เชียงใหม่ 29 พ.ย.- นายกสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ เห็นด้วยเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 แต่เชียงใหม่ควรจัดโซนนิ่งก่อน
เสียงสะท้อนของร้านอาหารและสถานบันเทิง ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องให้สถานบริการสามารถเปิดได้ถึงตี 4 โดยนายกสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ เห็นด้วยที่เปิดถึงตี 4 แต่วอนรัฐควรจัดโซนนิ่งในเชียงใหม่ก่อน และลดเงื่อนไขสถานประกอบการที่คล้ายสถานบันเทิงให้เปิดได้นานขึ้น เพื่อขยายการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหนึ่งในเสียงสะท้อง อย่างนายธนิต ชุมแสง นายกสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ บอกว่า เห็นด้วยที่จะให้เปิดถึงตี 4 แต่เกรงว่าในเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันมีร้านที่มีใบอนุญาตเปิดเป็นสถานบริการถูกกฎหมาย เพียง 27 แห่ง และที่เปิดบริการจริงๆ มีไม่ถึง 10 แห่ง และแต่ละแห่งก็อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จึงมองว่าอาจไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่รัฐบาลตั้งใจ ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่าคือต้องจัดโซนนิ่งเพราะจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีการจัดโซนนิ่งเหมือนกับพื้นที่นำร่องอย่างจังหวัดอื่น เช่น กรุงเทพฯ มีถนนข้าวสาร ชลบุรี พัทยา มีวอคกิ้งสตรีท และภูเก็ตมีถนนบางลา เป็นต้น โดยมองว่าเชียงใหม่น่าจะจัดโซนนิ่งให้อยู่ที่ไนท์บาร์ซาร์เลย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนที่อยู่ในตัวเมืองอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้กระทบกับวิถีชุมชน ซึ่งเดิมพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้จะเป็นโซนที่ใกล้กับหมู่บ้านและชุมชน หากไม่แก้ไขโซนใหม่แล้วอนุญาตให้เปิดถึงตี 4 อาจมีผลกระทบมากกว่าการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับร้านอาหารต่าง ๆ อยากให้กระทรวงมหาดไทย ลดเงื่อนไขของสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการที่ไม่ได้อยู่ในโซนพื้นที่โซนนิ่งและอยากเข้าร่วม ให้สามารถมาจดเป็นสถานบริการได้อย่างถูกกฎหมาย และสามารถขยายเวลาเปิดปิดได้อย่างน้อยก็ประมาณเวลา 01.00 น. หรือ 02.00 น. เพื่อที่จะได้ขยายการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้มากขึ้นและตรงจุด เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยากได้นักท่องเที่ยวที่มาใช้เงินมากกว่าแค่นักเที่ยวกินดื่ม ที่อาจได้แค่นักเที่ยวหน้าใหม่อย่างกลุ่มนักศึกษาที่ไปดื่มกินในสถานบริการใกล้มหาลัยฯ ที่สามารถเปิดยาวได้ถึงตี 4 ซึ่งนี่อาจส่งผลเสียทั้งต่อวิถีชุมชนและเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้มากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ. -719-สำนักข่าวไทย