รัฐสภา 31 ก.ค.-“วิโรจน์” ชี้ต้องหาคำตอบอวัยวะ “น้องเมย” หายไปไหน ใครต้องรับผิดชอบ มองบทลงโทษศาลทหาร 4 เดือน 16 วัน เป็นคดีทำร้ายร่างกาย และอีกฐานความผิดที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลุดหายไปในขั้นตอนไหนหรือไม่มีตั้งแต่แรก
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องเมย นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นตท. ชั้นปีที่ 1 ว่าได้เชิญผู้แทนจากโรงพยาบาลพระมงกุฏฯมาสอบถามถึงหลักฐานด้านิติวิทยาศาสตร์ ที่มีการเรียกขออวัยวะภายในคืน แต่กลับพบว่า ดีเอ็นเอ ไม่ตรงกับน้องเมย ซึ่งอาจมีการแจ้งความดำเนินคดี จึงต้องมีการตรวจสอบในวันนี้ ว่าคดีนี้ไปอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว นอกจากนี้จะมีการสอบถามข้อเท็จจริงถึงคำพิพากษาของศาลทหาร ถึงการจำคุกเพียง 4 เดือน 16 วัน น่าจะเป็นการสั่งฟ้องกรณีทำร้ายร่างกายเท่านั้น ส่วนการกระทำการโดยประมาท จนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อาจจะสั่งไม่ฟ้อง จึงทำให้คำพิพากษามีเฉพาะคดีการทำร้ายร่างกายเท่านั้นหรือไม่ จึงต้องตรวจสอบว่ากระบวนการยุติธรรมเกิดอะไรขึ้น
นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า ในกรณีอวัยวะหายต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น ซึ่งต้องใช้การตรวจสอบ ทั้งนิติเวชและนิติวิทยาศาสตร์ ว่าหายจริงหรือไม่ และทางครอบครัวได้ตั้งคำถามว่า นำอวัยวะไปแล้วได้ประโยชน์อะไร ซึ่งตนมองว่าประโยชน์ก็เพื่อความยุติธรรม เพราะต้องพิสูจน์ในชั้นศาล และอวัยวะหลายรายการจะพิสูจน์ได้ว่า น้องเมยเสียชีวิตอย่างไร แต่เมื่อหลักฐานสูญหาย ก็ทำให้ความยุติธรรมของศาลทหารได้รับการกระทบกระเทือน และถูกวิจารณ์เป็นวงกว้าง พร้อมยืนยันว่าอวัยวะของน้องเมยมีผลต่อทางคดีเป็นอย่างมาก
ส่วนคนที่จะรับผิดชอบหากอวัยวะหายจริงนั้น ตนคิดว่าวันนี้จะต้องมาหาคำตอบว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งตำรวจที่เป็นเจ้าของสำนวนและ โรงพยาบาลพระมงกุฏที่เป็นผู้รับผิดชอบ กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีคำถามว่าหายจริงหรือไม่ แล้วทำไมถึงส่งอวัยวะที่ไม่ใช่ดีเอ็นเอของน้องเมยกลับไปให้ครอบครัว แล้วกระบวนการเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะเรื่องนี้พลาดไม่ได้ เราเชื่อว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่างโรงพยาบาลพระมงกุฏไม่น่าจะพลาดเรื่องแบบนี้
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนบทลงโทษ 4 เดือน 16 วัน ที่สังคมสงสัย เป็นคำพิพากษาชั้นฎีกาความผิดฐานใด และความผิดฐานกระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลุดออกจากสารบบไปในขั้นตอนไหน หรือไม่มีตั้งแต่แรก นี่คือปัญหาของพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ตามมาตรา 49 ที่ระบุให้อัยการของศาลทหารมีอำนาจ ในการฟ้องหรือไม่ฟ้องเท่านั้น ดังนั้นแม่น้องเมยจึงฟ้องเองไม่ได้ นี่คือข้อจำกัดของ พ.ร.บ.ฉบับนี้.-315.-สำนักข่าวไทย