30 มี.ค. – “วราวุธ” ขออภัยชาวเชียงใหม่ เหตุไฟไหม้ดอยสะเมิง ยืนยันเจ้าหน้าที่ควบคุมได้แล้ว พร้อมจัดกำลังพลรองรับสถานการณ์ ชี้ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ผลจากไฟป่าส่งผลค่าฝุ่น PM 2.5 ภาคเหนือพุ่งเกินจุดวิกฤติ เชียงใหม่อากาศแย่ติดอันดับ 3 ของโลก
กรณีไฟไหม้ป่าในพื้นที่ ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ลุกลามเป็นวงกว้าง กินพื้นที่ภูเขาถึง 3 ลูก แนวไฟมีตั้งแต่ 300 เมตร จนถึง 1 กิโลเมตร จนต้องเสริมกำลังเจ้าหน้าที่อีก 120 นาย เข้าไปช่วยดับไฟ และเฮลิคอปเตอร์อีก 3 ลำ เพื่อบินทิ้งน้ำดับไฟ ควบคุมเพลิงให้ได้ในวันนี้ ส่งผลทำให้หมอกควันไปป่าปกคลุมมทั่ว จ.เชียงใหม่ ทำให้ค่ามลพิษเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เช่นที่ ต.ช้างเผือก ต.ศรีภูมิ ต.สุเทพ อยู่ระหว่าง 73-80 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ขณะที่บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ค่า PM 2.5 สูงถึง 96 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนตามอำเภอรอบนอก ค่ามลพิษสูงหลายเท่า พื้นที่ ต.ช้างคลาน 111 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รายงานค่า PM 2.5 บริเวณบ้านหัวโท อ.เชียงดาว สูงถึง 415 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร สูงถึง 8 เท่า ของค่ามาตรฐาน ที่น้ำพุร้อนสันกำแพง สูง 327 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร พื้นที่โรงเรียนบ้านห้วยจะค่าน อ.เชียงดาว 375 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนบริเวณโรงพยาบาลสะเมิง 125 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และเครื่องตรวจวัดที่ติดตั้งไว้ตามโรงพยาบาลและสถานที่ต่างๆ กว่า 30 แห่ง ค่า PM2.5 สูงเกินจุดวิกฤติทั้งหมด มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ด้านเว็บไซต์ Air Visual รายงานจังหวัดเชียงใหม่ มีคุณภาพอากาศแย่ติดอันดับ 3 ของโลก
ขณะที่นายรัฐพล นราดิสร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าอำนวยการดับไฟป่าที่ลุกไหม้บนภูเขาสูง พื้นที่บ้านศาลา-ป่ากล้วย ต.สะเมิงใต้ ที่ปะทุลุกไหม้ยาวนานข้ามวันข้ามคืน ความยากของการดับไฟของชุดเดินเท้าอยู่ที่เป็นหน้าผา เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับอาสาสมัครดับไฟป่าชาวบ้านชุมชนกว่า 200 นาย พร้อมทั้งใช้เฮลิคอปเตอร์จาก ปภ. กระทรวงทรัพฯ และกรมฝนหลวงฯ รวมถึงอากาศยาน BT-67 ของกองทัพอากาศ บินสนับสนุนทิ้งน้ำและโปรยน้ำในจุดที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความชุ่มชื้น และเป็นแนวกันไฟ ก่อนส่งหน่วยปฏิบัติเดินเท้าเข้าไปตรวจสอบจุดเผาไหม้ และเข้าดับไฟให้สนิท
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่า เหตุไฟป่าในพื้นที่สะเมิง ได้รับรายงานว่าสามารถควบคุมและดับไฟได้แล้ว พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง การเข้าไปดับไฟจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงใช้วิธีไฟดับไฟ โดยการจุดเป็นแนวกันไฟขึ้นมา และใช้ไฟไล่ไฟ ภาพที่ออกมาจึงทำให้ดูว่าปริมาณเพลิงสูง พร้อมย้ำโอกาสที่จะเกิดไฟป่าโดยธรรมชาติในไทยมีไม่ถึง 1% ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์ อาจคิดว่าเผาเพียงเล็กน้อย แต่ก็ลามไปจนเกิดเหตุอย่างที่เห็น ซึ่งได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วน และประชาชน รณรงค์เก็บเชื้อเพลิงต่างๆ ในโครงการชิงเก็บก่อนเผา พร้อมขอโทษชาวเชียงใหม่ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ได้จัดกำลังพลรองรับสถานการณ์ตามเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. พบมีค่าฝุ่น PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน สูงสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 259 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 122 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อ.เมือง จ.เชียงราย 117 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 94 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร. – สำนักข่าวไทย