ก.ต่างประเทศ 28 ก.พ. – เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ เผยเตรียมส่งคนไทยในยูเครนชุดแรกกลับประเทศไทย พรุ่งนี้ คาดถึงไทย 2 มี.ค. พร้อมกักตัวที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ตามมาตรการสาธารณสุข รับห่วงคนไทย 14 คน ที่อยู่กรุงคาเคียฟ เนื่องจากสถานการณ์ยังรุนแรง และมีชายแดนติดกับรัสเซีย แต่ขณะนี้ทุกคนยังปลอดภัย
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สัมภาษณ์พิเศษ นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เรื่องสถานการณ์ในยูเครนและภารกิจช่วยเหลือคนไทย ผ่านเฟซบุ๊กเพจกระทรวงการต่างประเทศ Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand
โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ กล่าวว่า คนไทยที่อยู่ในยูเครน มีจำนวน 255 คน ซึ่งถือว่าไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นพนักงานสปาในร้านนวดของไทย ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยูเครน และอีกส่วนหนึ่งประมาณ 20 คน ที่มีครอบครัวอยู่ในยูเครน โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ มีช่องทางในการติดต่อคนไทยผ่านกลุ่มไลน์ จากการสอบถามพบว่า ในสถานการณ์สู้รบที่เกิดขึ้น คนไทยมีผลกระทบ ทั้งเรื่องความปลอดภัย หลายคนบอกว่า แทบจะหนีตายออกมา และทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัย ส่วนในระยะกลางมีผลกระทบเรื่องอาชีพที่อาจจะสูญเสียไป และไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมา ทำให้สูญเสียรายได้ของครอบครัว ซึ่งส่วนนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ จะพูดคุยกับนายจ้างว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง หลังสถานการณ์คลี่คลาย
เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ กล่าวว่า เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนได้ตระหนักถึงความตึงเครียด จึงได้ ส่งข้อมูลผ่านช่องทางกลุ่มไลน์ที่มีอยู่ และเปิดเทเลแกรม เพื่อพูดคุยกับคนไทยในยูเครน และนายจ้าง 33 คน เป็นภาษายูเครน เพื่อง่ายกับการติดต่อสื่อสาร รวมถึงมีเฟซบุ๊กคนไทยในยูเครน ที่ส่งต่อข่าวสารของสถานทูตไปยังคนไทย โดยคนไทยในยูเครนจะกระจายอยู่หลายเมือง ถือเป็นความท้าทายในการอพยพ ซึ่งส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในกรุงเคียฟ 148 คน เมืองโอเดสซา 48 คน เมืองลวีฟ 14 คน ถือเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด เพราะอยู่ใกล้กับโปแลนด์ แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ คนไทยที่อยู่ในกรุงคาเคียฟ 14 คน เพราะเป็นเมืองที่อยู่ติดชายแดนรัสเซีย และยังไม่สามารถเดินทางออกมาได้
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ได้วางแผนประเมินสถานการณ์เรื่องการอพยพคนไทย โดยได้ประชุมร่วมกันกับหลายหน่วยงานในประเทศไทย ทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกคนไทยในการเดินทางกลับได้ทันที ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 รวมถึงบริษัท การบินไทย ที่แสดงความพร้อมในการนำคนไทยกลับบ้าน
ส่วนแผนการอพยพคนไทยนั้น เดิมทีใช้เส้นทางหลักจากกรุงเคียฟมายังเมืองลวีฟ ซึ่งติดกับชายแดนโปแลนด์ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ จึงตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่เมืองลวีฟ ทันที เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อรับคนไทยที่จะเดินทางมา หรือทางสถานทูตจัดรถไปรับ ขณะที่คนไทยในเมืองคาเคียฟ ยังไม่สามารถออกมาได้ เพราะสถานการณ์ยังแย่มาก จึงต้องขอให้อยู่ในที่ตั้ง แต่อยู่ภายใต้การดูแลของนายจ้างอย่างใกล้ชิด และทุกคนยังปลอดภัยดี
เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ กล่าวว่า สำหรับการอพยพคนไทย เมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) สามารถทำได้ 99 คน เดินทางมาถึงศูนย์ปฏิบัติการฯ ในเวลา 03.00 น. ของวันนี้ (28 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่นยูเครน ซึ่งใช้ 2 เส้นทางในการอพยพ คือ 60 คนแรก มาจากศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่ตั้งอยู่ในเมืองลวีฟ เพื่อมายังกรุงวอร์ซอ และจะขึ้นเครื่องบินกลับ ส่วนอีกเส้นทางได้รับความช่วยเหลือจากสถานทูตไทย ณ กรุงบูคาเรสต์ และโรมาเนีย ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายคนไทยจากเมืองโอเดสซา 39 คน ที่อยู่ทางตอนใต้ของยูเครน มาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งการอพยพมีทั้งการเดินเท้า ลงเรือเฟอร์รี และขึ้นรถบัสที่สถานทูตไทย ณ กรุงบูคาเรสต์ จัดให้ ต่อมายังกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย โดยขณะนี้หลายคนยังคงพักผ่อน เพราะเหนื่อยล้าจากการอพยพ
เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) จะดำเนินการทยอยให้คนไทยได้ขึ้นเครื่องบินสายการบินไทย เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งจะต้องต่อเครื่องที่กรุงแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินตรงจากโปแลนด์ คาดว่าน่าจะถึงประเทศไทยในวันที่ 2 มีนาคม 2565 โดยจะต้องกักตัวที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข 5-7 วัน และจะแจ้งเรื่องเที่ยวบินผ่านทาง Facebook ของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ เพื่อให้ทราบข่าวสาร เช่นเดียวกับคนไทยที่อยู่ในกรุงบูคาเรสต์ จะได้ขึ้นเครื่องบินเพื่อไปต่อยังแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เพื่อบินกลับประเทศไทย. – สำนักข่าวไทย