ศาลไม่ให้ประกัน คดีพี่สาวจ้างวานฆ่าน้องชายเอาเงินประกัน

เพชรบูรณ์ 21 ส.ค.- ศาลจังหวัดหล่มสัก ไม่ให้ประกันพี่สาววางแผนฆ่าน้องชาย หลังสุดทนพฤติกรรม  “ฮุบที่ดินทำนา – เสพยาเสพติด – ลวนลามลูกสาว”  จึงซื้อประกันชีวิตให้ ก่อนวานหลานจ้างมือปืนที่รู้จักกันในคุกก่อเหตุฆ่าหมกป่า ในอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์  


ความคืบหน้าในคดีพี่สาววางแผนฆ่าน้องชายหลังสุดทนพฤติกรรม “ฮุบที่ดินทำนา – เสพยาเสพติด –  ลวนลามลูกสาว โดยตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้ยกแก็งคือ น.ส.ศรัญญา จงธรรม์ อายุ 52 ปี พี่สาว, นายประมวล เพ็งดำเนิน อายุ 46 ปี หลานชาย (ผู้ติดต่อหามือปืน) และนายอำคา อินจันทร์ อายุ 52 ปี (มือปืน) ผู้ต้องหาในคดีฆ่าและจ้างวานฆ่านายเชาว์ จงธรรม์ อายุ 51 ปี เสียชีวิตบริเวณป่าสัก ใกล้กับทุ่งนาในพื้นที่ ต.ปากช่อง อ.หล่มสักจ.เพชรบูรณ์ เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นสอบสวนนายประมวล และนายอำคา อินจันทร์ ให้การรับสารภาพ ส่วน น.ส.ศรัญญา ยังให้การปฏิเสธ แต่เมื่อตำรวจสอบเพิ่มเติมในภายหลังก็ยอมรับสารภาพในที่สุดว่า น้องชายมีพฤติกรรมไม่ดีหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการฮุบที่ดิน พัวพันยาเสพติด    และที่ทนไม่ได้คือ พยายามที่จะล่วงเกินลูกสาว จึงปรึกษากับหลานชายให้หาคนมาจัดการกับน้องชาย    

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บ้านกลาง อ.หล่มสัก ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปขออำนาจศาลจังหวัดหล่มสัก ฝากขังผัดแรกในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเป็นผู้ใช้จ้างวาน (ศรัญญา+ประมวล) โดยนายอำคาความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยขยายผลฆ่าเอาประกัน โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจของสังคม หากให้ประกันตัวเกรงว่าจะหลบหนี ล่าสุดไม่มีญาติมายื่นประกันตัว ผู้ต้องหาทั้ง 3 จึงส่งตัวไปควบคุมต่อที่เรือนจำหล่มสักต่อไป  


ย้อนดูคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 29 กรกฎาคม ตำรวจพบศพ นายเชาวน์ ถูกยิงเสียชีวิตคารถกระบะในป่าห่างจากกระต๊อบที่พักไม่ไกลมากนัก จากการสืบสวน พบว่าก่อนหน้านี้นายเชาว์ มีภรรยาอยู่ที่ ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก ต่อมาได้แยกทางกับภรรยา กลับมาอยู่ที่บ้าน หมู่ 17 ต.ปากช่อง โดยปลูกกระต๊อบอยู่ในทุ่งนา ใกล้ๆ บ้านพ่อและพี่สาว ซึ่งก่อนที่นายเชาว์จะกลับมาอยู่บ้าน พ่อซึ่งมีลูก 3 คน รวมทั้งผู้ตายได้ยกที่นาให้ลูกๆ แบ่งกันทำ โดยเปลี่ยนกันทำปีเว้นปี แต่เมื่อนายเชาว์ย้ายกลับมาอยู่ ก็ถือวิสาสะทำนาโดยไม่รอตามคิว อีกทั้งยังมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คุกคามทางเพศหลานสาว ซึ่งเป็นลูกสาว น.ส.ศรัญญา (ผู้ต้องหาคนที่1) ทำให้ทนพฤติกรรม นายเชาว์ น้องชายไม่ได้จึงไปหารือกับนายประมวล หลานชาย กำจัดนายเชาว์ นายประมวลจึงไปติดต่อกับนายอำคา (มือปืน) ในราคา 50,000 บาท แต่ก่อนลงมือฆ่า น.ส.ศรัญญา พี่สาวได้ทำประกันชีวิตในหมู่บ้านให้นายเชาว์ถึง ฉบับรวมวงเงิน 200,000 บาท โดยผู้เอาประกันคือ น.ส.ศรัญญา ทำให้ตำรวจพุ่งปมปัญหาไปที่ปัญหาขัดแย้งในครอบครัว   

จากคำให้การรับสารภาพของนายอำคา ตำรวจจึงได้นำตัวไปชี้จุดทำแผน ประกอบสำนวนคดี ตั้งแต่จุดที่ นายอำคา มือปืน  ซ้อนท้ายจยย. ของประมวลไป ซุ่มรออยู่ที่ป่ากล้วย หลังห้างนา แต่ไม่เจอตัวนายเชาว์ จึงเปลี่ยนไปรอที่จุดจอดรถ เมื่อเห็นนายเชาว์ขับรถยนต์มาและกำลังจะจอดรถ นายอำคาได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้น จ่อยิงนายเชาว์ จนรถเสียหลัก ไหลไปชนอยู่กับต้นไม้ ก่อนยิงซ้ำอีก 1 นัดตายคาที่ จากนั้นหลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่เพิงพักในป่าข้าวโพด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ ซึ่งในชั้นนี้ตัวการสำคัญ ยังมีแค่ 3 คนเท่านั้นที่วางแผนรู้เห็นและก่อเหตุจนสำเร็จ   

สำหรับนายประมวล ผู้ติดต่อมือปืน เคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ ถูกกักขังในเรือนจำจังหวัดเพชรบูรณ์  และได้รู้จักนายอำคา โดยนายอำคาถูกจำคุกคดีปล้นทรัพย์ เมื่อปี 53 ศาลตัดสินจำคุก 10 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนกันยายน 63 ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ