ผู้ว่าฯ กทม.สั่งเข้ม 5 ข้อ โรงเรียนต้องปลอดบุหรี่ไฟฟ้า

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” สั่งเข้ม 5 ข้อ โรงเรียน กทม. ต้องปลอดบุหรี่ไฟฟ้า


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เราเน้นการป้องกันไม่ให้เกี่ยวข้องกับบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าผิดกฎหมาย ห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรและห้ามจำหน่าย แต่ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ากลับมีเป้าหมายสร้างฐานลูกค้าที่เป็นเด็กและเยาวชน เพื่อให้เกิดการเสพติดในระยะยาว ทั้งยังมีการผลิตในรูปแบบลักษณะคล้ายของเล่น (Toy Pod) ตุ๊กตา รวมถึงมีการใส่กลิ่นต่างๆ เพื่อจูงใจให้สูบ และสร้างการรับรู้ที่ผิดให้แก่เด็กและเยาวชน ตลอดจนทำให้ผู้ปกครองเข้าใจผิดคิดว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตราย ซึ่งในความจริงแล้วการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ผู้สูบเกิดการเสพติดนิโคติน หรืออาจมีปอดอักเสบเฉียบพลัน เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังอื่นๆ สร้างปัญหาทางสุขภาพและมีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

กรุงเทพมหานครมีผู้สูบบุหรี่ จำนวน 1,232,467 คน คิดเป็นร้อยละ 16.1 มีการสูบบุหรี่ประมาณ 10 มวนต่อวัน และนักสูบหน้าใหม่มีอายุเฉลี่ยที่ 18.5 ปี โดยปัจจุบันได้ระบาดลงมาถึงเด็กชั้นประถม อายุแค่ประมาณ 6 ขวบก็มีการสูบแล้ว จึงต้องขอความร่วมมือคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง คุณครู ติดตามข่าวสารให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนให้รู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย ให้ร่วมมือกันกวาดล้างการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ทั่วไป


ในการนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 31 พ.ค. 67 เรื่องแนวทางปฏิบัติ เพื่อการป้องกันและควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เนื่องจากปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขและร่วมมือกันเฝ้าระวังไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่การเป็นนักสูบหน้าใหม่ และเพื่อป้องกันควบคุมไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบมีการแพร่หลายในโรงเรียน โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้

1.ให้โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ “ปลอดบุหรี่ไฟฟ้า” โดยให้มีการติด/แสดงข้อความหรือสัญลักษณ์ปลอดบุหรี่ไฟฟ้าบริเวณทางเข้า-ออก และภายในบริเวณโรงเรียน พร้อมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่องทางที่หลากหลาย

    2.ให้โรงเรียนตรวจกระเป๋านักเรียน ตรวจตราบริเวณอาคารสถานที่ภายในโรงเรียนเป็นประจำ เพื่อเป็นการป้องกันการนำบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในโรงเรียน


    3.ให้สำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องตรวจตราไม่ให้มีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าบริเวณรอบโรงเรียน ชุมชน และแหล่งต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานเขต โดยจัดเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมกันระหว่างฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ฝ่ายเทศกิจ ฝ่ายการศึกษา

    4.ให้โรงเรียนจัดทำ Dropbox สำหรับใส่บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเมื่อตรวจพบการนำบุหรี่ไฟฟ้า เข้ามาในโรงเรียน ให้ริบใส่ไว้ใน Dropbox และจัดทำข้อมูลทะเบียนบุหรี่ไฟฟ้า ดังกล่าว พร้อมแจ้งสำนักงานเขตเพื่อประสานดำเนินการต่อไป

    5.ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขให้ความรู้ ให้คำปรึกษา และตรวจเยี่ยมโรงเรียน ในกรณีที่มีเด็กและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า หรือสิ่งเสพติดอื่นใด ให้ดำเนินการโดยใช้กระบวนการปรับพฤติกรรมหรือนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

    ดูข่าวเพิ่มเติม

    Top Viewed • อ่านมากสุด

    ดูทั้งหมด

    ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

    13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

    เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

    นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

    แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

    กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

    “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

    ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

    ข่าวแนะนำ

    ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

    กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

    “อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

    อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

    จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

    กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

    นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

    ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]