fbpx

แอมโมเนียรั่วคุมได้แล้ว ชาวบ้านเรียกร้องเร่งแก้ปัญหา

สงขลา 28 มี.ค. – แอมโมเนียโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งส่งออกต่างประเทศใน อ.หาดใหญ่ รั่วไหล จนต้องอพยพคนงานนับร้อยคนออกจากหอพักในโรงงานเมื่อคืนนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถคุมการรั่วไหลได้แล้ว แต่กลิ่นฟุ้งกระจายยังค้างอยู่ ยังกลับเข้าโรงงานไม่ได้ ขณะที่ชาวบ้านเรียกร้องเร่งแก้ปัญหา


เหตุสารแอมโมเนียรั่วในโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งส่งออกต่างประเทศ หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อคืนที่ผ่านมา (27 มี.ค.) โดยรั่วจากไลน์ผลิตและฟุ้งกระจายทั่วภายในโรงงานและบริเวณโดยรอบ ขณะเกิดเหตุมีทีมช่างเข้าเวรอยู่ และได้อพยพคนงานที่พักอาศัยในโรงงานนับร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวเมียนมาและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงโรงงานออกไปอยู่ที่ศูนย์แพทย์ 3 ตำบล ริมถนนกาญจนวนิชและพ้นจากรัศมีการรั่วไหล ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไปตั้งศูนย์ช่วยเหลืออยู่

ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการรั่วไหลของแอมโมเนียได้แล้ว สถานการณ์โดยรวมกลับสู่ภาวะปกติ แต่บริเวณโดยรอบโรงงานยังได้กลิ่นก๊าซแอมโมเนียอยู่ โรงงานจึงประกาศปิด 1 วัน เพื่อซ่อมแซมระบบที่รั่วไหล และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในโรงงานอย่างเด็ดขาด ส่วนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งหญิง-ชายนับร้อยคนที่ต้องอพยพออกจากโรงงานตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ยังกลับเข้าโรงงานไม่ได้ โดยให้อยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่วัดแม่เตยไปก่อน จนกว่าแน่ใจว่าปลอดภัย


ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัย จ.สงขลา และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 อุตสาหกรรม จ.สงขลา กรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบสาเหตุที่ก๊าซแอมโมเนียรั่วและตรวจสอบคุณภาพอากาศ
เบื้องต้นพบสาเหตุที่แอมโมเนียรั่วมาจากท่อแอมโมเนียที่อยู่บนเพดานห้องเย็นรั่ว ทำให้สารฟุ้งกระจายออกมา ขณะนี้ซ่อมแซมได้แล้ว แต่ยังได้กลิ่นก๊าซแอมโมเนียที่รั่วไหลค้างอยู่

ส่วนคนงานและชาวบ้านที่สูดดมสารแอมโมเนียเข้าไปหลายสิบคน บางรายมีอาการอาเจียน เวียนศีรษะ และบางรายอาการรุนแรงถึงขั้นหมดสติต้องนำส่งโรงพยาบาลหลายแห่งในเมืองหาดใหญ่อย่างเร่งด่วน ขณะนี้ปลอดภัยแล้วทุกคน โดยชาวบ้านในละแวกโรงงาน โดยเฉพาะเด็ก ๆ ต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์แพทย์ชั่วคราว จึงอยากให้โรงงานมีการซ่อมบำรุง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้่นอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบจุดที่ ฮ.ปธน.อิหร่านตกแล้ว

เตหะราน 20 พ.ค.- สื่อทางการอิหร่านรายงานอ้างแหล่งข่าวภาคสนามว่า ผลการตรวจตราทางอากาศในพื้นที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซี ประสบเหตุตก สามารถกำหนดพิกัดการตกที่แม่นยำได้แล้ว เว็บไซต์สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยกำลังเดินทางไปยังจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางการ ขณะเดียวกันโดรนของทูร์เคียหรือตุรกีได้ตรวจพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยืนยันว่า โดรนทูร์เคียพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัดและมีฝนตก ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีไรซีโดยสารมาพร้อมกับคณะและหายไปเมื่อวันอาทิตย์ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยได้ค้นหาอย่างละเอียดตามพื้นที่เทือกเขาและเนินเขาใกล้เมืองวาร์ซากานในจังหวัดอาร์เซอร์ไบจานตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

เร่งวิจัยยาฉีดพ่นรักษามะเร็งปอด คาดสำเร็จใน 3 ปี

การรักษามะเร็งมีความหวังมากขึ้น หลังนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใช้เทคโนโลยีรักษามะเร็งสมองได้สำเร็จ และนำมาวิจัยต่อยอดรักษามะเร็งกระดูกอ่อนและมะเร็งตับแนวใหม่ได้ผล ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการวิจัยยารักษามะเร็งปอดแบบฉีดพ่น

รวบแล้วหนุ่มปากี-เมียคนไทย ลวงชายอินเดียฆ่าทิ้งศพ

ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา

Made in Thailand แดนไทยเท่ : จากเมืองเก่าภูเก็ตสู่แพ็กเกจกล่องชิโนโปรตุกีส

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปดู มนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถูกถ่ายทอด ไปสู่กล่องขนมรูปแบบชิโนโปรตุกีส กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ภูเก็ตและไทยที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข่าวแนะนำ

“พิชิต” ยื่นลาออก รมต.ประจำสำนักฯ ให้นายกฯ บริหารประเทศต่อไปได้

“พิชิต” ยื่นหนังสือลาออก รมต.ประจำสำนักฯ แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ ยืนยัน ไม่ยึดติดตำแหน่ง

ตรวจสอบเรือยอชต์ถูกเพลิงไหม้ ขณะจอดลอยลำหน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต

เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ประสานตำรวจตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้เรือยอชต์เสียหายทั้งลำ ขณะผูกทุ่นลอยลำอยู่หน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต คาดเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าฤดูฝนเป็นทางการแล้ว

กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วตัั้งแต่ 20 พ.ค. โดยพบว่า ปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทุกปัจจัย ฤดูฝนปีนี้อาจมีพายุหมุนเขตร้อน 1 – 2 ลูกเท่าค่าเฉลี่ยปกติ สภาวะเอลนีโญจะสิ้นสุด แล้วพลิกกลับเป็นลานีญา ทำให้ฝนตกชุก ดังนั้นช่วงปลายฤดูฝนจะตกชุกหนาแน่นทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางพื้นที่ นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ได้ออกประกาศรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2567 โดยประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูร้อนและเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 พฤษภาคม) เนื่องจากบริเวณประเทศไทยตอนบน สภาพอากาศมีฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 และต่อเนื่อง 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมชั้นบนที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดนำความชื่นจากะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 10 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก เมื่อปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทั้ง 3 ปัจจัยจึงถือว่า เป็นการเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในปีนี้ ทั้งนี้ฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีผนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม สำหรับปรากฏการณ์เอนโซ (ENSO) ขณะนี้อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน โดยเป็นช่วงท้ายของสภาวะเอลนีโญ คาดการณ์ว่า จะเข้าสู่สภาวะเป็นกลางหรือ Neutral ในเดือนมิถุนายน […]