่ไทยผลักดันกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ด้วยหรือไม่ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ก็อาจจะเกี่ยวข้องกันในหลายประเด็น แต่ย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับสองตระกูลและถ้าจำกันได้ เหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อปี 2554 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งตนก็เชื่อว่าครอบครัวของนายอภิสิทธิ์ก็คงไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับกัมพูชา และอาจย้อนกลับไปหลายสิบปีที่มีข้อขัดแย้ง เรื่องปราสาทพระวิหาร ก็เชื่อว่าผู้นำในขณะนั้นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งกับครอบครัวของผู้นำกัมพูชา จึงขอย้ำว่า ไม่ใช่ เรื่องที่เกี่ยวกับนามสกุล หรือตระกูลใดตระกูลหนึ่งทะเลาะกัน แต่ละยุคแต่ละสมัย มีความขัดแย้งกัน เป็นเรื่องปกติของเพื่อนบ้านกัน และเชื่อว่า ประชาชนคนไทย ยอมรับว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นภัยคุกคามพวกเราจริงๆ หากรัฐบาลไม่ปราบปรามอย่างเข้มข้นและจริงจัง คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชนชาวไทย ซึ่งรัฐบาลเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย