ทำเนียบรัฐบาล 24 มิ.ย.-นายกฯ ยินดีส่งออกทุเรียนไทยไปจีนทะลุเกินเป้า 5 แสนตัน ย้ำคุมคุณภาพ มาตรฐานสอดรับนโยบาย “Zero COVID” เล็งขยายผล GMP Plus ทุเรียนภาคใต้หนุนโควตาส่งออกเพิ่ม
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่หน่วยงานภาครัฐระหว่างไทย-จีนร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือและพัฒนาช่องทางการส่งออกผลไม้ไทยอย่างต่อเนื่องจนเกิดความก้าวหน้าในหลายมิติ และยินดีที่เอกอัครราชทูตจีนประทับใจและเชื่อมั่นต่อคุณภาพมาตรฐานของทุเรียนไทยยิ่งขึ้นหลังเดินทางเยือนสวนผลไม้จังหวัดจันทบุรี-ระยอง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาตรการควบคุมมาตรฐานสินค้าทางการเกษตรก่อนส่งออกสู่ประเทศจีน ตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero COVID) ของจีน เพิ่มความมั่นใจผลไม้ที่ส่งออกไปยังตลาดจีนมีคุณภาพและความปลอดภัย โดยทุเรียนไทยในจีนได้รับความนิยมและครองอันดันหนึ่งในตลาดจีนมาอย่างต่อเนื่อง มีตัวเลขการส่งออกทุเรียนปีนี้จากไทยไปจีนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-17 มิถุนายน 2565 เป็นจำนวนกว่า 5.09 แสนตัน รวมมูลค่า 54,418.45 ล้านบาท ทำลายสถิติตัวเลขการส่งออกในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ที่ปริมาณ 4.25 แสนตัน อีกทั้งทำลายสถิติส่งออกผลไม้สดชนิดเดียวเกินครึ่งล้านตันภายในเวลา 6 เดือน
นายธนกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ และ นาย หาน จื้อเฉียงเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และคณะได้ร่วมเยี่ยมชมสวนผลไม้จังหวัดจันทบุรี-ระยอง ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ชื่นชม และประทับใจที่เกษตรกรและผู้ประกอบการสวนทุเรียนตั้งใจควบคุมมาตรฐานการผลิตตามหลักจีเอพี พลัส (GAP Plus : Good Agriculture Practices Plus) นับแต่กระบวนการปลูก การคัดคุณภาพ การฆ่าเชื้อปนเปื้อน และการขนส่ง ภายใต้นโยบาย Zero COVID ทำให้มั่นใจว่าชาวจีนจะได้บริโภคทุเรียนไทยคุณภาพดี มีมาตรฐานความปลอดภัยและอร่อย โดยกรมวิชาการเกษตร คาดการณ์ว่าทุเรียนใต้ในปีนี้จะให้ผลผลิตเร็วกว่าทุกปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม และจะมีรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงเล็งขยายผลมาตรการ GMP Plus ไปสู่การส่งออกทุเรียนในภาคใต้อีกด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐของไทยได้บูรณาการการทำงานร่วมกับจีน เพื่อส่งเสริมการขายผลไม้ไทยโดยกำลังพัฒนาช่องทางการค้าสู่ระบบออนไลน์ (Online) ในขณะที่ระบบออฟไลน์ (Offline) ก็ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมทั้งผลักดันการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยในตลาดจีนผ่านห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นในจีน โดยมุ่งหวังให้ตลาดผลไม้ไทยในจีนเกิดการขยายตัวผ่านห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตมากยิ่งขึ้นในอนาคต
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-จีนที่ยังแน่นแฟ้น แม้จะประสบกับช่วงเวลาของความท้าทาย โดยพร้อมต่อยอดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรค เพื่อการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศอยู่เสมอ รวมทั้งขอบคุณเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ร่วมกันดำเนินตามมาตรการของรัฐอย่างเข้มงวด เพื่อชื่อเสียงของประเทศในการส่งออกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพตามที่ประเทศปลายทางกำหนด นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพของทุเรียนและผลไม้ไทยที่พร้อมแข่งขันในตลาดโลก พร้อมกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งส่งเสริม และพัฒนาขีดความสามารถด้านการผลิต และการส่งออกสินค้าให้ได้มาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาดโลก สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค เพื่อกระจายรายได้สู่เกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่น วางโครงสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง เพื่อต่อยอดสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย