fbpx

แม่ลูกขับรถไปขายปลาทูต่างอำเภอ รถชนต้นไม้ดับทั้งคู่ 

บุรีรัมย์ 22 มี.ค.- ลูกชายขับรถพาแม่ไปขายปลาทูต่างอำเภอ แต่เกิดเสียหลักพุ่งอัดต้นไม้ข้างทาง เสียชีวิตทั้งคู่ เบื้องต้นคาดลูกชายที่เป็นคนขับหลับใน เพราะต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน 


เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง งัดร่างนายปัญญาสิทธ์  อายุ 31 ปี  คนขับเสียชีวิตติดคาซากรถสี่ล้อใหญ่แบบตู้ทึบ สภาพชนอัดกับต้นไม้ข้างทาง ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จึงนำร่างออกมาได้  ข้างตัวรถพบศพนางปริญญา อายุ 57 ปี ในสภาพศีรษะยุบ เนื่องจากกระเด็นออกจากตัวรถ เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ที่ผ่านมา (22 มี.ค.)  บนถนนสายประโคนชัย-นางรอง ก่อนถึงแยกตะโก ประมาณ 2 กม. อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์   

ที่เกิดเหตุยังพบเงินสดและเหรียญกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น ต้นไม้หักขาดครึ่งทะลุกระจกด้านหน้า  จึงสันนิษฐานว่าคนขับอาจหลับใน จนทำให้รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางรถพังเสียหายและเป็นเหตุให้ทั้งสองแม่ลูกเสียชีวิต 


ด้านหลานผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เล่าว่าสองแม่ลูกเดินทางมาจากตัวเมืองบุรีรัมย์ จะไปขายปลาทูที่ตลาดสดนางรอง ซึ่งปกติทุกวันจะไปถึงตลาดประมาณตี 2 แต่เมื่อคืนไม่เห็นมาถึงตลาดสักที จึงโทรเข้าเบอร์ของนายปัญญาสิทธิ์ แทบช็อกเพราะคนที่รับสายเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย แล้วบอกว่ารถประสบอุบัติเหตุและทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนตัวคิดว่าน้องน่าจะหลับใน เพราะพักผ่อนไม่เต็มที่ เนื่องจากตอนกลางวันก็ขายกาแฟ กลางคืนมาขับรถให้แม่อีก เพราะคนขับรถประจำถูกกักตัวโควิด-19 สงสารมากเพราะน้องเพิ่งจะมีลูกอายุยังไม่ถึงขวบ

เบื้องต้นตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เข้าตรวจที่เกิดเหตุ และให้หน่วยกู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองคน ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ  ก่อนจะมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประพิธีทางศาสนาต่อไป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME