กรมอนามัย เตือนกินตับสด ไม่สุก เสี่ยงติดเชื้อ-พยาธิ-ไข้หูดับ

​กทม. 3 ก.ค.-กรมอนามัย เตือนกินตับสดไม่สะอาด เสี่ยงติดเชื้อ และเกิดพยาธิต่างๆ หากเป็นตับหมู อาจเสี่ยงรับเชื้อแบคทีเรีย แนะทุกเมนูควรปรุงด้วยความร้อนให้สุกทั่วถึง ด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาฯ ขึ้นไป เป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาที ปลอดภัยกว่าและไม่เสี่ยงโรค


​นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอคลิปสาวรีวิวเปิบพิสดารซอยจุ๊กินตับวัวทั้งก้อน กัดกันสด ๆ นั้น เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเลียนแบบเพราะมีความเสี่ยงการติดเชื้อและเกิดพยาธิชนิดต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะหากเป็นตับหมูดิบที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุกมาก่อน หรือแบบสุก ๆ ดิบ ๆ จะทำให้เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) หรือโรคไข้หูดับ ซึ่งหากได้รับเชื้อชนิดนี้จะทำให้มีอาการมีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายแสดงอาการไข้ร่วมกับมีผื่น อุจจาระร่วง บางรายติดเชื้อที่เยื่อหุ้มหัวใจ เยื่อหุ้มสมอง รวมถึงอาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ขอแนะนำให้เลือกกินเมนูแบบปรุงสุกปลอดภัยกว่า และไม่เสี่ยงโรคด้วย

​“ทั้งนี้ ขอย้ำทุกเมนูอาหารที่ปรุงด้วยตับ ทั้งตับวัว ตับหมู และตับไก่ รวมทั้งอาหารทุกอย่างที่เป็นเนื้อสัตว์ ให้ปลอดภัยนั้น ควรผ่านการปรุงให้สุกโดยใช้ความร้อนให้อาหารสุกอย่างทั่วถึงด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 นาที ไม่ควรหยิบจับด้วยมือเพราะอาจทำให้เสี่ยงปนเปื้อน เชื้อโรคจากมือที่ไม่สะอาด แนะนำให้ใช้ช้อน ส้อม หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในการหยิบจับแทน เพื่อสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้ ในส่วนการทำน้ำจิ้มควรล้างพริก รากผักชี และกระเทียมให้สะอาดก่อนนำมาปรุงประกอบ เมื่อทำเสร็จแล้วหากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี อาจทำให้ท้องร่วงได้ ดังนั้น หลังจากปรุงน้ำจิ้มเสร็จแล้วแต่ยังไม่กินทันที ให้เก็บไว้ในตู้เย็นหรือตู้แช่ที่มีอุณหภูมิประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส และควรใช้ภาชนะสะอาดใส่น้ำจิ้ม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค พร้อมทั้งให้สังเกตสี กลิ่น และรสชาติ หากพบความผิดปกติไม่ควรกิน เพราะอาจทำให้เกิดโรคท้องร่วงได้” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง