เจ้าของสวนทุเรียน ถูกยิงร่างพรุน

จันทบุรี 2 ต.ค.-พบศพหนุ่มเจ้าของสวนทุเรียน จันทบุรี ถูกยิงร่างพรุนเสียชีวิตบนยอดเขา ขณะไปดูท่อส่งน้ำเข้าสวน ตำรวจเร่งหาเบาะแสหลักฐานต่างๆ เพื่อล่าตัวมือปืน

ศูนย์วิทยุกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืน เหตุเกิดบนเขาบ้านบุญมาก หมู่ 8 บ้านจันตาแป๊ะ ตำบลจันทเขม อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ


โดยตำรวจและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ต้องเดินทางเดินขึ้นไปบนเขาเกือบ 1 กิโลเมตร ทางขึ้นค่อนข้างสูงชัน และลื่น เนื่องจากมีฝนตกลงมา รวมทั้งจุดเกิดเหตุเป็นป่ารกทึบ เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย นอนจมกองเลือดเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้า มีอาวุธปืนไรเฟิล เก็บเสียง ขนาด .22 คาดว่าน่าจะเป็นของผู้เสียชีวิต อยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอก โดยผู้เสียชีวิต นุ่งกางเกงขายาวลายพรางทหาร สีเขียว และสวมเสื้อแขนยาวลายพรางสีน้ำเงิน ทราบชื่อในเวลาต่อมาว่า นายเฉลย เดือนแรม อายุประมาณ 40 ปี เป็นเจ้าของสวนทุเรียน ซึ่งอยู่ตีนเนินเขาใกล้จุดเกิดเหตุ

จากการตรวจตามร่างกายของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และร้อยเวรสอบสวน พบว่าผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกยิงกระสุนไม่ทราบชนิดและขนาด ที่บริเวณใบหน้า และตามลำตัว รวม 5-6 แห่ง นอกจากนี้ยังพบว่าปืนไรเฟิลของผู้เสียชีวิต ขึ้นลำและมีกระสุนอยู่ในรังเพลิง 1 นัด และปืนถูกปลดเซฟ พร้อมใช้งาน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมถ่ายภาพจุดเกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นแนวทางการสืบสวน


จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาชีพทำสวนทุเรียน อยู่บริเวณตีนเขา ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้เสียชีวิตเดินขึ้นไปบนเขาเพื่อดูท่อน้ำที่ต่อลงมาจากด้านบน เพื่อนำน้ำมาใช้ในสวน ปรากฏว่า เมื่อประมาณ 11.00 น. ได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างได้ยินกันทุกคน จนกระทั้งมีผู้มาพบศพนายเฉลย นอนเสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้น ตำรวจได้สอบปากคำพยานและญาติ ของครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว เพื่อใช้เป็นแนวทางการสืบสวน หาเบาะแส ชนวนสาเหตุ เพื่อเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย