นายกฯ ยืนยันซื้ออาวุธตามความจำเป็นเร่งด่วน 

 รัฐสภา 22 ก.ค. – นายกฯ ชี้แจงจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ตามความจำเป็นเร่งด่วน ยืนยันไม่เคยไปก้าวล่วงอำนาจศาล   ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเข้าสู่ระบบการศึกษา


นายธนกร วังบุญคงชนะ  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ เวลา 12.43 น. ห้องประชุมพระสุริยัน ชั้น 2 อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยได้ชี้แจงถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ว่าได้ชี้แจงให้ทราบหลายครั้งแล้ว สิ่งที่ชี้แจงมาก็มีเหตุมีผล โดยพิจารณาถึงความจำเป็นและความเร่งด่วน ส่วนการกล่าวหาในเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญนั้น ได้รับทราบข้อมูลแล้วบางประการ อะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะเข้าสู่กระบวนการดำเนินการต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของผู้เห็นต่าง ยืนยันการดำเนินการต่าง ๆ ได้ให้นโยบายมาอย่างต่อเนื่อง ให้ความระมัดระวังอย่างที่สุด  สิ่งใดแจ้งเตือนได้ก็ให้แจ้งเตือน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนต่าง ๆ ที่อาจจะได้รับคำชี้แจงที่ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนไป ก็ได้มีการพูดคุยถึงผู้ปกครอง เพื่อไม่ให้ต้องอยู่ในอันตรายและถูกดำเนินคดี อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องของศาลสถิตยุติธรรมและศาลเยาวชน ยืนยันไม่เคยใช้อำนาจไปก้าวล่วงอำนาจศาลต่าง ๆ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นการพูดจาเรื่องอะไรขอให้ระมัดระวังไม่ให้ไปละเมิดอำนาจศาล ส่วนในเรื่องสิทธิมนุษยชนนั้น ยืนยันว่าได้ให้อย่างเต็มที่ คิดว่าได้ให้เกิน 100% และพยายามที่จะผ่อนหนัก ผ่อนเบา ผ่อนสั้น ผ่อนยาวให้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมการเคลื่อนไหวจึงเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ที่มีรัฐบาลและมีพรรคการเมืองที่เข้ามาอยู่ตรงนี้  ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด  และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศมองออก โดยเฉพาะการที่จะไปพูดจาในมหาวิทยาลัย โรงเรียนต่าง ๆ เพื่อทำลายระบบเพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดนั้น คิดว่าคนไทยคงไม่ยอม ซึ่งจะมาโทษเจ้าหน้าที่คงไม่ได้


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องการป้องกันประเทศ การดูแลชายแดนและน่านฟ้าต่าง ๆ ว่า ได้มีการชี้แจงเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว  แต่ก็พยายามจะฟื้นขึ้นมาอีกให้ได้ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งจะถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่ทำงานด้วยระบบและความร่วมมือประสานสัมพันธ์กับต่างประเทศ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นอะไรก็เป็นเพื่อนบ้านของประเทศไทย ทั้งนี้ เรื่องกิจการภายในเป็นเรื่องของประเทศนั้นรวมถึงเรื่องการต่อสู้ด้วย ซึ่งเป็นประเทศไทยก็คงไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายในกิจการประเทศเช่นกัน จึงขอให้ระมัดระวังด้วยในการพูดจาต่าง ๆ โดยสิ่งที่ปรากฏออกมาก็มีทั้งจริงและไม่จริง ทั้งนี้ได้มีการสอบถามไปแล้วว่าได้มีการดูแลหรือไม่ ซึ่งได้รับการรายงานว่ามีการดูแลจากพื้นที่แล้วทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย

ส่วนกรณีที่ถามว่าทำไมไม่รับเข้ามาตามหลักสิทธิมนุษยชนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเคยรับมาแล้วหลายแสนคน วันนี้ก็เหลืออยู่เกือบแสนคน โดยนำมาดูแลให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเมื่อเกิดการสู้รบในฝั่งประเทศนั้น และเป็นการอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง มีการดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนทั้งการดูแลในเรื่องอาหาร ยารักษาต่าง ๆ โดยไม่เลือกปฏิบัติ และให้กลับไปเมื่อสถานการณ์ภายในประเทศสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าชายแดนประเทศไทยเป็นชายแดนที่ติดกันกับประเทศเพื่อนบ้าน และไม่มีอะไรที่ชัดเจนนอกจากแนวที่ยึดถือกันไว้ตามธรรมชาติ  และอยู่ห่างกันระหว่างไทยกับกลุ่มต่อต้านไม่เกินประมาณ 500 เมตร  เพราะฉะนั้นการที่จะมีการปะทะกันระหว่างฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่วนหนึ่งก็หันหลังมาไทย  อีกพวกก็หันหน้ามาที่ไทย ดั้งนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาขึ้นได้มีมากพอสมควร ซึ่งก็ได้มีการเตือนไปหลายครั้งโดยการใช้อาวุธกระสุนควัน และมีการเตือนเมื่อมีอาวุธกระสุนมาตกที่ฝั่งไทย ซึ่งก็ได้รับการปฏิบัติหยุด แต่หากว่ายังฝ่าฝืนอยู่ก็ต้องใช้อาวุธจริงออกไป เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังอย่างที่สุด

ส่วนกรณีที่มีการนำภาพนายกรัฐมนตรีมาปรับมาเปรียบเทียบเมื่อเดินทางไปต่างประเทศแล้วไม่ได้รับการต้อนรับนั้น เป็นภาพที่นำมาประกอบกันขึ้นทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องจริง โดยขอให้ไปขอข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศได้ 


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่อง กยศ. ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนที่ออกนอกระบบการศึกษา ได้มอบหมายไปยังกระทรวงศึกษาธิการซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการนำกลับเข้ามาในระบบ ยืนยันรัฐบาลทำอย่างเต็มที่ โดยต้องการให้คนมีความรับผิดชอบเมื่อได้มีการกู้เงินไปแล้วจะต้องชำระคืนตามเวลาที่กำหนด  แต่ต้องไม่เกิดเป็นภาระของประชาชนในการชำระดอกเบี้ย  จึงได้มีการออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยช่วยลดผลกระทบประชาชน ย้ำว่ารัฐบาลยังให้ความสำคัญกับกลุ่มของผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการศึกษาให้เข้าสู่ระบบการศึกษา มุ่งเน้นไปยังสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ซึ่งวันนี้เราต้องร่วมมือกันภายในกรอบที่สามารถกระทำได้ โดยเป็นไปตามกติกา เคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ เพื่อความอยู่รอดของเราทุกคน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่มีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก ว่าไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น  ซึ่งมีทั้งในส่วนของเรื่องที่เป็นความจริงและไม่เป็นความจริง เพราะไม่อยากให้เกิดความเสียหาย อยากให้ทุกคนเคารพในกฎหมายด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเพกาซัส ให้เป็นหน้าที่ของส่วนกฎหมายดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน  แต่เป็นเวลาที่ควรพูดในสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติให้มากที่สุด.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]