fbpx

งัดเก๋งช่วย 3 ชีวิตติดคาซาก หลังชนรถบรรทุก 18 ล้อ

ภูมิภาค 16 ส.ค. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ 3 ชีวิต ติดคาซากรถเก๋ง หลังขับชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บนถนนบางบัวทอง-บางปะอิน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี


เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างพยายามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเป็นสาวทอม ซึ่งเป็นคนขับ และผู้หญิงอีก 1 คน เป็นผู้โดยสารนั่งข้าง ทั้ง 2 คน อายุประมาณ 30-35 ปี บาดเจ็บสาหัส และเด็กชายวัย 8 ปี ทั้งหมดรวม 3 คน ที่ติดอยู่ในซากรถเก๋ง สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ภล 3736 กทม หลังจากรถคันดังกล่าวขับพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือนำตัวทั้ง 3 คน ออกมาได้ และนำส่งโรงพยาบาลบางบัวทอง เหตุเกิดหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนทางหลวงหมายเลข 9 ขาออก (บางบัวทอง-บางปะอิน) ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง ในพื้นที่ของ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

นายมงคล หอยมณี อายุ 43 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ กล่าวว่า รถของตนยางล้อหน้าด้านขวาแตก จึงได้จอดเปลี่ยนยาง โดยมีรถบรรทุกพ่วงอีกคันจอดปิดท้ายไว้ ต่อมามีรถกระบะแบบตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน บธ 5040 ปทุมธานี เสียหลักมาเฉี่ยวชนท้ายรถบรรทุกที่จอดปิดท้าย หลังเกิดเหตุได้เพียงไม่ถึง 5 นาที รถเก๋งที่ขับมาด้วยความเร็วได้พุ่งชนท้ายรถพ่วงซ้ำอีกครั้งอย่างเต็มแรง จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เบื้องต้นได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบปากคำผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คัน รวมถึงคนขับรถกระบะ โดยสันนิษฐานว่า รถเก๋งน่าจะไม่เห็น หรือไม่ทันสังเกตรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่จอดอยู่เลนขวาสุด ประกอบกับจุดเกิดเหตุมีความมืด อีกทั้งไม่มีการทำสัญลักษณ์บ่งบอกว่ามีรถจอดเสียอยู่ จึงเป็นสาเหตุให้รถเก๋งและรถกระบะพุ่งชน จนมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะสอบปากคำผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ พร้อมแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

2 พ่อลูกขับเก๋งเสียหลักชนกระบะตายทั้งคู่

เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.กมล คิดอ่าน สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถชน บริเวณถนนลำปาง-เมืองปาน เลยปากทางเข้าหมู่บ้านฮ่องกอก ประมาณ 50 เมตร ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง จึงประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย เร่งให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งยังคงมีฝนตกโปรยปรายลงมาตลอดเวลา พบรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บร 3348 ลำปาง จอดขวางกลางถนนไป 1 เลน สภาพด้านหน้าพังเสียหายทั้งห้องเครื่อง ยางล้อหน้าแตก มีผู้บาดเจ็บภายในรถ จำนวน 4 คน เป็นผู้ใหญ่ 2 คน และเด็ก 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ใกล้กันพบรถเก๋ง สีขาว หมายเลขทะเบียน 7 กค 1989 กรุงเทพมหานคร พุ่งตกลงไปในพงหญ้าข้างทาง สภาพรถพังยับทั้งคัน พบป้ายทะเบียนหลุดตกกลางถนน และเศษชิ้นส่วนรถตกเกลื่อนกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ โดยมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถ 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้เครื่องตัดถ่างงัดประตูรถ และนำร่างทั้ง 2 ราย ออกมาจากรถ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก


จากการสอบถามทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นพ่อและลูก ราษฎรในพื้นที่ ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง ก่อนเกิดเหตุพ่อได้ขับรถไปรับลูกที่ไปเรียนว่ายน้ำ และกำลังจะขับรถกลับบ้าน ส่วนรถกระบะอีกคันมุ่งหน้ามาจากทาง อ.เมืองปาน เพื่อเข้าไปยังตัวเมืองลำปาง ซึ่งขณะนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถเก๋งเสียหลักหมุนคว้างกลางถนน ก่อนจะพุ่งข้ามเลนไปชนกับรถกระบะที่สวนทางมา จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิตทั้ง 2 รายดังกล่าว โดยในที่เกิดเหตุ ภรรยาและญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งมาดูเหตุการณ์ ต่างร้องไห้ระงมด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อย่างละเอียดต่อไป

ต้นโพธิ์ยักษ์ทับรถกระบะพังราบ

ส่วนที่ จ.ลำปาง หลังจากที่มีฝนตกติดต่อกัน 2 วัน ในพื้นที่ จ.ลำปาง ทำให้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ อายุร่วม 200 ปี ขนาด 3-4 คนโอบ หักทับรถกระบะเสียหาย 1 คัน เสาไฟฟ้าหักโค่น 1 ต้น เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณศาลเจ้าปู่ ประจำชุมชนบ้านดงชัย ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 ส.ค.) โดยกิ่งต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ซึ่งสูงกว่า 10 เมตร หักร่วงลงมาทับรถกระบะนิสสัน สีทอง บริเวณกระจกหน้ารถ ทำให้กระจกแตก และฝากระโปรงรถยุบเสียหาย นอกจากนี้ กิ่งต้นโพธิ์ที่หักลงมายังฟาดทับสายไฟฟ้าและสายเคเบิล ดึงเสาไฟฟ้าหักอีก 1 ต้น ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในรถ

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ทราบว่า บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นลานกว้างพอสมควร ปกติจะมีชาวบ้านนำรถยนต์มาจอดประจำ 3 คัน แต่ในวันดังกล่าวมีจอดเพียงคันเดียว เนื่องจากมีฝนตกตลอดทั้งวัน ส่วนรถคันที่ประสบเหตุ เจ้าของรถได้จอดตามปกติและไปทำธุระต่างอำเภอ โดยช่วงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนกิ่งไม้ลั่นหลายครั้ง จนกระทั่งช่วงเย็นก็หักร่วงลงมาทับรถยนต์คันดังกล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย