เชียงใหม่ 3 มี.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือยังเผชิญกับหมอกควันและฝุ่นพิษ โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ เช้านี้บางจุดค่าฝุ่นพิษ pm2.5 รายชั่วโมง พุ่งทะลุ 700 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานไป 8 เท่า และยังติดอันดับเมืองมลพิษอันดับ 2 ของโลก
เจ้าหน้าที่ยังคงใช้เฮลิคอปเตอร์ เคเอ 32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตักน้ำในเขื่อนภูมิพลเข้าดับไฟไหม้ป่าในเขตอำเภอสามเงา จ.ตาก เขตติดต่อตอนใต้ของเชียงใหม่ มา 4 วัน รวมเกือบ 40 เที่ยวบิน ใช้น้ำไปกว่า 110,000 ลิตร พื้นที่ป่าถูกเผาไปกว่า 1,000 ไร่ และเช้าวันนี้ในเชียงใหม่ยังพบจุดความร้อนจากการเผาเกือบ 30 จุด
ทำให้ตลอดเช้าวันนี้ตัวเมืองเชียงใหม่ เต็มไปด้วยหมอกควัน จนมองไม่เห็นดอยสุเทพ สัญลักษณ์ของเมือง และดัชนีวัดความหนาแน่นของหมอกควัน พร้อมๆ กับค่าฝุ่น pm2.5 หรือฝุ่นพิษ ที่พุ่งสูงต่อเนื่อง โดยเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษพบค่าฝุ่นพิษ pm2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐานกระทบต่อสุขภาพเกือบทุกพื้นที่สูงสุดที่ ต.หางดง อ.ฮอด เมื่อ 09.00 น. 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
แต่ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานการวัดค่าฝุ่นพิษ pm 2.5 รายชั่วโมง เมื่อเวลา 08.00 น. สูงสุดอยู่ที่บ้านแม่ปาน ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม สูงถึง 776 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร ไป 8 เท่าตัว ก่อนลดลงเหลือกว่า 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ช่วง 09.00 น. ที่ผ่านมา แต่ทำให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองมลพิษติดอันดับ 2 ของโลกจากการจัดอันดับของเว็บไซต์ไอคิวแอร์ เมื่อเวลา 10.00 น. หลังจากเมื่อวานนี้ขึ้นอันดับ 1 ของโลก เมื่อเวลา 15.00 น.
ส่วนที่พิษณุโลก มีสภาพไม่ต่างจากเมืองในหมอกฝุ่น ค่าฝุ่น pm2.5 หรือฝุ่นพิษยังพุ่งต่อเนื่อง ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 158 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่า 2 เท่าตัว ทางจังหวัดต้องแจ้งเตือนประชาชนลดกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่น pm 2.5 ได้ สาเหตุหลักยังเป็นการเผาป่า
เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งหมอกควันฝุ่นพิษเกินค่ามาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ รวมทั้งที่พิจิตร แต่ร้านกาแฟที่นั่นอย่างร้านชิมฮง ตลาดย่านเก่าวังกรด ใช้วิธีนำต้นเคราฤาษี ซึ่งเป็นไม้ฟอกอากาศมาประดับรอบร้านเพื่อกันฝุ่น พร้อมเปิดละอองน้ำขนาดเล็กเพื่อดักจับฝุ่น ซึ่งช่วยทำให้อากาศในร้านดีขึ้น. – สำนักข่าวไทย