fbpx

นายกฯ ยืนยันซื้ออาวุธตามความจำเป็นเร่งด่วน 

 รัฐสภา 22 ก.ค. – นายกฯ ชี้แจงจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ตามความจำเป็นเร่งด่วน ยืนยันไม่เคยไปก้าวล่วงอำนาจศาล   ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเข้าสู่ระบบการศึกษา


นายธนกร วังบุญคงชนะ  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ เวลา 12.43 น. ห้องประชุมพระสุริยัน ชั้น 2 อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยได้ชี้แจงถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ว่าได้ชี้แจงให้ทราบหลายครั้งแล้ว สิ่งที่ชี้แจงมาก็มีเหตุมีผล โดยพิจารณาถึงความจำเป็นและความเร่งด่วน ส่วนการกล่าวหาในเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญนั้น ได้รับทราบข้อมูลแล้วบางประการ อะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะเข้าสู่กระบวนการดำเนินการต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของผู้เห็นต่าง ยืนยันการดำเนินการต่าง ๆ ได้ให้นโยบายมาอย่างต่อเนื่อง ให้ความระมัดระวังอย่างที่สุด  สิ่งใดแจ้งเตือนได้ก็ให้แจ้งเตือน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนต่าง ๆ ที่อาจจะได้รับคำชี้แจงที่ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนไป ก็ได้มีการพูดคุยถึงผู้ปกครอง เพื่อไม่ให้ต้องอยู่ในอันตรายและถูกดำเนินคดี อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องของศาลสถิตยุติธรรมและศาลเยาวชน ยืนยันไม่เคยใช้อำนาจไปก้าวล่วงอำนาจศาลต่าง ๆ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นการพูดจาเรื่องอะไรขอให้ระมัดระวังไม่ให้ไปละเมิดอำนาจศาล ส่วนในเรื่องสิทธิมนุษยชนนั้น ยืนยันว่าได้ให้อย่างเต็มที่ คิดว่าได้ให้เกิน 100% และพยายามที่จะผ่อนหนัก ผ่อนเบา ผ่อนสั้น ผ่อนยาวให้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมการเคลื่อนไหวจึงเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ที่มีรัฐบาลและมีพรรคการเมืองที่เข้ามาอยู่ตรงนี้  ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด  และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศมองออก โดยเฉพาะการที่จะไปพูดจาในมหาวิทยาลัย โรงเรียนต่าง ๆ เพื่อทำลายระบบเพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดนั้น คิดว่าคนไทยคงไม่ยอม ซึ่งจะมาโทษเจ้าหน้าที่คงไม่ได้


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องการป้องกันประเทศ การดูแลชายแดนและน่านฟ้าต่าง ๆ ว่า ได้มีการชี้แจงเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว  แต่ก็พยายามจะฟื้นขึ้นมาอีกให้ได้ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งจะถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่ทำงานด้วยระบบและความร่วมมือประสานสัมพันธ์กับต่างประเทศ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นอะไรก็เป็นเพื่อนบ้านของประเทศไทย ทั้งนี้ เรื่องกิจการภายในเป็นเรื่องของประเทศนั้นรวมถึงเรื่องการต่อสู้ด้วย ซึ่งเป็นประเทศไทยก็คงไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายในกิจการประเทศเช่นกัน จึงขอให้ระมัดระวังด้วยในการพูดจาต่าง ๆ โดยสิ่งที่ปรากฏออกมาก็มีทั้งจริงและไม่จริง ทั้งนี้ได้มีการสอบถามไปแล้วว่าได้มีการดูแลหรือไม่ ซึ่งได้รับการรายงานว่ามีการดูแลจากพื้นที่แล้วทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย

ส่วนกรณีที่ถามว่าทำไมไม่รับเข้ามาตามหลักสิทธิมนุษยชนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเคยรับมาแล้วหลายแสนคน วันนี้ก็เหลืออยู่เกือบแสนคน โดยนำมาดูแลให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเมื่อเกิดการสู้รบในฝั่งประเทศนั้น และเป็นการอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง มีการดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนทั้งการดูแลในเรื่องอาหาร ยารักษาต่าง ๆ โดยไม่เลือกปฏิบัติ และให้กลับไปเมื่อสถานการณ์ภายในประเทศสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าชายแดนประเทศไทยเป็นชายแดนที่ติดกันกับประเทศเพื่อนบ้าน และไม่มีอะไรที่ชัดเจนนอกจากแนวที่ยึดถือกันไว้ตามธรรมชาติ  และอยู่ห่างกันระหว่างไทยกับกลุ่มต่อต้านไม่เกินประมาณ 500 เมตร  เพราะฉะนั้นการที่จะมีการปะทะกันระหว่างฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่วนหนึ่งก็หันหลังมาไทย  อีกพวกก็หันหน้ามาที่ไทย ดั้งนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาขึ้นได้มีมากพอสมควร ซึ่งก็ได้มีการเตือนไปหลายครั้งโดยการใช้อาวุธกระสุนควัน และมีการเตือนเมื่อมีอาวุธกระสุนมาตกที่ฝั่งไทย ซึ่งก็ได้รับการปฏิบัติหยุด แต่หากว่ายังฝ่าฝืนอยู่ก็ต้องใช้อาวุธจริงออกไป เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังอย่างที่สุด

ส่วนกรณีที่มีการนำภาพนายกรัฐมนตรีมาปรับมาเปรียบเทียบเมื่อเดินทางไปต่างประเทศแล้วไม่ได้รับการต้อนรับนั้น เป็นภาพที่นำมาประกอบกันขึ้นทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องจริง โดยขอให้ไปขอข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศได้ 


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่อง กยศ. ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนที่ออกนอกระบบการศึกษา ได้มอบหมายไปยังกระทรวงศึกษาธิการซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการนำกลับเข้ามาในระบบ ยืนยันรัฐบาลทำอย่างเต็มที่ โดยต้องการให้คนมีความรับผิดชอบเมื่อได้มีการกู้เงินไปแล้วจะต้องชำระคืนตามเวลาที่กำหนด  แต่ต้องไม่เกิดเป็นภาระของประชาชนในการชำระดอกเบี้ย  จึงได้มีการออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยช่วยลดผลกระทบประชาชน ย้ำว่ารัฐบาลยังให้ความสำคัญกับกลุ่มของผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการศึกษาให้เข้าสู่ระบบการศึกษา มุ่งเน้นไปยังสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ซึ่งวันนี้เราต้องร่วมมือกันภายในกรอบที่สามารถกระทำได้ โดยเป็นไปตามกติกา เคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ เพื่อความอยู่รอดของเราทุกคน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่มีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก ว่าไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น  ซึ่งมีทั้งในส่วนของเรื่องที่เป็นความจริงและไม่เป็นความจริง เพราะไม่อยากให้เกิดความเสียหาย อยากให้ทุกคนเคารพในกฎหมายด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเพกาซัส ให้เป็นหน้าที่ของส่วนกฎหมายดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน  แต่เป็นเวลาที่ควรพูดในสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติให้มากที่สุด.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้