ศปถ. สรุปสถิติ 2 วัน เกิดอุบัติเหตุ 538 ครั้ง เสียชีวิตแล้ว 73 ราย

กทม. 13 เม.ย.-ศปถ. สรุปสถิติวันที่ 12 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุทางถนน 301 ครั้ง เสียชีวิต 47 ราย สะสม 2 วัน ผู้เสียชีวิต 73 ราย ผู้บาดเจ็บ 530 คน กำชับจังหวัดคุมเข้มการขับรถเร็วและไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ใช้กลไกระดับพื้นที่เน้นดูแลเส้นทางสายรอง-เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่

ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เมษายน 2565 เกิดอุบัติเหตุ 301 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 47 ราย ผู้บาดเจ็บ 292 คน สถิติอุบัติเหตุสะสม 2 วัน (11-12 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 538 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 73 ราย ผู้บาดเจ็บ 530 คน โดยการขับรถเร็วและดื่มแล้วขับยังคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เน้นย้ำจังหวัดเพิ่มความเข้มข้นกวดขันการขับรถเร็วและการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต พร้อมประสานจังหวัดใช้กลไกในระดับพื้นที่ดำเนินมาตรการทางสังคมอย่างเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่บนเส้นทางสายรอง เพื่อดูแลและป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน


นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมืองในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 301 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 47 ราย ผู้บาดเจ็บ 292 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 36.88 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.25 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.94 รถปิกอัพ 6.15 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.20 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.88 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 83.72 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 17.01-18.00 น. ร้อยละ 9.97 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 20.94 โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (14 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น และนครศรีธรรมราช (จังหวัดละ 12 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (4 ราย) ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,902 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,281 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 400,647 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 72,886 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 20,731 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 20,136 ราย

สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 2 วัน (วันที่ 11-12 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 538 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 73 ราย ผู้บาดเจ็บ 530 คน โดยสาเหตุหลักยังคงเกิดจากการขับรถเร็วและการดื่มแล้วขับ ทั้งนี้ พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (24 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา (จังหวัดละ 4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (26 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 34 จังหวัด


นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบว่า สาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วและการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ทำให้ดัชนีความรุนแรงของอุบัติเหตุสูง ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ ค่อนข้างสูง จึงได้ให้จังหวัดวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ประกอบกับในวันนี้คาดการจราจรบนถนนสายหลักจะมีปริมาณรถไม่หนาแน่น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้ ศปถ. จึงได้กำชับให้จังหวัดกวดขันการใช้ความเร็วเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ และรถตู้โดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรุนแรง สำหรับวันนี้เป็นวันแรกของวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่ได้เดินทางถึงจุดหมาย คาดว่าจะมีการใช้เส้นทางถนนสายรองโดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ อบต.และหมู่บ้าน จึงได้ประสานจังหวัดใช้กลไกในระดับพื้นที่ดำเนินมาตรการทางสังคมอย่างเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบนเส้นทางสายรอง รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานของด่านชุมชน จุดตรวจ และจุดสกัด ในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้านดูแลและป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ท้ายนี้ ขอฝากเตือนประชาชนคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญเมื่อใช้รถใช้ถนน และขอเชิญชวนร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์และวัฒนธรรมไทย ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์วิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย” ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 เพื่อให้ปีใหม่ไทยปีนี้มีแต่ความปลอดภัย สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร