เพื่อไทยย้ำปัญหาชายแดนไม่เกี่ยว 2 ตระกูล

พรรคเพื่อไทย 27 ก.ค. – เพื่อไทย ย้ำปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นผลพวงจากปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่ปัญหาสองตระกูล ชี้ที่ยิงกันปี 54 ผู้นำรัฐบาลก็ไม่ใช่ตระกูล “ชิน” วอนแกนนำม็อบพักชุมนุม เอางบซื้อข้าว-น้ำไปช่วย ประชาชนชายแดนก่อน


นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าพรรคเพื่อไทยขอเคียงข้างประชาชน และขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของสองตระกูล แต่เป็นเพราะรัฐบาลพยายามจัดการกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเสียผลประโยชน์ เพราะรัฐบาลตั้งใจที่จะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป ที่จะมารบกวนสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งตนได้ติดตามสถานการณ์จากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด บางจุดเริ่มคลี่คลายแต่บางจุดก็สุ่มเสี่ยงต่อการปะทะ ซึ่งกองทัพไทยพร้อมที่จะเผชิญเหตุต่างต่าง และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และขอย้ำว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ

นายดนุพร เชื่อว่าเรื่องการปราบปราม อาชญากรรมข้ามชาติ สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศกัมพูชา เพราะหากย้อนกลับไปไม่นาน ประเทศไทยได้ขอความร่วมมือ เตรียมการจัดตั้งกลไกไตรภาคี ร่วมกับเมียนมาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และเราได้เชิญ กัมพูชาเข้าร่วมด้วย ก็ปรากฏว่า กัมพูชาปฏิเสธโดยบอกว่าจะดำเนินการด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไม่ปกติ เพราะเป็นเรื่องที่ภูมิภาคนี้ควรจะร่วมกันแก้ไข ทั้งนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่เป็นความขัดแย้ง ของสองตระกูลดามที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นขอวิงวอนไปยังสื่อมวลชน อินฟลูเอ็นเซอร์ เสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์และไม่อยากให้นำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นความขัดแย้ง ปลุกปั่นยุยงให้เกิดความแตกแยก แตกสามัคคี ขณะเดียวกันนอกจากพรรคเพื่อไทยประสานไปยังกองทัพ กระทรวงมหาดไทยแล้วยังประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานในระดับทวิภาคี และจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อ ประเมินผลกระทบระหว่างประเทศ และติดตามข้อมูลจากสถานทูตต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป


โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจกับ ครอบครัวทหารกล้า ที่สละชีวิต รวมทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีสสในพื้นที่ ทางอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ได้ระดมสรรพกำลังสส. อีสานในเขตใกล้เคียง เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งได้รับ การยืนยันจากรัฐ รัฐบาลว่า มีส่วนช่วยเหลือประชาชน 295 แห่ง ก็จะกระจาย สส. ลงไปช่วยดูแล และนำสิ่งของอุปโภคบริโภคต่างๆ นำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งแพทย์ เข้าไปดูแลประชาชน

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า ตนเข้าใจดีว่าประชาชนมีความโกรธ มีความสะเทือนใจกับการสูญเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหากล้าหรือพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ก็อยากให้สังคมไทยตั้งสติ และไม่อยากให้เปลี่ยนความโกรธนี้เป็น ความเกลียดชัง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องรัฐต่อรัฐ ไม่ได้เกี่ยวกับพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด จึงไม่อยากให้ พวกเรามีอารมณ์โกรธ จนถึงเกลียดไปทำร้าย พี่น้องชาวกัมพูชาที่มาทำงานในประเทศไทย และไม่อยากให้ความรู้สึกเหล่านี้ลามไปถึงหมู่พี่น้องประชาชน เราประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศสงบสุข ชื่อว่าสยามเมืองยิ้ม

ส่วนกรณีที่มวลชนประกาศจะรวมตัวกัน ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ นายดนุพร กล่าวว่าอยากจะขอร้องไปยังแกนนำว่าวันนี้สิ่งที่ประเทศต้องการ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีท่านใหม่ หรือยุบสภา แต่สิ่งที่ ประเทศไทยต้องการคือความสามัคคี ผนึกกำลังของคนในชาติให้ประเทศเพื่อนบ้านเห็น ว่า วันนี้ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมที่จะตอบโต้ผู้รุกล้ำอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มที่ จึงขอเรียกร้องไปยังแกนนำม็อบทั้งหลาย ที่ไม่พอใจรัฐบาลและไม่พอใจพรรคเพื่อไทย ว่ารอให้ประเทศสงบสุขก่อน แล้วค่อยกลับมาชุมนุม อยากให้รับคำร้องขอและนำไปพิจารณา ตนทราบดีว่าการชุมนุมแต่ละครั้งต้องมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก ทั้งซื้อน้ำอาหารมาเลี้ยงผู้ชุมนุม หากต้องใช้งบประมาณตัวนี้ขอเรียนว่า ขอให้นำน้ำอาหารแห้งต่างๆ ส่งไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่อพยพอยู่บริเวณชายแดน น่าจะเหมาะสมกว่า


ส่วนเมื่อถามว่าที่กัมพูชาไม่พอใจ นอกจากการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีเรื่องที่ไทยผลักดันกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ด้วยหรือไม่ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ก็อาจจะเกี่ยวข้องกันในหลายประเด็น แต่ย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับสองตระกูลและถ้าจำกันได้ เหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อปี 2554 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งตนก็เชื่อว่าครอบครัวของนายอภิสิทธิ์ก็คงไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับกัมพูชา และอาจย้อนกลับไปหลายสิบปีที่มีข้อขัดแย้ง เรื่องปราสาทพระวิหาร ก็เชื่อว่าผู้นำในขณะนั้นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งกับครอบครัวของผู้นำกัมพูชา จึงขอย้ำว่า ไม่ใช่ เรื่องที่เกี่ยวกับนามสกุล หรือตระกูลใดตระกูลหนึ่งทะเลาะกัน แต่ละยุคแต่ละสมัย มีความขัดแย้งกัน เป็นเรื่องปกติของเพื่อนบ้านกัน และเชื่อว่า ประชาชนคนไทย ยอมรับว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นภัยคุกคามพวกเราจริงๆ หากรัฐบาลไม่ปราบปรามอย่างเข้มข้นและจริงจัง คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชนชาวไทย ซึ่งรัฐบาลเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย