นายกฯ ยืนยันซื้ออาวุธตามความจำเป็นเร่งด่วน 

 รัฐสภา 22 ก.ค. – นายกฯ ชี้แจงจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ตามความจำเป็นเร่งด่วน ยืนยันไม่เคยไปก้าวล่วงอำนาจศาล   ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเข้าสู่ระบบการศึกษา


นายธนกร วังบุญคงชนะ  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ เวลา 12.43 น. ห้องประชุมพระสุริยัน ชั้น 2 อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยได้ชี้แจงถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ว่าได้ชี้แจงให้ทราบหลายครั้งแล้ว สิ่งที่ชี้แจงมาก็มีเหตุมีผล โดยพิจารณาถึงความจำเป็นและความเร่งด่วน ส่วนการกล่าวหาในเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญนั้น ได้รับทราบข้อมูลแล้วบางประการ อะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะเข้าสู่กระบวนการดำเนินการต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของผู้เห็นต่าง ยืนยันการดำเนินการต่าง ๆ ได้ให้นโยบายมาอย่างต่อเนื่อง ให้ความระมัดระวังอย่างที่สุด  สิ่งใดแจ้งเตือนได้ก็ให้แจ้งเตือน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนต่าง ๆ ที่อาจจะได้รับคำชี้แจงที่ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนไป ก็ได้มีการพูดคุยถึงผู้ปกครอง เพื่อไม่ให้ต้องอยู่ในอันตรายและถูกดำเนินคดี อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องของศาลสถิตยุติธรรมและศาลเยาวชน ยืนยันไม่เคยใช้อำนาจไปก้าวล่วงอำนาจศาลต่าง ๆ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นการพูดจาเรื่องอะไรขอให้ระมัดระวังไม่ให้ไปละเมิดอำนาจศาล ส่วนในเรื่องสิทธิมนุษยชนนั้น ยืนยันว่าได้ให้อย่างเต็มที่ คิดว่าได้ให้เกิน 100% และพยายามที่จะผ่อนหนัก ผ่อนเบา ผ่อนสั้น ผ่อนยาวให้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมการเคลื่อนไหวจึงเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ที่มีรัฐบาลและมีพรรคการเมืองที่เข้ามาอยู่ตรงนี้  ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด  และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศมองออก โดยเฉพาะการที่จะไปพูดจาในมหาวิทยาลัย โรงเรียนต่าง ๆ เพื่อทำลายระบบเพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดนั้น คิดว่าคนไทยคงไม่ยอม ซึ่งจะมาโทษเจ้าหน้าที่คงไม่ได้


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องการป้องกันประเทศ การดูแลชายแดนและน่านฟ้าต่าง ๆ ว่า ได้มีการชี้แจงเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว  แต่ก็พยายามจะฟื้นขึ้นมาอีกให้ได้ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งจะถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่ทำงานด้วยระบบและความร่วมมือประสานสัมพันธ์กับต่างประเทศ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นอะไรก็เป็นเพื่อนบ้านของประเทศไทย ทั้งนี้ เรื่องกิจการภายในเป็นเรื่องของประเทศนั้นรวมถึงเรื่องการต่อสู้ด้วย ซึ่งเป็นประเทศไทยก็คงไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายในกิจการประเทศเช่นกัน จึงขอให้ระมัดระวังด้วยในการพูดจาต่าง ๆ โดยสิ่งที่ปรากฏออกมาก็มีทั้งจริงและไม่จริง ทั้งนี้ได้มีการสอบถามไปแล้วว่าได้มีการดูแลหรือไม่ ซึ่งได้รับการรายงานว่ามีการดูแลจากพื้นที่แล้วทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย

ส่วนกรณีที่ถามว่าทำไมไม่รับเข้ามาตามหลักสิทธิมนุษยชนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเคยรับมาแล้วหลายแสนคน วันนี้ก็เหลืออยู่เกือบแสนคน โดยนำมาดูแลให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเมื่อเกิดการสู้รบในฝั่งประเทศนั้น และเป็นการอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง มีการดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนทั้งการดูแลในเรื่องอาหาร ยารักษาต่าง ๆ โดยไม่เลือกปฏิบัติ และให้กลับไปเมื่อสถานการณ์ภายในประเทศสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าชายแดนประเทศไทยเป็นชายแดนที่ติดกันกับประเทศเพื่อนบ้าน และไม่มีอะไรที่ชัดเจนนอกจากแนวที่ยึดถือกันไว้ตามธรรมชาติ  และอยู่ห่างกันระหว่างไทยกับกลุ่มต่อต้านไม่เกินประมาณ 500 เมตร  เพราะฉะนั้นการที่จะมีการปะทะกันระหว่างฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่วนหนึ่งก็หันหลังมาไทย  อีกพวกก็หันหน้ามาที่ไทย ดั้งนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาขึ้นได้มีมากพอสมควร ซึ่งก็ได้มีการเตือนไปหลายครั้งโดยการใช้อาวุธกระสุนควัน และมีการเตือนเมื่อมีอาวุธกระสุนมาตกที่ฝั่งไทย ซึ่งก็ได้รับการปฏิบัติหยุด แต่หากว่ายังฝ่าฝืนอยู่ก็ต้องใช้อาวุธจริงออกไป เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังอย่างที่สุด

ส่วนกรณีที่มีการนำภาพนายกรัฐมนตรีมาปรับมาเปรียบเทียบเมื่อเดินทางไปต่างประเทศแล้วไม่ได้รับการต้อนรับนั้น เป็นภาพที่นำมาประกอบกันขึ้นทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องจริง โดยขอให้ไปขอข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศได้ 


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่อง กยศ. ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนที่ออกนอกระบบการศึกษา ได้มอบหมายไปยังกระทรวงศึกษาธิการซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการนำกลับเข้ามาในระบบ ยืนยันรัฐบาลทำอย่างเต็มที่ โดยต้องการให้คนมีความรับผิดชอบเมื่อได้มีการกู้เงินไปแล้วจะต้องชำระคืนตามเวลาที่กำหนด  แต่ต้องไม่เกิดเป็นภาระของประชาชนในการชำระดอกเบี้ย  จึงได้มีการออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยช่วยลดผลกระทบประชาชน ย้ำว่ารัฐบาลยังให้ความสำคัญกับกลุ่มของผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการศึกษาให้เข้าสู่ระบบการศึกษา มุ่งเน้นไปยังสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ซึ่งวันนี้เราต้องร่วมมือกันภายในกรอบที่สามารถกระทำได้ โดยเป็นไปตามกติกา เคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ เพื่อความอยู่รอดของเราทุกคน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่มีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก ว่าไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น  ซึ่งมีทั้งในส่วนของเรื่องที่เป็นความจริงและไม่เป็นความจริง เพราะไม่อยากให้เกิดความเสียหาย อยากให้ทุกคนเคารพในกฎหมายด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเพกาซัส ให้เป็นหน้าที่ของส่วนกฎหมายดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน  แต่เป็นเวลาที่ควรพูดในสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติให้มากที่สุด.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]