บุรีรัมย์ 17 พ.ค.-อย่างโหด แก๊งทวงหนี้รายวัน บุกทำร้ายร่างกายคุณลุงวัย 57 ปี จนฟันหัก 5 ซี่ แถมบุกรุกเข้าไปในบ้านยึดทรัพย์สิน พร้อมทั้งขู่จะเอาชีวิต คุณลุง ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะกู้ยืมเงินเพียง 5000 บาท แถมยังส่งเบี้ยคืนทุกวัน
นายสำเริง ชาวบ้านในชุมชนหนองกราด จ.บุรีรัมย์ ชี้ให้ดูจุดเกิดเหตุ หลังจากที่ เมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ถูกแก๊งทวงหนี้เงินกู้รายวันบุกทำร้ายถึงบ้านพัก จนฟันหัก 5 ซี่ และมีบาดแผลตามร่างกาย บอบช้ำหลายจุด จนต้องเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล
นายสำเริง เล่าว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างรีดเสื้อผ้า และรับจ้างทั่วไป กระทั่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนไม่มีงานทำ ประกอบกับโทรศัพท์มือถือหน้าจอแตก จึงตัดสินใจไปกู้เงินรายวัน ซึ่งเพิ่งจะกู้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พ.ค.67 เป็น จำนวน 5,000 บาท เพื่อเอาเงินไปซ่อมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งต้องส่งชำระเงินคืนวันละ 250 บาท รวม 24 วัน และที่ผ่านมาตนเองก็ส่งเงินกู้ชำระ โดยฝากไว้ที่เพื่อนบ้าน เป็นผู้ส่งต่อให้กับแก๊งนี้มาตลอดไม่เคยค้าง
แต่เมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค. ช่วงประมาณ 2 ทุ่ม กลับมีแก๊งเงินกู้ 4 คน ขับรถกระบะมาหาที่บ้าน โดย 2 คนได้ตรงเข้ามาใช้กำลังชกต่อย และฉุดกระชากบังคับขึ้นรถ แต่ตนเองหนีมาได้ ในสภาพร่างกายที่บอบช้ำ ฟันหัก 5 ซี่ และแก๊งทวงนี้กลุ่มนี้ยังได้บุกเข้าไปในบ้าน เข้าไปเอาทีวี และโทรศัพทืมือถือของตนไปด้วย ซึ่งสงสัยว่าเขามาทำร้ายร่างกายตนเองเพราะอะไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หวาดกลัว จึงได้เข้าแจ้งความกับ จนท.ตร.ไว้แล้ว ที่ สภ.นางรอง และเข้าร้องสื่อมวลชน เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ล่าสุด ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ ที่ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง อีกครั้ง เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ปลอดภัย โดยภายหลังการเข้าร้องต่อเจ้าหน้าที่ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้ ส่ง จนท. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทันที เบื้องต้น พบว่า แก๊งนี้ มีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายคุณลุงจริง เข้าข่ายความผิด 1.พ.ร.บ.เงินกู้ / พ.ร.บ.ทวงหนี้ 2.ทำร้ายร่างกาย 3.ปล้นทรัพย์ เนื่องจากมีผู้ก่อเหตุเกินกว่า 3 คนเข้าไปเอาทรัพย์สินในที่พักอาศัย 4.ข่มขู่ และ 5.บุกรุก ซึ่งจะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวมาดำเนินการทางกฎหมายต่อไป โดยเบื้องต้น จนท.รู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว เตรียมเรียกมาสอบปากคำ และรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป.-สำนักข่าวไทย