บึงกาฬ 5 ก.พ. – แพทย์เตือนกินดิบ เสี่ยงพยาธิ แนะปรุงสุก ตัวอ่อนของพยาธิเป็นเหมือนเม็ดสาคู อยู่ในกล้ามเนื้อหมู เนื้อวัว เมื่อกินเข้าไปถึงลำไส้จะแตกออกมาเป็นตัวพยาธิ เกาะอยู่ผนังลำไส้ ค่อยต่อปล้องออกมายาวได้หลายเมตร
ความคืบหน้ากรณีคณะแพทย์ทีมศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลบึงกาฬ ผ่าตัดผู้ป่วยชาย อายุ 79 ปี เพื่อทำการผ่าตัดนำนิ่วออกมา แต่พบว่ามีพยาธิขดตัวอยู่ในถุงน้ำดีด้วย หลังผ่าตัดพยาธิตัวตืดเลื้อยออกมาด้วย ยาวกว่า 2 เมตร
ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์นางสนาม สุพรรณ อายุ 49 ปี ลูกสาวผู้ป่วยบอกว่า พ่อเป็นคนชอบกินดิบ อย่างลาบวัว ก้อยดิบ ลาบปลา กินมาตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่ม ก่อนจะมาหาหมอมีอาการเจ็บท้อง ลักษณะมันดิ้น มันไต่ ยุบยับๆ ได้ อยากเตือนชาวบ้านว่าอย่ากินสุกๆ ดิบๆ เป็นอันตรายต่อตัวเอง พ่อก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร หลังผ่าตัดจึงรู้ว่ามีพญาธิตัวตืดอยู่ในถุงน้ำดีด้วย พอรู้ข่าวก็กลัวและตกใจ ต่อไปจะควบคุมการกินของพ่อไม่ให้กินดิบๆ หรือกินเนื้ออีกต่อไป
นพ.กมล แซ่ปึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงกาฬ กล่าวว่า เคสแบบนี้ไม่ถือว่าบ่อยมาก แต่คิดว่าคนไข้ในบ้านเราที่มีพญาธิตัวตืดในร่างกายมีเยอะมาก เพราะพฤติกรรมการบริโภคของคนอีสาน โดยเฉพาะใน จ.บึงกาฬ ยังมีการบริโภคเนื้อหมู เนื้อวัวที่ไม่สุก ตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้เป็นเหมือนเม็ดสาคู อยู่ในกล้ามเนื้อหมู เนื้อวัว เมื่อกินเข้าไปถึงลำไส้ก็จะแตกออกมาเป็นตัวพยาธิ และมันก็จะเกาะอยู่ผนังลำไส้ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในลำไส้เล็ก พอมีหนึ่งตัวมันก็จะค่อยต่อปล้องออกมาเรื่อยๆ ยาวได้หลายเมตร ถ้าตัวตืดวัวก็จะตัวใหญ่กว่ายาวกว่า จากสถิติที่พบมียาวถึง 5-10 เมตร ตืดหมูก็ยาว 2-4 เมตร 5 เมตร พอมันแก่ ก็สามารถหลุดออกมาพร้อมอุจจาระได้ โดยเฉพาะเด็ก นั่งเล่นอยู่ ออกมาทางทวารหนักก็มี
ทั้งนี้ เมื่อพยาธิเข้าไปในถุงท่อดี ทำให้การไหลเวียนของท่อน้ำดีไหลไม่สะดวก มีโอกาสทำให้เกิดการอักเสบในท่อน้ำดีได้เช่นกัน เหมือนคนไข้รายนี้ บางทีคนไข้อาจขย้อนหรืออาเจียน ไข่พยาธิอาจขึ้นไปที่กระเพาะอาหาร และแตกออกมาไชเข้าไปที่กระแสเลือด แล้วก็ไปที่สมอง ทำให้สมองผิดปกติได้ เช่น เกิดอาการชักเกร็ง หรืออาจไปอยู่ที่อวัยวะอื่นๆ ก็ได้ แต่จะไม่รุนแรงเท่าอยู่ในสมอง สำหรับการป้องกันพยาธิง่ายมาก แค่ไม่กินเนื้อหมูหรือเนื้อวัวดิบ ปรุงให้สุกพยาธิก็ตาย . – สำนักข่าวไทย